"กลับเข้าไปในอุโมงค์ คุณชนะในเกม คุณได้สามแต้ม ใช่คุณสุดยอดมากในวันนี้ คุณกลับเข้าสู่เส้นทางลุ้นแชมป์แต่กลับเข้าไปในอุโมงค์ซะ"
เบื้องหลังเกมบิ๊กแมตช์ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มีหลายอย่างน่าพูดถึงแต่หนึ่งในนั้นที่ควรจะนำมาถกกันซะทีก็เป็นประเด็นที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ใส่เต็มดอกผ่านไมโครโฟนถึงการดีใจที่เขาคิดว่าเยอะเกินไปของทางผู้ชนะ
ผมอยู่ในสนามด้วยเมื่อเย็นวันอาทิตย์ ผมก็ได้สัมผัสถึงความสุขที่ล้นทะลักจากเหล่า กูนเนอร์ส รอบด้าน แน่นอนเพราะมันไม่ใช่แค่สามแต้มทั่วไป มันเป็นสามแต้มที่ส่งผลให้พวกเขากลับไปได้ไล่ล่าถ้วยพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
สำหรับทีมที่มักโดนปรามาสว่า 'ท่าดีทีเหลว' โดยเฉพาะความเจ็บปวดจากซีซั่นที่ผ่านมา รวมกับฟอร์มช่วงก่อนหน้านี้ที่ชนะแค่เกมเดียวจาก 7 เกมก็ย่อมเป็นโมเมนต์ที่พวกเขาได้ปลดปล่อยความอัดอั้นที่ฝังอยู่ข้างใน
ฟุตบอลคือกีฬาที่มีการแสดงออกถึงอารมณ์เสมอ
บางทีก็ไม่จำเป็นต้องได้ชูโทรฟี่เลยที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งอยากกระโดดตัวลอยได้กับเมื่อเสียงนกหวีดยาวดัง ผมเองก็อยู่ในวันที่ เอฟเวอร์ตัน รอดตกชั้นได้ในเกมสุดท้ายสองปีติด มีแฟนบอลวิ่งกรูไปดีใจในสนาม ยิ่งครั้งแรกนั้นลงไปกันหลักพันคน ถามว่า "มันโอเวอร์ไปไหมกับการต้องฉลองแบบนั้น?"
ก็อยู่ที่มุมมองครับ
หากคุณไม่มีทางเข้าใจอารมณ์พวกเขาได้เลยเพราะคุณไม่ได้เป็นพวกเขาและคุณก็ไม่ได้อยู่ในบรรยากาศที่ตึงเครียดซึ่งความเป็นความตายรออยู่ใน 90 นาที
อย่างเดียวกันที่ มาร์ติน โอเดอการ์ด เอากล้องมาถ่ายช่างภาพของสโมสร หลังเกมเมื่อวันอาทิตย์ มันก็อาจดูเยอะไปจากบางสายตาแต่อย่าลืมว่าเขาคือกัปตันทีมที่ตลอดเกมทั้งวิ่ง, บู๊เข้าใส่และคอยกระตุ้นเพื่อนตลอด
มันก็ไม่ได้ชนะทีมก้นตารางที่ไหนด้วย มันคือการกำราบทีมจ่าฝูงที่ไม่แพ้ใครในลีกมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน กับไม่เคยทำแต้มหล่นหายนับแต่ 23 ธันวาคม!!
แน่นอนว่าลองสลับเป็น แมนฯ ซิตี้ บ้าง ก็คงไม่ได้เห็นหรอกที่จะมาฉลองกันในแบบ อาร์เซน่อล ก็เพราะทีมเรือใบประสบความสำเร็จมาต่อเนื่อง ในรอบไม่กี่ปีมามานี้ก็กวาดมาหมดแล้วทุกถ้วย พวกเขาย่อมคิดว่าก็แค่อีกหนึ่งเกมที่ชนะ
นอกจากนั้นเมื่อมองลึกลงไปก็เข้าใจได้ว่าทำไม มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมถึงดีใจขนาดนั้น มันคือชัยชนะที่ใสสะอาดหมดจดในเชิงแท็กติกที่ได้เตรียมไว้
ค่า xG (Expected Goals) 3.5 (ส่วนหงส์ 0.37)
โอกาส 15 ครั้ง(หงส์ 10)
เข้ากรอบ 7 ครั้ง(หงส์ 1)
โอกาสจะแจ้ง 6 ครั้ง(หงส์ 0)
นั่นเอง อาร์เตต้า ถึงดูสะใจมากเพราะมันเป็นรางวัลจากการสุมหัวของทีมงานว่าจะทำอย่างไรเพื่อหลุด ลิเวอร์พูล ให้ได้
พวกเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม
ทางกลับกัน เจอร์เก้น คล็อปป์ เองถือเป็นโค้ชที่มักแสดงอารมณ์ออกมาเสมอ ยิ่งในแอนฟิลด์ด้วยแล้วใครที่เคยไปก็ย่อมรับรู้ได้ว่าเตรียมรอได้เลยหลังทีมชนะจะได้ภาพหรือคลิปแจ๋วๆจากบอสตัวเอง
ถูกที่สุด อาร์เซน่อล อาจดีใจในวันนี้แต่ไปไม่ถึงฝั่งฝันอีกตามเคยก็ได้
อย่างน้อยพวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายังไม่ยอมหลุดวงโคจรง่ายๆ ยังขอสู้จนถึงที่สุดให้การลุ้นแชมป์ตื่นเต้นขึ้น ไม่ได้มีม้าแค่สองตัวอย่างที่ใครพูดกัน
"ไก่ป่า"