ถึงตอนนี้เรายังไม่รู้ว่า อลีสซง เบ็คเกอร์ บาดเจ็บหนักมากแค่ไหน โดยทั่วไปเมื่อเกิดขึ้นตรงแฮมสตริง ขั้นต่ำที่ต้องพักคือ 3 สัปดาห์
แฮมสตริง แบ่งเป็นระดับขั้น 1, 2, 3 ระดับแรกเป็นอาการตึงใช้เวลาพัก 3-6 สัปดาห์ หนักกว่านั้นก็ขั้น 2 ที่ฉีดขาดเล็กน้อยพักอย่างน้อยก็ 2 เดือน ส่วนขั้นสามฉีกขาดเยอะอันนี้ต้องผ่าตัดซึ่งกินเวลาต่ำ ๆ ครึ่งปี
หวังว่าเคสของ อลีสซง จะไม่ได้ถึงระดับขั้นสองนะครับ มิเช่นนั้นส่งผลเสียต่อ ลิเวอร์พูล แน่
คนที่จะต้องก้าวขึ้นมาทดแทนหนีไม่พ้น ควีวิน เคลเลเฮอร์ ที่เพิ่งอายุครบ 25 ปีมาหมาด ๆ
คงเป็นโชคดีของ ลิเวอร์พูล เหมือนกันที่ไม่ได้ปล่อยนายด่านไอริชออกไปตอนซัมเมอร์ เมื่อมองถึงการที่ อลีสซง เจ็บในตอนนี้
การทำหน้าที่แทน อลีสซง ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ เคลเลเฮอร์ แน่นอน
มาตรฐานที่ผู้รักษาประตูแซมบ้าตั้งไว้มันสูงเสียเหลือเกิน
เขาเป็นหนึ่งในคนเฝ้าเสาที่ผลงานดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก มีตัวเลขเปอร์เซ็นต์การเซฟสูงสุดที่ 79.3%
ตัวเลขค่า xG ที่ ลิเวอร์พูล จะเสียประตูอยู่ที่ 13.4 แต่ อลีสซง ช่วยปัดป้องไม่ให้มากกว่านั้น เขาเสียไป 10 ประตู เท่ากับว่าช่วยลดไม่ให้ทีมเสียประตูได้ถึง 3.4
สถิตินี้เป็นรอง โธมัส คามินสกี้ (6.3), อ็องเดร โอนาน่า (3.7) และ เนโต้ (3.5) สามคนเท่านั้น
ที่ผ่านมา ทีมงานสตาฟฟ์ ลิเวอร์พูล เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่าพวกเขาอุ่นใจที่มี เคลเลเฮอร์ เป็นทางเลือกต่อจากมือหนึ่ง
และถึงตอนนี้ เคลเลเฮอร์ กำลังจะได้ทำหน้าที่นี้อีกหลายนัด
30/11 ลิเวอร์พูล VS แอลเอเอสเค (ยูโรปา ลีก)
3/12 ลิเวอร์พูล VS ฟูแล่ม
6/12 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด VS ลิเวอร์พูล
9/12 คริสตัล พาเลซ VS ลิเวอร์พูล
14/12 ยูเนี่ยน เซนต์ กิลลอยส์ VS ลิเวอร์พูล (ยูโรปา ลีก)
17/12 ลิเวอร์พูล VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
20/12 ลิเวอร์พูล VS เวสต์แฮม (คาราบาว คัพ)
23/12 ลิเวอร์พูล VS อาร์เซน่อล
ความล้มเหลวในการผ่านไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ ลิเวอร์พูล ส่งผลดีต่อตัว เคลเลเฮอร์ ที่ทำให้เขาได้โอกาสเฝ้าเสามากขึ้นบนเกม ยูโรปา ลีก
การได้ลงเล่นต่อเนื่องแบบนั้น (ตัวจริง 3 จาก 4 เกม) ถือว่าช่วยได้ดี
แค่ฤดูกาลนี้เขาก็ได้ลงเล่น (5 เกม) มากกว่าตลอดทั้งซีซั่นก่อนแล้ว (4 นัด)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ ลิเวอร์พูล จะชนะได้ 4 เกมจาก 5 นัดที่เขาได้เป็นตัวจริงในการเล่นทุกรายการ แต่ เคลเลเฮอร์ เสียประตูทุกนัดเช่นกัน แถมบางเกมฟอร์มก็ไม่ได้ดูดีเท่าไหร่
จุดเด่นที่สุดของ เคลเลเฮอร์ ในฤดูกาลก่อนคือการลงเป็นตัวแทนของ อลีสซง ได้แบบไม่มีอาการแตกตื่น
มันเป็นเรื่องยากที่จะรักษามาตรฐานให้อยู่ในระดับสูงได้หากยังขาดจังหวะการเล่นที่ดีและไม่มีความเข้าใจเกมที่ดี
แต่การได้เล่นใน ยูโรปา ลีก กับ คาราบาว คัพ รวมกัน 5 นัดในฤดูกาลนี้จะช่วยเขาได้แน่
ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกเมื่อพิจารณาถึงการที่ เคลเลเฮอร์ ขาดจังหวะการเล่นที่ดีเวลาลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล รวมถึงจากความกดดันที่เกิดจากการเป็นตัวแทนผู้รักษาประตูอย่าง อลีสซง
เพื่อนกองหลังที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็สำคัญต่อการโชว์ฟอร์มเช่นกัน
ถึงตอนนี้ เคลเลเฮอร์ ต้องเล่นร่วมกับแผงหลังที่เปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตารวมกันถึง 6 คน
บางทีในช่วงเวลาแบบนี้ ลิเวอร์พูล อาจจำเป็นต้องหาคนมาช่วยปกป้อง เคลเลเฮอร์ ให้ดีกว่านี้เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในแต่ละเกม
เช่นเลือกใช้ โจ โกเมซ ที่มีประสบการณ์ มากกว่าส่ง จาเรลล์ ควอนซาห์ เป็นตัวจริงในเกม ยูโรปา ลีก
เคลเลเฮอร์ ถูกกำหนดให้เป็นตัวจริงในเกมกับ แอลเอเอสเค ในวันพฤหัสบดีนี้อยู่แล้ว
แต่ตอนนี้มันถึงเวลาที่เขาควรจะต้องแสดงให้เห็นว่าทำไมตัวเองถึงได้รับคำชมมากนักจากคนในสโมสร
ถ้าเราไม่อยากพูดถึงเรื่องเลวร้ายจากการที่ อลีสซง จะไม่ได้ลงเล่นในหลายสัปดาห์ต่อจากนี้แล้วล่ะก็ ตัวสำรองของเขาจำเป็นต้องทำผลงานตรงตามความต้องการให้ได้
HOSSALONSO