การเปลี่ยนแปลงของ แมนยู ในมือเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์

หลังจากเป็นข่าวกันมานานกว่า 13 เดือน ในที่สุดเซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ บรรลุข้อตกลงเพื่อร่วมลงทุนซื้อหุ้น 25%  จำนวน £1.03พันล้าน (45,000 ล้านบาท) ไม่ใช่การเทคโอเวอร์ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เหมือนในช่วงต้นปีที่มีข่าวให้แฟนผีแดง แฮปปี้

ผมเขียนลงเพจเดิม JACKIE (ที่โดนแฮ้ก) ไปหลายครั้งแล้ว (พ.ย.2565-พ.ค.2566) เรื่องของ เซอร์ จิม และเรื่องการ เทคโอเวอร์ สโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อครั้งบ้านเกลเซอร์ ประกาศหาผู้ร่วมทุนและดูความเป็นไปได้ถึงขั้นขายสโมสร เมื่อพ.ย.2022 

#เทกโอเวอร์แมนยูไนเต็ด

#เทกโอเวอร์ManU

#หมากกลเกลเซอร์

#เทกโอเวอร์ManUTD

จากนั้นมี.ค., เม.ย., พ.ค.และมิ.ย. มีการพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มทุนต่างๆ เอาเป็นว่าหลักๆคือ กลุ่มทุนกาตาร์ ของชีค ยาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี อันเป็นกองทุนรัฐกาตาร์ ที่ขอซื้อหุ้น 100% พร้อมชำระหนี้ให้ อันเป็นการเทก โอเวอร์ สโมสรทั้งหมด ส่วนอีกกลุ่มหลักๆคือ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ เจ้าของปิโตรเคมี "อีเนออส" มหาเศรษฐนักธุรกิจชาวอังกฤษ ที่เคยจะซื้อเชลซี แล้วข้อเสนอสู้ ทอด โบห์ลี ไม่ได้ โดยเซอร์ จิม ขอซื้อตอนแรก 69% ก่อน

จากนั้นมีการปรับเงื่อนไขเมื่อเวลาผ่านไป....จนลดเหลือ 25% ขณะที่ ฝั่ง ชีค ยาสซิม ยอมแพ้  (เมื่อกลางเดือนต.ค.) เมื่อบ้านเกลเซอร์ มองว่าพวกเขาไม่ต้องการขาย100% ยังต้องการบริหารอยู่ ส่งผลให้ เซอร์ จิม โดดเด่นขึ้นมาทันที เพราะมีข้อเสนอที่เร้าใจให้ บ้านเกลเซอร์ นั่นเอง

สำหรับตัวเลขราคารวมจากหุ้น25% นั้นสื่อหลักอังกฤษรายงานไม่ตรงกัน

บีบีซี + เดอะ เทเลกราฟ £1.03 พันล้าน

เดอะ ไทมส์ £1.25 พันล้าน

เดอะ การ์เดี้ยน £1พันล้าน+

ดิ แอธเลติกUK £1.3 พันล้าน

1 ทำไมเกลเซอร์ ไม่ขาย ชีค ยาสซิม

ผมเขียนไปแล้วในเพจนะครับ...ลองย้อนไปอ่านดู แต่หลักๆคือ พวกเขามองว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะมีราคามากกว่าราคาตลาด (เพราะอยู่ในตลาดหุ้น) ที่กำหนดเอาไว้ £2,500 ล้าน โดยประมาณ ซึ่งพวกเขามองว่ามูลค่าแมนฯยูไนเต็ดนั้น น่าจะมากกว่า £4 พันล้านปอนด์ ที่จะได้จาก ชีค ยาสซิส ซะอีก

หลักๆคือการ เทค โอเวอร์ของ ชีค ยาสซิม จะมีเงินก้อนใหญ่ £2.6 พันล้าน ซึ่งก็ไม่ได้มากกว่าราคาตลาดสักเท่าไหร ส่วนอีกก้อนคือ £1.4 พันล้าน นั้นนำไปใช้ในการปรับปรุง ต่อเติมสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด และสนามซ้อมหรือสปอร์ต คอมเพลกส์ ที่ แคร์ริงตัน เท่ากับว่าส่วนนี้ บ้านเกลเซอร์ ไม่ได้อะไร

อีกทั้งบ้านเกลเซอร์มองว่าหากพวกเขาสามารถนำ แมนฯยูไนเต็ด ออกจากตลาดหุ้นได้ พวกเขาก็สามารถกำหนดราคาได้เองโดยไม่ต้องอิง "มูลค่า" จากตลาดหุ้นนิวยอร์ค ซึ่งน่าจะมากกว่า  2,500 ล้านปอนด์ ในอนาคต

กล่าวคือ บ้านเกลเซอร์ "โลภ" นั่นเอง

2 เซอร์ จิม มีทีเด็ด

เรียกว่าถ้าเล่นศูนย์หน้าก็คมกริบกว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ อย่างแน่นอน ข่าววงในบอกว่า เซอร์ จิม ปรับการซื้อหุ้น 69% ลงเหลือการร่วมทุน 25%  เพราะพวกเขาเดินเกมเจรจาถึงบ้านเกลเซอร์ ที่นิวยอร์ค ไปมาหาสู่ พูดคุยกันเรื่อยๆ อย่างอดทน จนรู้ว่า บ้านเกลเซอร์ มันไม่อยากขายทั้งหมด

พี่น้อง6 คน เสียงแตก 2 ผู้บริหาร โจ และ อฟราม อยากขายบางส่วน อีก4 คนอยากขายหมด ทั้ง ไบรอัน, เควิน, เอ็ดเวิร์ด และ ดาร์ซี่ 

ดังนั้น เซอร์ จิม จึงต้องเดินเกมอย่างอดทน และปรับเงื่อนไขจนจบที่การขอร่วมลงทุน 25% หุ้นclass B (สิทธิในการโหวตมีน้อยกว่า classA) ส่วนของ เกลเซอร์ กับมูลค่าต่อหุ้น 33 เหรียญดอลลาห์ สหรัฐ (1,100บาท) ทั้งหมดเป็นเงิน £1.03พันล้านหรือประมาณ 45,000 ล้านบาท เอาแบบกลมๆละกันนะครับ โดย บ้านเกลเซอร์ จะรับเงินเข้ากระเป๋า £650 ล้าน อีกต่างหาก

ที่สำคัญ บ้านเกลเซอร์ ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แม้สัดส่วนลดลงจาก 69% -25% เหลือ 44% นั่นรวมทั้งมีโอกาสเพิ่มทุน class A (ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค) ในอนาคตอีก 25% เช่นกัน

เพียงแต่...สิทธิ์ในการบริหารทั้งหมดยังคงเป็นของ บ้านเกลเซอร์!!!!! เหมือนเดิม

นี่แหละคือเงื่อนไขที่ว่ากันว่าเซอร์ จิม ใช้ประสบการณ์เรื่องเจรจาต่อรองอย่างช่ำชอง เหมือนที่นักข่าวฝรั่งบอกว่า deft deal-making คือเจรจาอย่างมีชั้นเชิง...จนทำให้ บ้านเกลเซอร์ เห็นประโยชน์ที่ตัวเองจะได้

โดยเซอร์ จิม ยื่นข้อเสนอซื้อหุ้น25%  ผ่านบริษัท Trawlers Limited ซึ่งเขาคือเจ้าของเอง (ปลอดหนี้) จดทะเบียนที่ Isle of Man (อยู่ในทะเลไอริช ระหว่าง ไอร์แลนด์ กับ UK) 

ชื่อบริษัท แปลว่า ชาวประมง (คนลากอวนจับปลา) สะท้อนมาจาก คำที่ เอริก คันโตน่า เคยใช้ในวลีเด็ดๆอันเป็นปรัชญาของเขา 

“When the seagulls follow the trawler, it is because they think sardines will be thrown into the sea“  เมื่อนกนางนวลบินตามชาวประมง นั่นเป็นเพราะมันคิดว่า ปลาซาร์ดีน จะถูกโยนลงทะเล

ลึกซึ้ง

หมายถึง เซอร์จิมนะครับ

3 ประสบการณ์ธุรกิจกีฬา

ช่ำชองของจริง เพราะ เซอร์ จิม มหาเศรษฐี ที่มีทรัพย์สินมูลค่าติดอันดับความร่ำรวยมาตั้งแต่ปี 2018 ถึงวันนี้คาดว่าอยู่ที่ตัวเลข £12,500 ล้าน หรือประมาณ 550,000 ล้านบาท 

เขาซื้อธุรกิจกีฬาหลายชนิดเลย 

ทีมจักรยาน อาชีพ Ineos Grenadiers 

ทีมเรือใบ Ineos Britannia

หุ้นใหญ่ ทีมเอฟวัน เมอร์เซเดส

สนับสนุนทีมรักบี้นิวซีแลนด์

สนับสนุน เอลิอุด คิปโชเก้ นักวิ่งมาราธอนชื่อดังของโลก

ทีมฟุตบอล เอฟซี โลซาน-สปอร์ต (2017)

ทีมฟุตบอล นีซ ในลีกเอิง (2019)

เท่านี้พอยืนยันในความรู้เรื่องกีฬาและธุรกิจกีฬาอย่างแน่นอน

4 เซอร์ จิมจะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

เงิน £237 ล้าน (10,428 ล้านบาท) จะถูกใส่เข้าบัญชีสโมสรเพื่อปรับปรุงโครงสร้างของสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนเลย

จากเงินก้อนนี้...เป็นเรื่องของคนบ้าง

ถ้าจำกันได้ว่าเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ริชาร์ด อาร์โนลด์ CEO ของแมนฯยูไนเต็ด ประกาศลาออก ซึ่งตอนนั้นนักข่าวอังกฤษจึงได้กลิ่นของการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารแน่ๆ และเรื่องของการร่วมทุนของ เซอร์ จิม เด่นชัดขึ้น

เริ่มจาก บอร์ดบริหารหรือคณะกรรมการบริหารนั้น เซอร์ จิม มี 2 โคต้าในทีมบริหารของสโมสรส่วน บริษัท จำกัดมหาชน (Manchester United PLC) ที่นิวยอร์ค คือจอห์น รีส หุ้นส่วนใน อีเนออส ของเซอร์จิม และ ร็อบ เนวิน ประธานฝ่ายกีฬา อีเนออส

ส่วนฝั่งกรรมการบริหารUK เซอร์จิม ส่ง ตัวแทนอีก2 คนคือ เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด อดีตประธานสมาคมจักรยานยูเค และ ฌอง-โคล้ด บล็องก์ กก.บริหารทีมยูเวนตุสและเปแอสเช ร่วมบริหาร

หลังจากร่วมทุนแล้ว เซอร์จิม น่าจะมี ฌอง-โคล้ด บล็องก์ ซีอีโอ ของ อีเนออส สปอร์ต คนของตัวเองนั่งแท่น ซีอีโอ รวมทั้งเลือก เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด เป็นผู้อำนวยการกีฬา ซึ่ง เซอร์ เดฟ ทำงานกับเซอร์ จิมอยู่แล้ว ส่วน จอห์น เมอร์ทาห์ ผ.อ.ฟุตบอลของแมนฯยูไนเต็ด นั้นอนาคตไม่แน่นอน เช่นเดียวกันกับ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ผ.อ.เทคนิคของสโมสร

คนเก่าๆเหล่านี้จะต้องทำงานกับทีมผู้บริหารใหม่ หรืออาจยอมโบกมือลาไปเลยเรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดเช่นกัน

นอกจากแต่งตั้งคนของตัวเองแล้วเขายังมีส่วนในการบริหารทีมฟุตบอล หรือ football operation แบบเต็มตัว ทั้งทีมชาย,หญิงและทีมเยาวชน

อ้อ..มีข่าวว่าเกมกับแอสตัน วิลล่า นั้น เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด จะไปนั่งชมด้วย

5 ใครคือเซอร์ จิม

เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ คือมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอังกฤษ ผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานบริหารกลุ่มเคมีภัณฑ์ Ineos (ก่อตั้งเมื่อปี 1998) 

เซอร์ จิม เกิดที่เมือง เฟลส์เวิร์ธ เขต โอลด์แฮม ในแคว้น เกรทเตอร์ แมนเชสเตอร์ ห่างจากเมืองแมนเชสเตอร์ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 8 ไมลส์คุณพ่อคือช่างไม้ คุณแม่เป็นพนักงานบัญชี เขาพักอยู่กับพ่อแม่ในแฟลตของรัฐบาลจนอายุ 10 ขวบ คุณพ่อเปิดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ เขาจึงย้ายไปอยู่แถบอีสต์ ยอร์คเชียร์  เขาเรียนหนังสือที่ โรงเรียน เบอเวอร์ลีย์ แกรมมา  อยู่ในเมืองฮัลล์ จนอายุ 18 ปี เข้ามหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม เรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ (สาขาเคมี) จนจบการศึกษาปี 1974

งานแรกของเขาคือบริษัทผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างเอสโซ จากนั้นเขาเรียนต่อด้าน MBA จนจบที่ลอนดอน บิสซิเนส สกูล ก่อนที่จะถูกดึงตัวเข้าไปทำงานกับบริษัทเงินทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ (private equity) ชื่อ แอดเว้นต์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งตอนนั้น เซอร์ จิม บอกว่า "ชีวิตที่มาถึงทางแยก" สุดท้ายเขาเลือกออกจากเอสโซ่ เพื่อมายังบริษัทเงินทุนและเริ่มต้นสร้างตัวเองจากจุดนั้น

จากนั้นร่วมทุนกับอดีตผู้บริหารเคมีภัณฑ์ก่อตั้งบริษัท Inspec เกี่ยวกับเคมีภัณฑ์ ปี 1992 ก่อนที่จะก่อตั้งบริษัท อีเนออส ในแฮมป์เชียร์ (ภาคใต้อังกฤษ) ในปี 1998 จพร้อมลุยลงทุนทุกสิ่งอย่าง จากศูนย์ จนประสบความสำเร็จอย่างสุดยอด

เอาไว้ให้เขาได้เป็นเจ้าของแมนฯยูฯ เมื่อไหร่ ผมจะมาเขียนบอกว่า "จุดแข็ง" ของท่านเซอร์เป็นอย่างไร ตอนนี้เก็บข้อมูลไว้แล้วครับ ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งประธานบริหาร อิเนออส เคมิคัลส์ กรุ๊ป 

เซอร์ จิม วัย 69 ปี เป็นนักธุรกิจที่ค่อนข้างเก็บตัวเงียบ ไม่เป็นข่าวมากนัก จนปี 2018 เดอะ ซันเดย์ ไทมส์ จัดลำดับให้เขาเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของอังกฤษด้วยสินทรัพย์มูลค่า 2,100 ล้านปอนด์  (เกือบแสนล้านบาท)  นั่นจึงทำให้ผู้คนให้ความสนใจในตัวของเขาขึ้นมาทันที  โดยสองปีก่อน บลูมเบิร์ก ประเมินรายได้ของเขาทั้งหมดไว้ที่ 2,800 ล้านปอนด์  รวยอันดับ55 ของโลกและอันดับสองของสหราชอาณาจักร

ชื่อของเขาในแวดวงธุรกิจนั้นเป็นที่รู้จักดีอยู่แล้ว แต่กลับโด่งดังยิ่งขึ้น ดังไปทั่วโลกเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมาเพราะมีข่าวว่าเขายื่นข้อเสนอซื้อสโมสรเชลซี แต่ปรากฏว่าวงเงิน 2,500 ล้านปอนด์ แพ้ ทอด โบห์ลี ในท้ายที่สุด 

6 เอริก เทน ฮาก หรือ แกรม พอตเตอร์

มันมีข่าวลือเมื่อเดือนที่แล้วเรื่อง แกรม พอตเตอร์ กับการมาทำงานแทน เอริก เทน ฮาก แต่เอาเข้าจริงๆ เรื่องนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เซอร์ จิม จะมีการไล่ เทน ฮาก ออกจากตำแหน่ง 

ทุกอย่างมันขึ้นกับผลงานนับจากนี้ด้วยเช่นกัน แม้บริษัทพนันที่ถูกต้องตามกฏหมายให้ราคาเต็งหนึ่งที่จะโดนไล่ออกก็ตาม

ส่วน พอตเตอร์ นั้นเป็นกระแสข่าวลือมาสักพักและเขาคือโค้ชคนอังกฤษที่เป็นหัวก้าวหน้า แม้ล้มเหลวกับเชลซี แต่แนวทางของ เซอร์ จิมนั้นต้องการความเป็นอังกฤษพอสมควร

สิ่งหนึ่งที่พอยืนยันได้ดีสำหรับนักลงทุนรายใหม่ของแมนฯยูไนเต็ดที่จะเข้ามาบริหารในส่วนทีมฟุตบอลนั้น....เขาคือแฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่เกิด

เซอร์ จิมเกิดที่ท้องถิ่น เฟลเวิร์ธ ละแวก โอลด์แฮม ห่างจากสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด 8 ไมลส์ โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาประกาศตัวเองชัดเจนว่าคือแฟนปีศาจแดงตัวจริง

ปี1999 เขานั่งเชียร์ แมนฯยูฯ ที่ คัมป์ นู วันที่คว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ หลังชนะบาเยิร์น2-1 อีกต่างหาก

ดังนั้นเมื่อมีข่าวแถลงออกมาแล้วว่าเขาซื้อหุ้น 25%  เขาพูดเสียงดังฟังชัด

"ผมจะนำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับคืนสู่ที่ๆ พวกเราเคยยิ่งใหญ่"

ที่เหลือ....พรีเมียร์ลีกจะตรวจสอบ4-6 สัปดาห์ และยูฟ่า มอนิเตอร์ กรณี เซอร์จิม เป็นเจ้าของทีมนีซ ที่มีโอกาสเตะสโมสรยุโรปกับ แมนฯยูไนเต็ดได้!!!

ส่วน..สาวกผีเฝ้ารอการเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้

บอกตรงๆ น่าจะไปในทางบวกนะครับ

JACKIE