ช่วงปลายปีถือเป็นช่วงที่สุดแสนวุ่นวายสำหรับสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเฉพาะการมีโปรแกรมที่ต้องลงแข่งแน่นเอี๊ยด รวมถึงเกมในช่วงเทศกาลซึ่งทำให้ทุกๆ ทีมแทบไม่มีเวลาหายใจ ที่สำคัญผลการแข่งขันอาจจะส่งผลต่อผู้จัดการทีมบางคนได้เลยทีเดียว
ก่อนหน้านี้ สตีฟ คูเปอร์ และ พอล เฮ็คคิ่งบ็อตท่อม กลายสภาพเป็นผู้จัดการทีมว่างงานไปเรียบร้อยแล้ว หลังโดน "เจ้าป่า" น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กับ "ดาบคู่" เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด สั่งเด้งกลางอากาศตามลำดับ
สำหรับตอนนี้มี 4 กุนซือที่กำลังอยู่ในกระแสจะโดนเด้ง โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่มีโปรแกรมลงแข่งเพียบ งานนี้บอกเลยว่าหากพวกเขาทำพลาดไม่สามารถเก็บผลการแข่งขันที่เหมาะสมได้ โอกาสที่จะโดนยื่นซองขาวเป็นของขวัญวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มีสูงเลยทีเดียว
เอริค เทน ฮาก
ต้องบอกว่าฤดูกาลที่สองในการทำงานของ เอริค เทน ฮาก เป็นเรื่องที่สุดแสนยากลำบาก หลังจากที่นำ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ พร้อมกับจบท็อปโฟร์เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ตอนนี้ผลงานของทีมกลับตาลปัตรแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า !
ผลงานเกมลีกน่าผิดหวังมากๆ เพราะตอนนี้พวกเขารั้งอยู่อันดับ 7 มี 28 คะแนน ห่างจากท็อปโฟร์ 6 คะแนน และห่างจาก อาร์เซน่อล จ่าฝูง 11 คะแนน แถมยังแพ้ในลีกถึง 7 แมตช์ นอกจากนี้ "ผีแดง" ยังร่วมตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
จริงๆ แล้วสถานการณ์ของ เทน ฮาก ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงจะตกงานมากๆ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะหลังจากแพ้ บาเยิร์น มิวนิค อดเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึก "บิ๊กเอียร์" พวกเขายังต้องทำศึก "แดงเดือด" ที่สนามแอนฟิลด์
อย่างไรก็ตามผลงานการวางแท็คติกรถบัสของ นายใหญ่ชาวดัตช์ ทำให้ "ผีแดง" คว้า 1 แต้มกลับบ้านแบบพลิกความคาดหมาย และนั่นทำให้ เทน ฮาก หายใจทั่วท้องสักพักใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะหายใจได้สะดวกสบายซะทีเดียว
เนื่องจาก 3 เกมต่อไปของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แก่การเกมเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด จากนั้นต้องเปิดรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้อนรับทีมฟอร์มแรงอย่าง แอสตัน วิลล่า ตามด้วยเกมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปะทะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์
จะว่าไปแล้ว เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ว่าที่ผู้ถือหุ้น แมนฯ ยูไนเต็ด สงสัยในฝีมือของ เทน ฮาก มาตลอด และถ้าหากเขาได้โอกาสเข้ามาดูแล "ผีแดง" มีความเป็นไปได้สูงที่จะเฉดหัว กุนซือโป๊งเหม่ง ออกไป และเลือก แกรม พอตเตอร์ ซึ่งเป็นคนที่ชื่นชอบส่วนตัว เข้ามาทำงานแทน
แว็งซองต์ กอมปานี
ผลงานในการนำ เบิร์นลี่ย์ คว้าแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ จนคว้าตั๋วไปเล่นศึกพรีเมียร์ลีก ส่งให้ชื่อของ แว็งซองต์ กอมปานี ให้กลายเป็นทายาทของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในการกุมบังเหียนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในอนาคต
อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกอย่างพลิกผันไปแล้ว เพราะผลงานของ "เดอะ คลาเร็ตส์" ในฤดูกาลแรกบนลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไม่น่าอภิรมย์เลยจริงๆ โดยปัจจุบันทีมกำลังกระเสือกกระสนดิ้นรนหนีการตกชั้นแบบเลือดตาแทบกระเด็น
สถานการณ์ในตอนนี้ เบิร์นลี่ย์ รั้งอันดับ 2 จากท้ายตาราง พร้อมสถิติน่าทึ่งด้วยการเก็บชัยชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้ 13 เกม มีเพียง 8 คะแนนเท่ากับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่ไม่ได้ลงไปจมบ๊วยเนื่องจากมีผลต่างประตูได้เสียติดลบดีกว่า "ดาบคู่"
โปรแกรมของพวกเขาต้องบอกว่าค่อนข้างเหนื่อจริงๆ เพราะต้องพบกับ ฟูแล่ม, รับมือ ลิเวอร์พูล ตามด้วยเยือน แอสตัน วิลล่า เห็นแบบนี้แล้วบอกเลยว่าโอกาสที่จะรอดค่อนข้างยากเหลือเกิน
รอย ฮ็อดจ์สัน
หลังจากที่อำลา คริสตัล พาเลซ เมื่อปี 2021 รอย ฮ็อดจ์สัน หวนกลับมาคุมทีมเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาเพื่อช่วยให้ทีมอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี หลังจากนั้น "ปู่รอย" ตกลงที่จะอยู่กับ "ดิ อีเกิ้ลส์" ต่อในฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่ได้สวยหรูเหมือนเดิมอีกแล้ว
ฟอร์มของ พาเลซ สามวันดีสี่วันป่วย ยกตัวอย่างในแมตช์กับ ลิเวอร์พูล พวกเขาเล่นได้ดี และมีโอกาสคว้าชัยชนะ แต่อยู่ดีๆ ฟอร์มก็หลุดดื้อๆ สุดท้ายโดน "หงส์แดง" ยิงคืนสองประตูรวดคว้าชัยชนะไปหน้าตาเฉย
สำหรับตอนนี้ พาเลซ รั้งอยู่อันดับ 15 โดยเชื่อหรือไม่ว่าทีมที่ยิงประตูได้น้อยกว่าพวกเขามีแค่ เบิร์นลี่ย์ กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด สองทีมท้ายตาราง นั่นแสดงให้เห็นว่าเกมรุกของพวกเขาน่าผิดหวังสิ้นดี
พาเลซ สะกดคำว่าชนะไม่เป็นมา 6 แมตช์ติดต่อกัน โดยโปรแกรม 3 แมตช์ของพวกเขาต้องบอกว่าน่าสนใจเช่นกัน เพราะเริ่มด้วยการรับมือ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน (วันพฤหัสบดีที่ 21 ธ.ค.) จากนั้นก็ไปเยือน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี และปะทะ เบรนท์ฟอร์ด
ฉะนั้นถ้าหากช่วงคริสต์มาสไปจนถึงสิ้นปี ผลงานของทีมยังไม่กระเตื้องงานนี้มีแววว่าคงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เพราะแววๆ มาว่าบอร์ดบริหารคงพร้อมที่จะแยกทางกับ ฮ็อดจ์สัน แน่นอน เพราะถ้าขืนยังทู่ซี้ใช้งานต่อไปทีมอาจเกิดหายนะมากกว่านี้
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
สำหรับคนสุดท้ายที่ดูแล้วอาจจะต้องเจอกับสถานการณ์กดดันมากเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้น เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เพราะเขาเข้ามากุมบังเหียน เชลซี ในช่วงซัมเมอร์ พร้อมกับความหวังที่สูงลิ่ว แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปดั่งที่คาดหวัง
แม้ว่า "พอช" จะนำ "สิงห์บลูส์" ทะลุเข้ารอบตัดเชือก ศึกคาราบาว คัพ ก็ตาม แต่ผลงานในลีกต้องบอกเลยว่าน่าย่ำแย่สิ้นดี เมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่สโมสรทุ่มทุนสร้างในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งรอบแรก
เชลซี รั้งอยู่อันดับ 10 มี 22 คะแนนห่างจาก อาร์เซน่อล คู่อริร่วมกรุงลอนดอนถึง 17 คะแนน ทำให้แฟนบอลของสโมสรรู้สึกเหมือนทีมจะก้าวหน้าหนึ่งก้าวจากนั้นก็ถอยหลังสองก้าว
จะว่าไปแล้วที่ผลงานของทีมไม่ค่อยดีอาจจะมาจากจำนวนผู้เล่นบาดเจ็บที่ยาวเป็นหางว่าว แต่หากพิจารณาจากขุมกำลังของทีมพวกเขาควรจะทำผลงานได้ดีกว่านี้ ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือโปเช็ตติโน่
อย่าลืมว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของทีมเป็นพวกเศรษฐีใจร้อน เพราะอยากเห็นความสำเร็จเร็วๆ ไม่เชื่อดูตัวอย่างจาก พอตเตอร์ ที่ทำทีมไม่ได้ดังใจก็โดนเฉดหัวออกจากถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ฉะนั้นในเกมลีก 3 แมตช์ต่อจากนี้ที่ต้องพบ วูล์ฟส์, คริสตัล พาเลซ และ ลูตัน ถ้า "พอช" ทำทีมไม่ได้ผลการแข่งขันที่ดี ขาเก้าอี้ของเขาสั่นคลอนชัวร์
ทอมเม้ง