แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทำศึก พรีเมียร์ลีก ต้อนรับ สเปอร์ส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค. แต่เก็บได้แค่แต้มเดียวจากผลเสมอ 2-2 แม้จะนำหน้า ไก่เดือยทอง ถึงสองหน แต่หากมองกันที่ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีมในสนามซึ่งผู้มาเยือนเหนือกว่าทุกด้านก็ต้องบอกว่าน่าพอใจแล้วสำหรับ ผีแดง ที่ไม่แพ้คารังต่อหน้า เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ว่าที่ผู้ถือครองหุ้นก้อนเล็กของสโมสรซึ่งเข้ามาดูเกมด้วยโดยคาดกันว่าเขาจะปิดดีลเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือนหน้า
1. ผีอุ่นใจได้สองคีย์แมนนั่งสำรอง
แมนฯ ยูไนเต็ด คึกคักกันไม่น้อยเมื่อ กาเซมีโร่ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ สองดาวเตะคีย์แมนที่เจ็บไปนานมีชื่อกลับมาอยู่ในทีมแล้วในฐานะตัวสำรอง
รวมแล้ว เอริค เทน ฮาก เปลี่ยนโผตัวจริงรายเดียวเมื่อเทียบกับเกม พรีเมียร์ลีก นัดก่อนที่ออกไปแพ้ ฟอเรสต์ 2-1 โดยมี ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่หายป่วยลงเล่นเป็นตัวจริงไปก่อนแล้วในเกม เอฟเอคัพ รอบสามนัดบุกไปพิชิต วีแกน 2-0 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเสียบแทน อันโตนี่ ที่นั่งอยู่ในซุ้ม
กระนั้นก็ดี กุนซือดัตช์ปรับแทคติกเล็กน้อยโดยสลับให้ อารอน วาน บิสซาก้า แบ็คขวาย้ายมาเล่นทางซ้ายโดย ดีโอโก้ ดาโลต์ ที่ก่อนหน้านี้ปักหลักเป็นแบ็คซ้ายในช่วงที่ ลุค ชอว์ ร้างสนามถูกโยกไปรับผิดชอบหน้าที่ทางด้านขวา
2. ฮือฮาตราไก่หย่อน แวร์เนอร์ ลงตัวจริง
สเปอร์ส สร้างความฮือฮาไม่น้อยเมื่อส่ง ติโม แวร์เนอร์ ประเดิมสนามในฐานะตัวจริงทันทีหลังยืมดาวยิงทีม แอร์เบ ไลป์ซิก มาเสริมทัพเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยสัญญาหกเดือน
พร้อมกันนี้ ไก่เดือยทอง ได้สองกองหลังคนสำคัญทั้ง คริสเตียน โรเมโร่ ซึ่งสวมบทกัปตัน กับ มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน หายเจ็บกลับมาลงเล่นได้ทั้งคู่ ส่งผลให้ ราดู ดรากูซิน ปราการหลังตัวใหม่ต้องนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน
3. แรชฟอร์ด คืนความมั่นใจ
แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ตได้ดีเกินคาดเมื่อใช้เวลาแค่ 3 นาทีก็ทำประตูออกนำได้จากฝีเท้าของ ฮอยลุนด์ แต่ผ่านมา 19 นาที สเปอร์ส ซึ่งครองเกมบุกได้เหนือกว่าชัดเจนตีเสมอได้สำเร็จจากการโขกลูกเตะมุมของ ริชาร์ลิซอน
ถึงตรงนี้ ไก่เดือยทอง เดินหน้าหาสกอร์เพิ่มอีกหมายแซงนำ และแม้จะมีโอกาสมากกว่า แต่มาพลาดท่าให้เกมโต้ของเจ้าบ้านโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด ตะบันให้ ผีแดง นำอีกหน 2-1 ในนาทีที่ 40 ซึ่งทั้งสองประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดจากการประสานงานร่วมกันของสองกองหน้า และมันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหากคู่นี้เล่นกันได้อย่างเข้าขาลงล็อกเมื่อไหร่ก็จะเป็นฝันร้ายของแผงหลังทีมคู่แข่งอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะ แรชฟอร์ด ดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรซีซั่นก่อนจะเห็นได้ว่าเกมนี้แนวรับ สเปอร์ส ซึ่งดันกันขึ้นสูงตามปรัชญาของ อังเก้ ปอสเตโคกลู เปิดพื้นที่ให้ดาวยิงทีมชาติ อังกฤษ ได้จู่โจมขึ้นทางซ้ายหลายหนจนในที่สุดเขาสามารถกระทุ้งประตูแรกจากทุกรายการที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในซีซั่นนี้ได้สำเร็จหลังจากหนสุดท้ายที่เขาคลำเป้าเกมเหย้าได้เกิดขึ้นเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
มีการเปิดเผยว่าหนสุดท้ายที่ แรชฟอร์ด ยิงประตูในรังตัวเองได้เป็นเกมลีกนัดรองสุดท้ายซีซั่นก่อนซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ยำใหญ่ เชลซี 4-1 และมันเป็นการลงเล่นเกมเหย้าของทุกรายการในซีซั่นนี้เป็นนัดที่ 14 กว่าที่เขาจะปลดล็อกได้โดยต้องสับไกมากถึง 32 ครั้งกว่าที่บอลจะตุงตาข่าย
ฉะนั้นแล้ว มันจึงอาจเป็นประตูที่เรียกความมั่นใจให้ แรชฟอร์ด ได้อีกหนซึ่งหากเป็นอย่างนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าจะมีผลงานที่ดีวันดีคืนขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากระบบการเล่นของ ผีแดง ยุคนี้ซึ่งครองเกมในแดนกลางเป็นรองคู่ต่อกรจำเป็นต้องอาศัยความวูบวาบของผลผลิตรายนี้ของทีมมากเป็นพิเศษ
จบครึ่งแรก แน่นอนว่า ผีแดง ด้อยกว่าคู่แข่งตามเคยในแง่การครองบอลซึ่ง สเปอร์ส เหนือกว่าถึง 63:37% แถมได้ยิงมากกว่าเจ้าถิ่นด้วย 10:6 ครั้ง อีกทั้งเข้ากรอบมากกว่า 4:2 ครั้ง แต่ เร้ด เดวิลส์ นำหน้า 2-1
4. บอลโยนยาวเกือบได้ผล
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 50 วินาที แมนฯ ยูไนเต็ด โดนตีเสมอ 2-2 อย่างไวจากจังหวะกระหน่ำของ โรดรีโก้ เบนตานกูร์ ซึ่งถือเป็นเรื่องเสียหายของเจ้าบ้านเนื่องจากเกมเป็นรองอยู่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ดี นับจากนั้น เทน ฮาก ตัดสินใจแก้เกมด้วยการสั่งให้ลูกทีมหันมาสาดบอลยาวสู้กับทีมเยือนเนื่องจากตระหนักดีว่าไม่อาจต่อบอลสู้กับ ไก่เดือยทอง ได้จึงเลือกตัดเกมในแดนกลางทิ้งหันมาเล่นบอลยาวโจมตีคู่แข่งให้น้อยจังหวะที่สุดหมายเรียกประตูที่สามให้ได้
ขณะเดียวกัน ในเมื่อแผงกลางเป็นรองทีมเมืองหลวง อย่างน้อยการใช้แทคติกที่ว่าของกุนซือดัตช์ก็ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เสียประตูเพิ่มให้กับอาคันตุกะเช่นกัน กระทั่งเข้าสู่ช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย ปีศาจแดง เกือบได้ประตูชัยจากลูกไม้นี้ด้วยซ้ำเมื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ย้ายมาเล่นทางซ้ายแทน แรชฟอร์ด ที่โดนเปลี่ยนออกไปแล้วสบโอกาสสาดบอลเข้าไปหน้าประตูให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน คริสเตียน เอริคเซ่น โดดโขกเหน่งๆชนิดไม่มีใครประกบ และส่อแววเป็นประตูสูง แต่กองกลางวิสกี้โหม่งบอลข้ามคานอย่างน่าผิดหวังอันทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันไปด้วยสกอร์ 2-2 แต่หากจะเลือกมองในแง่บวก บางทีอย่างน้อย เทน ฮาก อาจค้นพบแล้วว่าควรให้ลูกทีมเล่นในสไตล์ไหนที่น่าจะเข้ากับศักยภาพของพวกเขามากที่สุด
จบเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด ยังครองบอลเป็นรอง 64:36% และได้ยิงน้อยกว่า 16:9 ครั้ง รวมทั้งส่งบอลเข้ากรอบแค่ 2 ครั้งด้อยกว่า สเปอร์ส ที่ยิงเข้ากรอบ 6 ครั้ง แต่ที่แน่ๆเจ้าบ้านมีหนึ่งแต้มติดมือ
อย่างไรก็ดี มันน่าคิดว่าหาก สเปอร์ส มี ซน ฮึง มิน ลงบู๊ในเกมนี้ ผีแดง จะต้องเจอกับคำว่า "คาบ้าน" อีกหรือเปล่าเนื่องจากเกมในแดนกลางของพวกเขาเป็นรอง ไก่เดือยทอง และที่สำคัญทีมจากเมืองกรุงด้อยประสิทธิภาพลงไปเยอะหากไม่มีทั้งสตาร์ทีมชาติ เกาหลีใต้ และ แฮร์รี่ เคน อดีตยอดดาวยิงลงเล่นร่วมกันเนื่องจากสถิติเผยว่าพวกเขาไม่ชนะเลยในเกมลีกตลอดห้านัดหลังหากขาดทั้งสองหัวหอกจากผลงานเสมอสาม แพ้สอง
5. ได้เวลา บายินดีร์ (ซะที)
หลังเสมอกับ สเปอร์ส 2-2 ก็เท่ากับว่า อ็องเดร โอนาน่า จะรับใช้ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นเกมสุดท้ายแล้วก่อนผละไปเฝ้าเสาให้กับทีมชาติ แคเมอรูน ในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์
เมื่อเป็นอย่างนี้ อัลตาย บายินดีร์ มือกาวทีมชาติ ตุรกี ที่ถูกดึงมาจาก เฟเนบาห์เช่ ในช่วงซัมเมอร์ก็น่าจะได้โอกาสสำแดงฝีมือสักทีหลังจากอดทนรอเวลามานาน แต่จะยาวนานแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับผลงานของทีม หมอผี ในรายการชิงแชมป์ทวีปด้วย
แต่ที่แน่ๆ จอมหนึบสัญชาติเติร์กจะประเดิมเฝ้าเสาในเกม เอฟเอคัพ รอบสี่ก่อนได้สัมผัสกับเกม พรีเมียร์ลีก โดยห้านัดต่อไป ผีแดง มีโปรแกรมดังนี้
28 ม.ค.-นิวพอร์ทหรือ อีสต์ลีห์ (เยือน) เอฟเอคัพรอบสี่
1 ก.พ.- วูล์ฟส์ (เยือน) พรีเมียร์ลีก
4 ก.พ.- เวสต์แฮม (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
11 ก.พ.-แอสตัน วิลล่า (เยือน) พรีเมียร์ลีก
24 ก.พ.- ฟูแล่ม (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
สำหรับโปรแกรมของ แคเมอรูน พวกเขาจะลงเล่นเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มวันที่ 23 ม.ค.ซึ่งหากทีมของ โอนาน่า ด่วนร่วงตกรอบก็จะทำให้ฝันสีทองของ บายินดีร์ สลายทันทีเนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้โกลมือหนึ่งกลับมาเฝ้าตาข่ายตามเดิมชนิดที่ไม่เสียเขาเลยแม้แต่เกมเดียว แต่หาก แคเมอรูน หลุดไปถึงนัดชิงชนะเลิศ เทน ฮาก จะเสียมือกาวคู่ใจไปจนถึงวันที่ 11 ก.พ.
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เชื่อได้ว่า เทน ฮาก จะประเดิมใช้งานนายทวารคนใหม่ในฟุตบอลถ้วยน็อกเอาต์แน่เนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ต่อกรกับทีมระดับสมันน้อยจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพา โอนาน่า ให้ถูกสังคมตลอดจนสาวก เร้ด อาร์มี่ นินทาแต่อย่างใด