โอมาร์ เบร์ราด้า ไม่ใช่ชื่อที่ติดตลาดคอบอลนัก...
ข่าวใหญ่ที่มีการตีออกมาเมื่อวันเสาร์ก็ทำให้ผมต้องย้อนความทรงจำว่าครั้งหนึ่งหลายปีก่อนเคยเจอซีอีโอคนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแล้วในห้องเพรสที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นชายที่แต่งตัวภูมิฐานและดูมีออร่าแต่แน่นอนตอนนั้นเองผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนักว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร
ตกลงเบร์ราด้าเป็นใคร? มีอะไรดีถึงได้รับตำแหน่งที่ต้องแบกรับความกดดันมหาศาลไว้เต็มสองบ่า
"โอมาร์มาอยู่ซิตี้ก่อนหน้า เฟอร์ราน โซเรียโน่ และ ซิกิ เบกิริสไตน์ ซะอีก ด้วยความสามารถของ โอมาร์ แล้วก็สามารถแทนทั้งสองคนได้สบาย" คำพูดของอดีตพนักงานที่เคยทำงานให้ซิตี้
มันก็ยังมีการบอกเล่าเพิ่มเติมต่อจากคนที่เคยร่วมงานด้วยอีกได้ดังนี้
เป็นคนมีวิสัยทัศน์ไกล
เป็นคนเยือกเย็นรับมือแรงกดดันได้เก่ง
เป็นคนใส่ใจในทุกรายละเอียด
เป็นคนที่ไม่ใช่รอบรู้เรื่องฟุตบอลแต่เรื่องของธุรกิจก็เชี่ยวชาญ
ตำแหน่งซีอีโอของสโมสรอื่นอาจจะไม่ได้สำคัญหรือมีการพูดถึงเยอะ ทว่าสำหรับสโมสรโลโก้อสูรแล้วถือเป็นแม่ทัพที่ต้องคอยบัญชาการเคียงข้างผู้จัดการทีมมาแต่ไหนแต่ไร
เดวิด กิลล์ กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่นไง
เบร์ราด้า มีเชื้อสาย ฝรั่งเศส-โมร็อคโก แต่ไปเติบโตที่สหรัฐอเมริกา ก่อนโยกย้ายสำมะโนครัวมา บาร์เซโลน่า ตอนอายุ 18 โดยพื้นฐานก็เป็นสาวกบาร์ซ่าตัวยงอยู่แล้ว
"ผมสามารถทำงานให้บาร์ซ่าได้ฟรีเลยแต่โชคดีที่ผมได้รับเงินเดือนไปด้วย" เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ถึงรอยย่ำตัวเองไว้
จนกระทั่งปี2011 ก็ถูกดึงให้มาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่ง โซเรียโน่ กับ เบกิริสไตน์ ตามมาอีกปีให้หลัง นี่คือโปรเจกต์ที่กลุ่มอาบูดาบีได้วางเอาไว้แต่แรก ในการสร้าง เรือใบสีฟ้า ให้มีโครงสร้างแบบ บาร์เซโลน่า
ตำแหน่งแรกของ เบร์ราด้า เป็นการดูแลเรื่องเกี่ยวกับนอกประเทศเช่นจัดทัวร์ปรีซีซั่นกับหาพาร์ตเนอร์เข้ามาร่วมลงทุนกับสโมสรโดยในตอนนั้นก็ต้องบอกตรงๆว่าทีมแชมเปี้ยนของอังกฤษก็ยังไม่ได้มีแรงดึงดูดอะไรมากเท่าทุกวันนี้
ในเวลาไม่นานก็ได้รับการเลื่อนเป็นไดเรกเตอร์โดยเฉพาะพอ โซเรียโน่ ลากกระเป๋าเข้ามาเอติฮัดแล้วก็ทำให้ทั้งคู่ได้ทำงานด้วยกันกลายเป็นคนที่สนิทรู้ใจ เป็นฟันเฟืองตัวหลักเลยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในทุกๆด้านของซิตี้
ความที่ตื่นตัวตลอดก็ทำให้เบร์ราด้ายังได้รับความไว้ใจจาก เบกิริสไตน์ ให้ช่วยเรื่องการปิดดีลนักเตะ คนแรกเลยที่มาจาก เบร์ราด้า เต็มๆได้แก่ อายเมริค ลาป๊อกร์ต ปราการหลังที่ย้ายจาก แอธเลติก บิลเบา ในปี2018
กระนั้นผู้เล่นที่ถือว่าเป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่สุดก็ต้องเป็นเอร์ลิ่ง ฮาลันด์โดยเขาได้เดินทางไป โมนาโก เพื่อคุยกับมิโน ไรโอล่า เอเยนต์ส่วนตัวหัวหอกนอร์เวเจี้ยนที่ตอนนั้นกำลังป่วยหนัก
ชื่อเสียงของเบร์ราด้าอาจไม่ได้โด่งดังในหมู่คอลูกหนัง สำหรับในวงการของผู้บริหารแล้วถือเป็นชื่อที่ถูกยอมรับกว้างขวาง นั่นทำให้กลุ่มINEOSนำโดยเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ดึงตัวมานั่งเก้าอี้ตัวที่รอบทศวรรษมานี้ถือว่าล้มเหลวสิ้นเชิง
จาก เอ็ด วู้ดเวิร์ด ถึง ริชาร์ด อาร์โนลด์
จากสโมสรหมายเลขหนึ่งกลายมาเป็นสโมสรที่ไล่หลังทั้งเพื่อนร่วมเมืองสีฟ้าและคู่ปรับตลอดกาล ลิเวอร์พูล
นี่คือการประกาศจากกลุ่ม INEOS ว่าการเข้ามาถือหุ้น25%ของพวกเขาไม่ได้มาเพื่อตามกระแสแต่มาเพื่อหวังจะเปลี่ยนโฉมปีศาจแดงให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
ทุกความสำเร็จล้วนมีเบื้องหลังที่น่าสนใจเสมอ
เบร์ราด้า คือหนึ่งในนั้น
มันจึงเป็นดีลที่มีความสำคัญมากๆของ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นผู้กำหนดทิศทางแทบทุกอย่างให้ทีม เป็นผู้วางแผนทั้งระยะสั้น,กลางและยาวให้ทีม เป็นผู้ที่เลือกย้ายข้ามฝั่งมาทั้งที่สะท้านถึงสายลมกรรโชก
"ไก่ป่า"