คงโมเมนตัมไว้ เมื่อ ลิเวอร์พูล ไร้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แต่ถึงตอนนี้เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้แล้วว่าจุดยืน ลิเวอร์พูล เป็นเรื่องที่ถูกต้อง

พรีเมียร์ลีก ผ่านไป 20 นัด ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับประตู 22 ลูก (14 ประตู, 8 แอสซิสต์) เป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทัดทาน

สิ่งที่ ซาลาห์ ทำให้ทีมก่อนเว้นระยะกับสโมสรเพื่อไปรับใช้ทีมชาติอียิปต์ คือของขวัญปีใหม่ที่ดีสำหรับแฟน ๆ หงส์แดง

ปีใหม่ผ่านไปกี่ครั้ง... คิง โม ยังคงเป็น คิง โม คนเดิม

ทัศนคติและชุดความคิดเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสอนใครได้ แต่มันสามารถเป็นตัวอย่างให้แก่คนอื่นเพื่อปรับปรุงพัฒนา

หลังยิงลูกจุดโทษไปติดเซฟ มาร์ติน ดูบราฟก้า ตอนครึ่งแรก ในหัวของเขาเกิดความวุ่นวายจนเรียกได้ว่าสมาธิแทบแตกกระเจิง

ช่วงพักครึ่ง เขาสลับรองเท้าอีกคู่ เพื่อตัดเรื่องหมกมุ่นที่ฟุ้งอยู่ในหัว ใช้สติดึงสมาธิเข้ามาอยู่กับตัวเองเพื่อเดินหน้าต่อไป

"คู่ที่ผมใช้ตอนยิงลูกโทษไม่เข้าเป็นคู่ที่ผมเพิ่งหยิบมาใส่ลงซ้อมเมื่อวานนี้"

"มันไม่ใช่เรื่องความเชื่อทางไสยศาสตร์อะไรหรอกนะ เพราะผมเองก็ใช้รองเท้าหลายคู่อยู่แล้ว"

"แต่พอผมคิดว่ามันอาจทำให้ผมเสียสมาธิแล้วผมก็ตัดสินใจเลยว่า -โอเค พอกันที เปลี่ยนรองเท้าดีกว่า-"

"ผมไม่ชอบลงเล่นในช่วงครึ่งหลังพร้อมกับมีความคิดในหัวว่า -ฉันยังไม่เคยยิงได้ด้วยรองเท้าคู่นี้เลย- ไม่ล่ะ"

"ผมเลือกเปลี่ยนเพื่อทำให้ตัวเองไม่เสียสมาธิและมีความมุ่งมั่นกับเกมการเล่นเท่านั้น"

"ผมเล่นแบบใจเย็นอยู่แล้ว ผมพยายามทำงานของตัวเองและซ้อม (การยิงลูกจุดโทษ) อยู่เสมอ"

ในช่วงเวลาที่ ลิเวอร์พูล ไม่มี ซาลาห์ คือภารกิจของคนที่เหลือเพื่อยังทำให้ ลิเวอร์พูล คงเป็นจ่าฝูงเมื่อถึงวันที่เขากลับมา

51 เปอร์เซ็นต์จากจำนวน 43 ลูกที่ ลิเวอร์พูล ทำได้บนเวที พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เกิดขึ้นโดยมี ซาลาห์ มีความข้องเกี่ยวไม่ว่ายิงเองหรือแอสซิสต์

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ ลิเวอร์พูล คงจะคิดถึงมากที่สุดพอ ๆ กับประสิทธิภาพในการยิงและความสร้างสรรค์ในการเล่นของเขาก็คือความเป็นผู้นำ

ซาลาห์ เป็นคนที่สร้างมาตรฐานให้กับเพื่อนร่วมทีมได้ในทุก ๆ วัน

การที่เขาไม่ได้ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก เพียงแค่ 10 นัดตลอดช่วง 6 ฤดูกาลครึ่งที่อยู่กับสโมสร แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีร่างกายที่ทนทานอย่างมาก 

และในจำนวนนั้นมี 2 เกมที่เขาพลาดลงเล่นเพราะต้องไปช่วย อียิปต์ บ้านเกิดตอนที่ทะลุถึงศึก แอฟริกัน คัฟ ออฟ เนชั่นส์ เมื่อ 2 ปีก่อน 

ขณะเดียวกันก็มีอีก 3 เกมที่เขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ถูกใช้งานเพราะทีมอยากให้เขาได้พัก 

ส่วนอีก 5 นัดมาจากการอาการบาดเจ็บและอาการป่วย

ครั้งสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ลงเตะเกม พรีเมียร์ลีก โดยไม่มี ซาลาห์ ต้องย้อนไปนัดรองสุดท้ายซีซั่น 2021/22 ที่เจอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 

ตอนนั้น ซาลาห์ มีปัญหาตรงง่ามขา และทีมให้เขาพักเพราะมีเกมนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่ให้หลังอีก 1 สัปดาห์

ถามว่าแล้วใครจะขึ้นมาทดแทน ซาลาห์ ในช่วงเวลาหลายนัดต่อจากนี้?!

คงตอบได้เพียงว่าไม่มีใครถือเป็นตัวแทน ซาลาห์ แบบชัดเจน 

เพราะที่ผ่านมาเขาอยู่ช่วยทีมได้ตลอด ทว่า ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ เองก็เคยเล่นได้ดีในบทบาทนั้นและสมควรได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้น 

"มันเป็นตำแหน่งที่ผมเล่นไหว" เอลเลียตต์ เผย 

"ผมเติบโตมากับการเล่นในตำแหน่งนั้นตั้งแต่เด็ก ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพราะผมอาจจะโดนส่งลงไปเป็นปีกก็ได้"

"แต่เราก็มีคนอื่น ๆ ที่เล่นในตำแหน่งนั้นได้เหมือนกัน"

ความสารพัดประโยชน์ของ ดีโอโก้ โชต้า เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีสำหรับพื้นที่ตรงนี้

เช่นเดียวกับ โดมินิค โซโบซไล แต่กัปตันทีมชาติฮังการีดันโชคร้ายได้รับบาดเจ็บแฮมสตริงจากเกมนัดล่าสุด

แน่นอนว่ามันต้องมีการแบ่งหน้าที่การทำประตูให้ดีในตอนที่ ซาลาห์ ไม่อยู่

ตอนที่ โคดี้ กัคโป ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับ ลิเวอร์พูล 

ขณะที่ โชต้า ก็สร้างผลกระทบได้ดีอีกคนตอนลงเป็นตัวสำรอง 

ส่วน หลุยส์ ดิอาซ ซึ่งพักหลังฟอร์มน่ากังวล น่าจะสร้างความหวือหวาได้มากกว่าหากได้ลงเล่นตรงฝั่งซ้าย 

เห็นได้จากเกมกับ นิวคาสเซิ่ล เขาตัดเข้ากลาง สร้างความปั่นป่วน แล้วดิอาซ เป็นคนเรียกลูกจุดโทษลูกแรกแล้วหลังจากนั้นก็มีส่วนร่วมเยอะมากจนทำให้ทีมได้ลูกแรก

ดาร์วิน นูนเญซ ยุติการเท้าบอด 12 เกมติดต่อกันได้ในเกมบ็อกซิ่งเดย์ที่เจอกับ เบิร์นลี่ย์ 

แม้ว่าเขาจะใช้โอกาสเปลืองอยู่บ่อย ๆ แต่ว่า คล็อปป์ ประทับใจกับการที่เขาเล่นแบบไม่เห็นแก่ตัวตอนที่ผ่านบอลให้ ซาลาห์ ทำประตูขึ้นนำ

หลังจบเกมนั้น คล็อปป์ บอกว่า "ในจังหวะแบบนั้นน่ะนักเตะ 99.99 เปอร์เซ็นต์คงจะเลือกยิงเองไปแล้ว แต่ว่า ดาร์วิน ตัดสินใจผ่านบอล มันเป็นเรื่องที่พิเศษมาก ๆ"

"ไม่มีใครควรจะต้องมากังวลกับเรื่องของ ดาร์วิน เลย"

"ผมรักเกมนี้ ผมชอบบรรยากาศของเกมนี้ เราต่างก็เคยยิงพลาดกันทั้งนั้น"

"มันไม่ใช่ประมาณว่า -พระเจ้าช่วย พวกเขาทำอะไรกันอยู่ ?- ทุกคนกำลังฮอตกันสุด ๆ "

ตอนนี้ ลิเวอร์พูล จะไม่มีคนทำประตูสูงสุดอยู่ในทีมอีกหลายนัด พวกเขาต้องใช้ความพยายามร่วมกันอย่างแน่นหนัก

เพื่อให้โมเมนตัมที่ถือครองไว้ยังคงอยู่เหมือนเดิม

HOSSALONSO