มีเรื่องอะไรทำให้บอสส์ขุ่นเคือง ?
ใครคนนี้เห็นข่าว เจอร์เก้น คล็อปป์ ประกาศตัดสินใจลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีมสโมสรลิเวอร์พูลเมื่อจบฤดูกาลนี้เด้งเตือนขึ้นมาในมือถือ ขณะที่ตัวเองกำลังเช็คอะไร และอะไรในช่วงเช้าของวัน เริ่มต้นจาก แอน อรดี ร้องและเต้นเพลง ลืมฮูดซิบ แล้วต่อด้วย คุณเป้ย ปานวาด เต้นเพลงอะไรก็น่ารัก (ไม่ใช่แล้ว !)
หะแรก พยายามจะมองให้มันเป็นอะไรที่เด้งมาจาก X อาจจะเป็นโพสแนวหวือหวา เรียกเรตติ้ง เรียกทัวร์ไปลง หากตาเราก็รู้สึกว่าจะเห็นโลโก้ชัดอยู่ ชัดว่าน่าจะเป็นถ้อยแถลงจากสโมสรโดยตรง
พอเข้าไปเช็คให้แน่ใจเท่านั้นแหล่ะ อ่านไปไม่กี่บรรทัดก็ ‘เศร้า’ และ มือไม้สั่น ทันทีครับ
ใครคนนี้ยังไม่รู้จักกีฬาลูกกลมกลมตอนที่ บิล แชงค์ลี่ย์ ลาจากลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ.1974 (ตอนนั้นสองขวบเศษ) ได้แต่อ่านประวัติคร่าวๆ ท่านปรมาจารย์ที่ทุกวันนี้ยังยืนตระหง่านชูสองมือเหนือศรีษะต้อนรับแฟนอยู่ด้านหน้าของ เดอะ ค็อป สแตนด์ หลังจากพาหงส์แดง ชูถ้วยเอฟเอคัพ 1974 พอเดินกลับเข้าเดรสซิ่ง รูม ก็รู้สึกว่าเหน็ดเหนื่อยกับห้วงเวลากว่าสิบห้าปีที่ผ่านมา ในการปลุกปั้นทีมจากระดับดิวิชั่นสอง ขึ้นมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในลีกสูงสุดของประเทศ
หากแน่นอนว่าพอ เคนนี่ ดัลกลิช อำลาลิเวอร์พูลในปี 1991 (ใครคนนี้ 19 ปีเศษ, กำลังกลัดมันเลยแหล่ะ!) อารมณ์ความรู้สึกมาเต็ม
ทีมก็กำลังนำจ่าฝูง มีสิทธิ์เป็นแชมป์อีกสมัยอยู่นี่ ทำไม ทำไม ?
ข้าวปลาไม่ยอมกิน วัน - สองวันเหมือนกัน ประทังชีวิตเพียงแค่ ถั่วต้ม / ข้าวโพดต้ม / หอยแมลงภู่นึ่ง (เยอะไปเหรอ ?) จากตลาดอุดมสุข สูตรการซื้อของเข้าบ้านเป็นประจำของคุณพ่อโสภณ คนที่ทำให้กระผมเชียร์ลิเวอร์พูล และบราซิล - เพราะมันถูกฮะ
อาจไม่ได้คิดดังแบบคนในโลกโซเชี่ยลทุกวันนี้ แต่ก็มีอาการกระฟัดกระเฟียดอย่างเห็นได้ชัด จำได้ว่าถึงขนาดมีคิดนิดนึงว่า จะเลิกเชียร์ลิเวอร์พูลแล้ว !
RUNNING OUT OF ENERGY … "นี่คือผม, ผมขอพูดแบบนี้ ผมหมดแรง ผมไม่มีปัญหานาทีนี้ ผมรู้มานานแล้วว่า ผมต้องประกาศสักวัน ตอนนี้ผมสบายดี ผมรู้ว่า ผมไม่สามารถทำงานซ้ำๆ ได้อีก" - บางถ้อยคำของชายร่างโย่งที่มากกว่าเป็น ผู้จัดการทีมฟุตบอล สักคน
แน่นอนว่าทุกคน ไม่เพียงแต่แฟนลิเวอร์พูล ต้องช็อคกับการประกาศนี้, ใครคนนี้ก็ถึงขนาดมือสั่นเฉย (ไม่ได้เว่อร์นะ) หารูปโพส เสียใจ และเข้าใจ, ยอมรับการตัดสินใจของบอสส์อันเป็นที่รักยิ่งนิดนึง แต่พอมีทัศนะ สงสัยเกี่ยวกับ ‘ช่วงเวลา’ ทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงได้เลือกประกาศอำลาในช่วงนี้ ไม่รอให้จบซีซั่นก่อน อย่างนี้จะมีผลกับการลุ้นแชมป์ทั้งสี่รายการหรือเปล่า
ใครคนนี้ ตอบกลับเพียงเล็กน้อย หากหยุดการยุ่งเกี่ยวกับโชเชี่ยลดีกว่า ใช่ครับ ในโลกเสรี ทุกคนสามารถความเห็นได้
จะวิพากษ์ หรือจะวิจารณ์ ที่มีเหตุผลแบบที่ตัวเองคิด ก็ย่อมตามสะดวกอยู่แล้ว , แต่เราไม่จำเป็นต้องรับรู้เรื่องที่เราไม่อยากฟัง ไม่เห็นด้วย ใช่ไหมหล่ะ ..
หากถ้าถามผม คนที่เพื่อนๆ ก็น่าจะรู้กันบ้างหล่ะว่า เป็นแฟนทีมไหน ก็อยากจะบอกว่า “นี่คนที่บอกว่าเป็นแฟนตัวยงลิเวอร์พูล ยังไม่รู้นิสัย และหัวจิตหัวใจของชายชื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดีพอกันอีกเหรอ ????”
อาจอ่านเจอคำอ้างว่า แชงค์ลี่ย์ เคยเสียใจที่อำลาแอนฟิลด์ แล้วไม่นานพยายามที่จะกลับมามีส่วนร่วมใหม่ กลับมาสนามซ้อมบ่อยจนต้องถูกขอร้อง หรือ คิง เคนนี่ เคยน้อยใจว่า หลังจากอำลาสโมสรในหนแรก ไม่มีใครพยายามที่จะตามเขากลับมาเลย (ยืนยันว่า เคยอ่านเจออะไรแบบนี้นะ แต่ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน)
แต่สำหรับ เจอร์เก้น นี่แตกต่างแน่นอน การแจ้งแก่สโมสรตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน แล้วคนที่รู้ไม่แพร่งพรายอะไร จนได้เวลาที่เหมาะสม ประกาศหลังจากผ่านเซมิไฟนั่ล คาราบาว คัพ ได้ลงไปเล่น “แอนฟิลด์ เซาธ์” (ชื่อที่แฟนหงส์ เรียกสนามเวมบลีย์) สนามกีฬาแห่งชาติที่คุ้นเคย นั้นย่อมเป็นอะไรที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว, คุณจะไม่ได้เห็น คล็อปป์ หวนกลับมาคุมลิเวอร์พูลอีกครั้งอย่างแน่นอน !
ในโลกฟุตบอลที่ต้องอยู่กับความเครียด ความกดดัน ที่จะต้องประสบความสำเร็จในทุกซีซั่น มีผู้จัดการทีมน้อยยิ่งกว่าน้อย ที่สามารถขีดเขียนอนาคตตัวเองได้
มากกว่านั้น เขาคือ ผู้นำแห่งจิตวิญญาณ, เป็นส่วนสำคัญที่กระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง เป็นอะไรและอะไรเท่าที่คุณจะนึกสรรเสริญกัน
ทำไมสต๊าฟต้องออกด้วย ? อ้าวก็ธรรมดาไหมหล่ะ มากับคล็อปป์ ก็ต้องไปกับคล็อปป์ กุนซือคนใหม่จะได้มีอิสระเต็มที่ นำคนของตัวเองเข้ามา อย่าง เป๊ป ไลน์เดอร์ส ก็ถึงจังหวะเติบโต เป็นเบอร์ 1 เองเสียบ้าง ช่วงคุม NEC นั้นสั้นไป ถือว่าไม่นับก็แล้วกัน
ทำไมประกาศตอนนี้ ? อ้าว .. ก็จะได้เคลียร์ๆ ไปเลย สโมสรมีเวลาหลายเดือนในการวางแผนดึงตัวมือดีคนใหม่เข้ามาสานต่อ ถึงแม้ก็เหมือน การวางมือของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หรือ อาร์แซน เวนเกอร์ ต่างมีกำแพงสูงใหญ่ให้ต้องปีนกัน อย่างน้อยก็ “กำแพงความคิด” จ้องเปรียบเทียบจากแฟนตัวเองเองนั่นแหล่ะ! (แต่ใครคนนี้แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า น่าจะมีการแย่บๆ ชายหนุ่มรูปหล่อ, คนที่เคยเป็นเด็กหงส์คนนั้นไว้บ้างแล้วนะ ฮ่าๆ)
วันนี้ ผมโตขึ้นมาก ในวัยทีน อายุห้าสิบเศษ ! แม้จะเศร้าอยู่ แต่ก็ไม่ทุรุนทุรายเหมือนวัยสิบเก้า ไม่มีสงสัยในการตัดสินของบอสส์ ไม่มีสงสัย FSG *อะไร อะไร ไม่พอใจก็ไปลงที่เจ้าของ ง่ายเหลือเกิน!
คนเราต้องไม่ก้าวก่ายความคิดคนอื่น เพราะแค่จัดการเรื่องตัวเองในแต่ละวันก็มากพออยู่แล้ว
ไม่แน่ใจว่าการตั้งคำถามในเชิงลบอะไรทั้งหลายเหล่านั้น เพียงเพราะ เราเป็น “คนเห็นแก่ตัว” , จมอยู่แต่กับความสำเร็จที่คล็อปป์สร้างให้ จนกลัวความล้มเหลวหลังจาก คล็อปป์ เดินจากไป
ทำไมเราไม่รู้จักการยอมรับ และขอบคุณ ชายที่ปลุกยักษ์หลับตนนี้ จากทีมที่ไม่มีทิศทางจนผงาดกลับมาเป็นแชมป์อังกฤษ, แชมป์ยุโรป และแชมป์โลก หล่ะ
แม้แต่การจากลา ยังจากลาแบบมีสไตล์
ความเครียดจากการลุ้นแชมป์ทุกซีซั่น ศัตรูจากความสำเร็จของตัวเองก่อตัว, การคาดหวังจากแฟนตัวเองที่กลายเป็นเสพติดความสำเร็จไปแล้ว มันไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจในวัน สองวันนี้
บางที ความเหนื่อยล้าอาจก่อตัวรุนแรงตั้งแต่ช่วงใดช่วงหนึ่งของซีซั่นที่แล้วก็ได้ หาก คล็อปป์ ที่เป็นหงส์แดงเข้มข้นไปแล้ว ไม่สามารถทิ้ง “ทีมรัก” ของเขา ที่กระเสือกกระสนได้ ..
หากฤดูกาลนี้ เขาสร้างทีมใหม่ได้ดีอีกครั้ง “ลิเวอร์พูล 2.0” นักเตะใหม่ที่เข้ามา ปี- สองปีนี้ ต่างมีวี่แววที่ดี จูนกันติดแล้ว รวมทั้งเด็กปั้นจากอะคาเดมี่ก็พอจะมองถึงอนาคตที่สดใส
ในฝันเลย ผมก็คงไม่ต่างกับเด็กหงส์ทุกคน ที่อยากเห็น คล็อปป์ คุมทีมจนหมดสัญญา 2026 อย่างน้อย และอยากให้ต่อสัญญาใหม่ไปอีกสี่ปีซะด้วยซ้ำ (แกล้งลืมเรื่องวัยที่จะถึง 57 ปี วัยที่เหมาะจะไปคุมทีมชาติ ไม่ต้องทำงานหนักทุกวันแบบนี้)
แต่เมื่อมันเป็นไปไม่ได้แล้ว จะไปเซ็ง จะไปบ่น จะไปสงสัยทำไมหล่ะครับ
ใครเป็นเด็กหงส์ สู้หันมาเชียร์ และดื่มด่ำ กับช่วงเวลาดีดีในยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ ช่วง 5 เดือนสุดท้าย ไม่ดีกว่าหรือ
เชียร์แบบไม่ได้คาดหวังหรอกว่า จะต้องคว้าให้ได้ทั้ง 4 ถ้วย หรือต้องได้ถ้วยนั้นถ้วยนี้ให้ได้ ไม่งั้นถือว่าล้มเหลว
รู้และมั่นใจแค่ว่า พลพรรคนักเตะหงส์แดง คล็อปป์ และสต๊าฟของเค้า ก็คงพยายามอย่างถึงที่สุด ที่จะให้ช่วงเวลาจากลาของคนเหนือคน คนนี้, "จบให้สวยที่สุด" เท่าที่จะทำได้หล่ะ ขอรับ ..
โจ้ จ่าฝูง