วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้าทีม นาโปลี ประกาศชัดแล้วว่าจะอำลาทีมแชมป์ เซเรียอา ในซัมเมอร์นี้
แม้จะต่อสัญญากับสโมสรเมื่อเดือนธ.ค.ไปจนถึงปี 2026 แต่ล่าสุดเจ้าตัวเปิดใจแล้วว่าต้องการย้ายสังกัด ขณะที่ประธานสโมสร ออเรลิโอ เด เลาเรนติส ยินดีเปิดทางให้สตาร์ทีมชาติ ไนจีเรีย เช่นกันเนื่องจากเขามีค่าฉีกสัญญา 130 ล้านยูโร
แม้ยังไม่ชัดเจนว่าจะจรดปากกากับทีมไหน แต่ โอซิมเฮน เปรยเป็นนัยว่ามีแผนย้ายมาวาดลวดลายใน พรีเมียร์ลีก
กระนั้นก็ดี ตราบที่ยังไม่มีการชูเสื้อ ทุกอย่างยังมีความเป็นไปได้ และนี่คือทีมที่มีโอกาสได้ตัว โอซิมเฮน ไปร่วมทัพในซีซั่นหน้ามากที่สุดจากการจัดอันดับความน่าจะเป็น
7. สโมสรใน ซาอุดิ อาระเบีย
เรื่องเงินไม่เป็นปัญหาสำหรับ โปรลีก แถม อัล ฮิลาล พยายามเซ็นสัญญากับ โอซิมเฮน ตั้งแต่ซัมเมอร์ก่อนด้วยซ้ำ แต่ นาโปลี บอกปัดข้อเสนอเช่นเดียวกับตัวนักเตะซึ่งเลือกต่อสัญญาใหม่กับสโมสร
กระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือน เอเจนต์ของ ควิชา ควารัตสเคเลีย ทีมเมทของดาวยิงแอฟริกันอ้างกับสื่อว่า โอซิมเฮน จะย้ายไปขุดทองอย่างแน่นอนหลังจบซีซั่นนี้ และทำเอาสตาร์เกือกคมฉุนขาดตอบโต้ มามากู จูเกลี่ ทันทีว่าปากพล่อยอย่างน่าขยะแขยง
แม้จะเชื่อกันว่า อัล ฮิลาล เตรียมกลับมาทาบทาม โอซิมเฮน อีกรอบ แต่ดูท่าแล้วเขาไม่น่าจะสนใจเงินก้อนโตถึงขนาดยินดีลดเกรดไปค้าแข้งใน ซาอุดิ อาระเบีย เหมือนกับสตาร์ดังหลายรายเนื่องจากลีกระดับท็อปหลายแห่งพร้อมอ้าแขนต้อนรับเขา
6. ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ไม่เคยใช้เงินสูงถึง 100 ล้านยูโรซื้อนักเตะมาก่อน ดังนั้นทีมจาก แอนฟิลด์ จึงไม่น่าจะได้ โอซิมเฮน มาแทนที่ โม ซาลาห์ ที่อาจย้ายไปเล่นใน โปรลีก ซีซั่นหน้าแม้สตาร์ทีม นาโปลี จะหวังเซ็นสัญญากับสโมสรใน พรีเมียร์ลีก ก็ตาม
และที่สำคัญ หงส์แดง มี ดาร์วิน นูนเญซ พร้อมเป็นตัวแทน คิง ออฟ อียิปต์ อยู่ก่อนแล้วแม้สาวก หงส์แดง อาจต้องรอเวลากันต่อไปเพื่อให้หัวหอกทีมชาติ อุรุกวัย ระเบิดความคมในระดับที่ทัดเทียมกับดาวเตะทีมชาติ อียิปต์ ซึ่งมีผลงานกระซวกตาข่ายเฉลี่ยซีซั่นละ 30 เม็ด
ยิ่งไปกว่านั้น ลิเวอร์พูล จะเสีย เจอร์เก้น คล็อปป์ หลังจบซีซั่นนี้เช่นกัน โอกาสที่ โอซิมเฮน จะคิดสวมยูนิฟอร์ม เร้ด แมชีน จึงแลดูริบหรี่มากในเมื่อเขาจะไม่ได้ร่วมงานกับยอดกุนซือชาวเมืองไส้กรอก
5. ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
เด เลาเรนติส เคยเอ่ยเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาว่าทีมจากยุโรปมีแค่ เปแอสเช มหาเศรษฐีเมืองน้ำหอมทีมเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสได้ครอบครองหัวหอกวัย 25 ปี แต่ในที่สุดพวกเขาเลือกเซ็นสัญญากับ กอนซาโล่ รามอส สตาร์ทีม เบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 65 ล้านยูโร
ฉะนั้นแล้วจึงต้องรอดูกันว่ากุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ กระหายได้ โอซิมเฮน มาร่วมทัพหรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ยอดกองหน้าทีมชาติ ฝรั่งเศส อาจอำลาทีมในซัมเมอร์นี้หลังมีข่าวกับ เรอัล มาดริด มานานแล้ว
4. แมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกับศูนย์หน้าหลายราย และพลาดได้ตัว แฮร์รี่ เคน เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเนื่องจากสตาร์ทีมชาติ อังกฤษ เลือกย้ายไปค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติของ บุนเดสลีกา อันทำให้ทีมของ เอริค เทน ฮาก ประสบกับปัญหาในการสอยตาข่ายทีมคู่แข่งโดยในเกมลีก 21 นัดซีซั่นนี้ ผีแดง คลำเป้าได้แค่ 24 ประตูเท่านั้น
หากมองดูแผงรุกของ ผีแดง ในตอนนี้ ทั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ,มาร์คัส แรชฟอร์ด และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ไม่มีใครสามารถเป็นที่พึ่งของทีมได้เลยสักคนโดยเฉพาะดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรเมื่อซีซั่นก่อนซึ่งฟอร์มตกอย่างแรง แถมล่าสุดก่อเรื่องท่องราตรีจนป่วย และพลาดเกม เอฟเอคัพ รอบสี่ที่ทีมบุกไปชนะ นิวพอร์ท 4-2 กระทั่งโดน เทน ฮาก เรียกเข้าพบ
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าศูนย์หน้าคนใหม่คือเป้าหมายอันดับหนึ่งของ โรงละครแห่งความฝัน ซึ่งได้ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีคนดังเข้ามาบริหารสโมสรอย่างเต็มตัวแล้ว
แต่ด้วยผลงานที่ดูไม่จืด แถมล้มเหลวในการซื้อดาวเตะค่าตัวแพงมาตลอดสิบปีหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จึงไม่น่าจะใช่จุดหมายปลายทางที่ โอซิมเฮน วาดหวังเอาไว้
3. เรอัล มาดริด
เอ่ยชื่อ เรอัล มาดริด นี่คือสโมสรฟุตบอลที่ไม่น่าจะมีพ่อค้าแข้งคนไหนปฏิเสธเนื่องจากทีมยักษ์ของ ลา ลีกา ประสบความสำเร็จเป็นล้นพ้นถึงขนาดผงาดขึ้นเป็น "ราชันแห่งยุโรป"
อย่างไรก็ดี ราชันชุดขาว ส่อแววจ่อได้ตัว เอ็มบัปเป้ มาร่วมทัพ แถมพวกเขาไม่น่าจะต้องเสียเงินเลยแม้แต่แดงเดียวอีกด้วย โอกาสที่ โอซิมเฮน จะได้เป็นลูกทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งกระหายได้ร่วมงานกับสตาร์เฟรนช์แมนจึงมีเพียงน้อยนิด
แน่นอนว่า เรอัล มาดริด เป็นเหมือน แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กระหายเซ็นสัญญากับศูนย์หน้า และคว้า โฆเซลู มาแทนที่ คาริม เบนเซม่า แต่เชื่อว่าหัวหอกวัย 33 ปีเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นซะมากกว่า
แม้ด้วยคุณสมบัติ โอซิมเฮน จะคู่ควรต่อการได้ค้าแข้งกับถิ่น เบร์นาเบว แต่ยังไงซะเขาน่าจะต้องหลีกทางให้กับยอดดาวยิงที่ไร้ค่าตัวอย่าง เอ็มบัปเป้ ค่อนข้างแน่
2. อาร์เซน่อล
เป็นอีกทีมที่โดนลือกับศูนย์หน้าคนใหม่ด้วยเชื่อว่าทีม ปืนใหญ่ ขาดดาวยิงระดับท็อปจนส่งผลให้พลาดได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อน และอาจรวมถึงซีซั่นนี้ด้วยก็เป็นได้
ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา มิเกล อาร์เตต้า เลือกจ่ายหนักกับ เดแคลน ไรซ์ กองกลางทีมชาติ อังกฤษ รวมทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ อดีตขุนพลทีม เชลซี ซึ่งดีลนี้เป็นที่มองกันว่าทีม ปืนใหญ่ ตัดสินใจพลาดมหันต์เนื่องจากดาวเตะทีมชาติ เยอรมัน ไม่ใช่ตัวรุกที่สามารถผลิตสกอร์ได้มากพอ
นอกจากนี้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ กับ กาเบรียล เชซุส ต่างก็ไม่ใช่ดาวยิงจำพวกโป้งปิดบัญชีเช่นกัน อาร์เซน่อล จึงถูกโยงกับ ไอแวน โทนีย์ อย่างหนักในตลาดหน้าหนาวนี้ หากแต่สตาร์ทีม เบรนฟอร์ด ประกาศชัดแล้วว่ายังไม่ย้ายในตอนนี้เนื่องจากต้องการตอบแทน เดอะ บีส์ ที่สนับสนุนเขาในช่วงโดนแบนยาวแปดเดือนจากคดีเล่นพนันฟุตบอล
ในรายของ โทนีย์ มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจย้ายสู่ลอนดอนในซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ แต่แน่นอนว่า เดอะ กันเนอร์ส ต้องจ่ายหนักร่วม 100 ล้านปอนด์ตามที่ต้นสังกัดของเขาตั้งราคาขาย ไม่เช่นนั้น อาร์เตต้า ก็ต้องหันไปหา โอซิมเฮน ภายใต้ค่าฉีกสัญญาซึ่งตกเป็นเงินก้อนโตไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
1. เชลซี
เศรษฐีลอนดอนถูกมองว่าเป็นทีมเต็งจ๋าที่จะได้ โอซิมเฮน มาล่าตาข่ายเพราะแม้ในรอบ 18 เดือนที่ผ่านมาพวกเขาจะซื้อสตาร์ใหม่ไม่น้อยเลย แต่ส่วนใหญ่ไม่อาจตอบแทนทีมได้อันทำให้ สิงห์บลูส์ กระเสือกกระสนอย่างที่เห็น
ในเรื่องของเม็ดเงิน เชลซี พร้อมจ่ายเพื่อคว้าหมายเลข 9 คนใหม่อย่างแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งดาวยิงทีม นาโปลี เปิดอกว่ามี ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นไอดอลด้วย มันจึงยิ่งทำให้เขาส่อเค้าตกร่องปล่องชิ้นกับถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ มากที่สุด
มองดูแล้ว ท็อดด์ โบลีห์ เจ้าของทีม เชลซี ไม่น่าจะปล่อยให้โอกาสทองครั้งนี้หลุดลอยไปและแม้หลายดีลที่ผ่านมาเขาจะใช้จ่ายอย่างล้มเหลว แต่กับ โอซิมเฮน ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงดาวซัลโวของ เซเรียอา ซีซั่นก่อน ยังไงมันก็คุ้มค่าเสี่ยงอย่างไม่มีข้อแม้