สากกะเบือต้องยกมือไหว้! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู เจ๊า นิวคาสเซิล

นิวคาสเซิ่ล ยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นในฤดูกาลนี้ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังผีเข้าและผีออกเหมือนเดิม

สุดท้ายจึงทำได้แค่เสมอในเกมที่เจ้าบ้านทำได้ไม่ค่อยดีนัก

1.เมื่อ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ติดโทษแบน และคริสเตียน เอริคเซ่น ถูกลักพาตัวหายไปแบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้า

เอริค เทน ฮาก ไม่มีปัญหาในการจัด 11 ตัวจริงนะครับ เพราะขนาดของทีมยังใหญ่พอที่จะมีตัวผู้เล่นมาทดแทน

แต่มีปัญหาในการเปลี่ยนตัว เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะโสภาสักเท่าไหร่

ราฟาแอล วาราน ได้กลับมาเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็คอีกครั้ง ขณะที่ ลุค ชอว์ ยึดตำแหน่งแบ็คซ้ายคืนมาจาก ไตเรลล์ มาลาเซีย ได้สำเร็จ

ตรงกลาง กาเซมิโร่ ลงตัวจริงต่อเนื่อง โดยได้เล่นคู่กับ เฟร็ด ที่ลงแทนดาวเตะพันธุ์โคนมที่หายไปแบบไม่ทราบสาเหตุ

กองหน้า 3 คน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงได้ลงเป็นหน้าเป้า ขนาบข้างด้วย อันโตนี่ ทางขวา ส่วนทางซ้าย มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกแทนที่ด้วย เจดอน ซานโช่ 

2. เมื่อไม่มี คริสเตียน เอริคเซ่น เกมรุกของปีศาจแดงดูธรรมดาไปหน่อยนะครับ

อันดับแรกที่อยากบอกคือเวลาถูกคู่บีบเข้าใส่ พวกเขาแกะเพรสไม่เก่ง และเซ็ตบอลกันไม่ถนัด

แม้นจะครองบอลบุกได้มากกว่าพลางหาโอกาสทำประตูได้มากกว่า ทว่าจังหวะเข้าทำมันแทบไม่ได้สร้างความกดดันให้คู่แข่ง แถมปราศจากความหลากหลายอีกตะหาก

3. เท่านั้นไม่พอ

การหาจังหวะจบ และการจบสกอร์ก็ปราศจากความเด็ดขาดอย่างรุนแรง

เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ บนวัย 37 กะรัต ไม่ใช่สุดยอดดาวถล่มประตูตีนมหาวินาศคนเดิมเพิ่มเติมด้วยความเชื่องช้า

ตัวสำรองอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ถูกส่งลงมาเป็นหัวหอกแทน 'พี่โด้' ก็ควรจะทำได้อย่างน้อย 1 ประตูนะครับ-ขอโทษ

หนึ่งคือจังหวะแตะหลบผู้รักษาประตูคู่แข่งได้แล้ว แถมมีมุมมากพอที่จะยัดลูกเข้าไปได้ จังหวะนั้นมันต้องยิงแล้ว คุณพี่เขากลับปาดให้ เฟร็ด ที่อยู่ท่ามกลางคู่แข่งถึง 3 คน...ซะอย่างนั้น

อีกหนึ่งคือจังหวะสะบัดหัวโขกในนาทีสุดท้ายของช่วงทดเจ็บ 

ถ้าไม่เข้าก็ควรจะตรงกรอบให้ประตูต้องออกแรงเซฟบ้าง...หรือเปล่าวะ ???

ขอโทษอีกครั้งนะครับ คือตลอดทั้งเกมนายทวารสาลิกาดงอย่าง นิค โพ๊พ ไม่ได้ออกแรงเซฟลูกยากเลยสักครั้งเดียว 

4. นิวคาสเซิ่ล และนาทีนี้กลายเป็นทีมที่พัฒนาขึ้นจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วอย่างชัดเจน

ว่าแล้วต้องยกเครดิตให้ผู้เป็นกุนซืออย่าง เอ๊ดดี้ ฮาว ที่ปรับปรุงทีมด้วยผู้เล่นใหม่พลางผสมผสานกันจนลงตัว 

จุดอ่อนในเกมรับก็ถูกแก้ไขจนกลายเป็นทีมที่เกมรับแข็งแกร่งขึ้น เสียประตูยากขึ้น และแพ้ยากขึ้น

ฤดูกาลนี้ พวกเขาเพิ่งแพ้ไปแค่นัดเดียวเท่านั้นเอง 

แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ควรจะเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ให้ได้ หรือไม่ก็ต้องใกล้เคียงกับชัยชนะมากกว่านี้

5. ว่าแล้วอยากให้ย้อนกลับไปดูข้อ 1 ที่ผมบอกว่า เอริค เทน ฮาก ไม่มีปัญหาในการจัดตัว แต่มีปัญหาในการเปลี่ยนตัว

เมื่อ เฟร็ด นั่งเบียดกับความห่วยแตก บนม้านั่งสำรองกลับไม่มีตัวเปลี่ยนในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง นอกจากดาวรุ่งอย่าง ซีดาน อิ๊คบัล คนเดียว ซึ่งผู้เป็นกุนซือยังไม่กล้าที่จะ...ลองของ

อันนี้ไม่ว่ากัน เพราะเข้าใจว่าเด็กมันยังดิบเกินไปในเกมที่ตึงเครียดแบบนี้

แต่ผู้จัดการทีมก็สามารถพลิกแพลงได้ เช่นขยับเอา บรูโน่ แฟร์นันด์ส ลงต่ำมาหน่อยแล้วใส่กองหน้าเพิ่มเข้าไปอีกตัว ซึ่งบนม้านั่งสำรองมี แอนโธนี่ อีลันก้า ให้เลือกใช้

หรือยังไม่ต้องรีบเปลี่ยน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ออก โดยเลือกถอดมิดฟิลด์อย่าง เฟร็ด ออก เพื่อส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงมาเล่นเป็นกองหน้าคู่กับ 'พี่โด้' ก็ได้

มุมมองของ เอริค เทน ฮาก คือยังไม่จำเป็นต้องเสี่ยงทำอะไรแบบนั้น เพราะเกมยังเสมอกันอยู่ แถมผู้มาเยือนก็มีเกมสวนกลับที่น่ากลัว

สุดท้ายกุนซือปีศาจแดงก็พอใจกับการไม่แพ้คาบ้านมากกว่าจึงไม่เสี่ยง โดยเปลี่ยนตัวผู้เล่นไปแค่คนเดียวเท่านั้น

แน่นอนว่าผลเสมอมันไม่ถึงกับย่ำแย่อะไร และอย่างน้อยก็ยังดีกว่าการคาบ้าน

เพียงแต่โดยรวมถือว่าน่าผิดหวังนะครับ

เฉพาะอย่างยิ่งเกมรุกที่สากกะเบือยังต้องยกมือไหว้ !!!

บอ.บู๋