ชัยชนะอันถล่มทลายของลิเวอร์พูลต่อเวสต์ แฮม ในศึกลีก คัพ รอบ 8 ทีมถึง 5-1 มีประเด็นให้เล่นกันต่อได้อีก เมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ บอสใหญ่ออกโรงติงแฟนหงส์ในสนามแอนฟิลด์คืนล่าสุดว่า
"ถ้าไม่พร้อมจะเชียร์ ยกตั๋วให้คนอื่นไปเถอะ"
มันเกิดอะไรขึ้นทั้งที่ไล่ขย่มค้อนฝั่งเดียวก่อนเข้ารอบรองชนะเลิศลีก คัพ ปีนี้ (รอบรอง vs ฟูแล่ม สัปดาห์ 8 ม.ค.นัดแรก)
ก่อนไปว่ากันตรงนั้นดูการจัดตัวแบบผสมๆของ เจเคก่อนครับ
เคลเลเฮอร์ ; โกเมส, ควอนซ่าห์, ฟานไดจ์, ซิมิกาส
; โซโบสไล, เอ็นโด, โจนส์
;เอลเลียตต์, กัคโป, ดาร์วิน นูนเยส
สำรองที่เปลี่ยนลงครึ่งหลัง โกนาเต (ฟานไดจ์), เทรนต์ (เอ็นโด) ซาลาห์ น.60 (โซโบสลไล), คอร์เนอร์ แบรดลีย์ (ซิมิกาส) น.69, ลุยส์ ดิอาส น.78 (กัคโป)
สิ่งที่ได้เห็นจากชัยชนะนัดนี้ในแง่แทกติก
1 ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น่าจะยืนปีกขวาช่วงที่ โม ซาลาห์ ไปเล่นแอฟคอน
2 เทรนต์ อเลกซานเดอร์-อาร์โนลด์ เล่นเบอร์ 6 ต่อเนื่อง หลังเปลี่ยน วาตารุ เอ็นโด ออก ซึ่ง วาตารุ ก็มาเล่นเอเชียน คัพ (อุ่นเครื่องไม่มีชื่อ) แน่ๆ
3 โคดี กัคโป มีโอกาสยืน "ฟอลส์ ไนน์" เพื่อแก้ปัญหาตัวรุกไม่ค่อยยิงช่วงหลัง
โอเค...ชนะอย่างงดงามแต่เดอะ บอสของเด็กหงส์ยังไม่วายบ่นสาวกเดอะ ค็อป ในสนาม ว่าไม่ค่อยเชียร์ ไม่ค่อยส่งเสียงกดดันเวสต์ แฮม เท่าไหร่เลย
ย้อนไปเมื่อหลังเกม "แดงไม่เดือด" แกรี่ เนวิลล์ แบ๊กขวาในตำนานที่ครั้งหนึ่งสมัยยังเฟื่องๆ โดนแฟนหงส์โหวตว่า "เป็นแบ๊กขวาที่น่าเกลียดที่สุดในยูเค" ได้แสดงทัศนะว่า "เกิดมาไม่เคยเห็นบรรยากาศในแอนฟิลด์เงียบที่สุด ทั้งที่แฟนบอล 57,000 สูงสุดนับจากยุค 60"
ล่าสุด เจเค เห็นด้วย "ครึ่งแรกเด็กๆเล่นกับเวสต์แฮม ได้สุดยอด แต่ผมกลับไม่มีความสุขกับบรรยากาศข้างหลังผม"
"ถามคำเดียวว่าพวกเขา (เดอะ ค็อปในสนาม) ต้องการอะไร พวกเราเปลี่ยนแทกติก และครอบครองเกมลุยแหลกใส่เวสต์แฮม และพลาดโอกาสได้ประตูหลายครั้ง หากผมมามาชมเกมนี้รับรองนั่งไม่ติดเก้าอี้ 100%"
"ผมไม่รู้ว่าเกมกับแมนฯ ยูไนเต็ด นั้นเลวร้ายถึงขั้นที่ว่าพวกเรา (ทีมนักเตะ) ต้องขอโทษแฟนๆด้วยที่พวกเราไม่ได้ขยี้แมนฯยูฯ"
ก่อนเสริมว่า...
"พวกเราต้องการแอนฟิลด์ในวันเสาร์นี้ อาร์เซน่อล ไม่มีเกมกลางสัปดาห์ พวกเขาเตรียมตัวอย่างดีแน่นอน พวกเราต้องการเสียงแฟนบอลตั้งแต่วินาทีแรกของเกม โดยผมไม่ต้องไปต่อล้อต่อเถียงกับโค้ชคู่แข่ง"
JK ตบท้ายอย่างน่ามีอารมณ์
"ถ้าเดือนธันวาคมมันมีเกมมากไป และคุณไม่พร้อมมาเชียร์ เอาตั๋วให้แฟนบอลที่อยากเชียร์เข้าสนามเถอะ"
ประเด็นนี้น่าสนใจ...เพราะระหว่างเกม "แดงเดือด" ผมแทบไม่ได้ยินเสียงตะโกนเชียร์เด็กหงส์มากมายนัก เข้าใจว่าทุกคนอึดอัดและเครียดกับการเจาะแดนสามผีแดงไม่ได้ บรรยากาศเลยไม่กดดันนักเตะผีแดงมากนัก
อันนี้เห็นด้วยกับนายใหญ่เจเค ทุกประการ
สิ่งที่ผมอยากวิเคราะห์ในมุมมองของผม...ก็อย่างที่เขียนและทำคลิปไปในยูทูปนั่นแหละ
เดอะ ค็อป ทั้งที่เมืองไทยและอังกฤษ มีความรู้สึกว่าทีมกำลังร่วมลุ้นแชมป์และมีโอกาสเป็นแชมป์ จะด้วยเหตุผลที่ผลงานดีขึ้น บวกกับผลงานของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตกลงไป อาร์เซนอลก็ไม่ได้หวือหวามากนักทั้งที่พวกเขายังอยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนปีที่แล้ว
เมื่อรู้สึกเช่นนั้นแต่ละเกมจึงเริ่มเข้าสู่โหมดของความกดดันตัวเองจนส่งสัญญาณลงสนามกดดันนักเตะด้วยอีกแรงหนึ่ง
กลายเป็นแทนที่จะกดดันคู่แข่งให้หวาดผวาจากคำว่า "ที่นี่ แอนฟิลด์" กลับกลายเป็นว่า แอนฟิลด์ คือ ป่าช้าไปซะอย่างนั้น
ด้วยความเคารพยังคงยืนยันนะครับ ฟุตบอลลีกอาชีพเล่นกัน 9 เดือน การโชว์ฟอร์มมีผลงานถึงขั้นจ่าฝูงและรองจ่าฝูง ด้วยแต้มที่เบียดๆกันแบบนี้ มันคือการบอกแค่ว่า "ทีมของคุณอยู่ในตำแหน่งที่ดีในกลุ่มผู้นำ" และ "มันมีโอกาสลุ้นแชมป์ได้" แต่หาใช่คุณสมบัติของแชมป์อะไรมั่ย
บอลจะเริ่มวัดกันอย่างจริงจัง หลังสิ้นเดือนม.ค. ไปแล้ว
มี.ค. ภาพจะชัด ทีมของคุณอาจหลุดวงโคจรลุ้นแล้วก็ได้
เม.ย. นี่แหละคือเดือนพิสูจน์ คุณสมบัติแชมป์ ประเภทเล่นไม่ดี และยิงไล่หลังมาชนะ มันต้องไปเกิดขึ้นในสองเดือนสุดท้ายของลีก
ต้นซีซั่นต้องเล่นดีและมีสามแต้ม เป็นต้นทุน เพราะปลายซีซั่น คุณอาจจะต้องสู้กับความกดดัน, สภาพทีมทั้งตัวเองและคู่แข่ง อาจต้องลุ้นก๊อกสองและสามเลยก็ว่าได้ อีกทั้งจะต้องมีเกมแบบเล่นไม่ดีแต่ไม่แพ้แถมพลิกชนะ
แบบนั้น....จึงจะบอกว่าได้ว่า when it's really matters หรือเกมที่จำเป็นต้องชนะคุณต้องชนะ นั่นคือการมีคุณสมบัติแชมป์
มันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหน
ดังนั้นสิ่งที่ เจเค ต้องการคือ "พลังจากแฟนบอลในแอนฟิลด์ เพื่อช่วยกระตุ้นนักเตะตัวเองและข่มขวัญคู่แข่ง"
ถ้าจำกันได้ปีที่แล้ว โดนอาร์เซนอลยิงนำ 2-0 แค่วินาทีที่ กรานิต ชาก้า โดน เทรนต์ ใส่ริมเส้น นั่นคือการปลุกเสียงเชียร์ให้ดัง และกระตุ้นนักเตะจนได้ผลตีเสมอ 2-2 ทั้งที่ทีมชุดนั้นเริ่มโรยราแล้ว
การที่เจเค ออกมาบอกว่า เราต้องการแอนฟิลด์ ในวันเสาร์นี้ เป็นการดึงสติแฟนหงส์ที่ปล่อยไปกับคำว่า "แชมป์" ให้กลับมาส่งพลังให้ทีมอีกครั้ง
เล่นกับอาร์เซนอล บอลมาตรฐานเดียวกันและอาจจะดูเหนือกว่าในเรื่องการสร้างพัฒนาทีม แทกติก คุณภาพนักเตะใกล้เคียงกัน แทบไม่มีอะไรแตกต่าง ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้หงส์แดงได้เปรียบในบ้านตัวเอง.....
"This is Anfield"
จะทำได้มั้ย...ทำได้หรือเปล่า
JACKIE