เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ อภิอัครมหาเศรษฐีชาวเมืองผู้ดีเปิดปากแถลงทันควันหลังประสบความสำเร็จซื้อหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมรักเป็นจำนวน 25% เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค.
แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมดังของ พรีเมียร์ลีก แถลงข่าวใหญ่ในวันคริสต์มาสอีฟว่าตกลงขายหุ้น 25% ให้กับเซอร์ แรตคลิฟฟ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากมีการเจรจากันมานานถึง 13 เดือน
ต่อการถือครองหุ้นก้อนเล็กของสังเวียนแข้ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด คาดว่า เซอร์ แรตคลิฟฟ์ ควักกระเป๋าจ่ายเงินเป็นจำนวน 1.25 พันล้านปอนด์ (ราว 55,000 ล้านบาท) ซึ่งเท่ากับว่าตระกูลเกลเซอร์ยังคงเป็นเจ้าของหุ้นก้อนใหญ่ของสโมสร แต่มีการยืนยันให้นักธุรกิจชื่อดังควบคุมดูแลปฏิบัติการฟุตบอลของสโมสรได้ทันทีที่ พรีเมียร์ลีก ให้การรองรับซึ่งเชื่อว่าจะต้องใช้เวลาประมาณหกถึงแปดสัปดาห์
หลังคว้าหุ้นของ ผีแดง มาครองได้สำเร็จ เซอร์ แรตคลิฟฟ์ วัย 71 ปีได้แถลงทันทีว่า "ในฐานะเด็กท้องถิ่น และเป็นแฟนของสโมสรมาตลอดชีวิต ผมพอใจมากที่เราตกลงทำสัญญากับบอร์ดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แล้วต่อการเป็นฝ่ายจัดการรับผิดชอบปฏิบัติการฟุตบอลของสโมสร"
"แม้สโมสรจะประสบความสำเร็จในทางธุรกิจซึ่งเป็นหลักประกันถึงการมีเงินทุนต่อการพาทีมคว้าแชมป์ในระดับสูง แต่ในระยะหลังศักยภาพตรงนี้ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่"
"เราจะนำเอาความรอบรู้ และความเชี่ยวชาญของ INEOS Sport group มาช่วยผลักดันให้สโมสรพัฒนาอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งให้การสนับสนุนเงินทุนเพื่อการลงทุนในอนาคตกับถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เราจะอยู่ที่นี่ในระยะยาว และเราตระหนักถึงความท้าทายที่หลากหลาย เราพร้อมทำงานหนักอย่างเป็นมืออาชีพซึ่งเต็มไปด้วยความทุ่มเท"
"เรามุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับทุกคนในสโมสรทั้งบอร์ด สตาฟฟ์ นักเตะ และแฟนเพื่อผลักดันทีมไปข้างหน้า เรามีความทะเยอทะยานที่ชัดเจน เราอยากเห็น แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไปอยู่ในจุดเดิมที่เราเคยอยู่คือการเป็นยอดทีมของอังกฤษ ยุโรป และโลก"