เฉลยเอง!แมนยูเผยที่มาท่าฉลองใหม่โรนัลโด้ (มีคลิป)

เฉลยเอง!แมนยูเผยที่มาท่าฉลองใหม่โรนัลโด้ (มีคลิป)
แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดเผยที่มาของท่าฉลองประตูใหม่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งกลายเป็นที่นิยมจนมีคนทำตามแล้วด้วย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรว่าท่าฉลองประตูของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเกมที่ "ปีศาจแดง" ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น เป็นการล้อเลียนตัวเองที่ชอบนอนหลับด้วยท่าดังกล่าวเวลาเดินทางร่วมกับทีม

นัดดังกล่าว โรนัลโด้ เป็นคนทำประตูชัยให้กับทีม โดยมันถือเป็นลูกแรกของเขาใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ด้วย ซึ่งหลังจากยิงเข้าไปแล้วนั้นเจ้าตัวก็ฉลองด้วยท่าที่เอามือมาประกบกันตรงหน้าอกแล้วปิดตาจนเหมือนกับเป็นการนอนหลับ โดยที่ อันโตนี่ มาร่วมฉลองด้วยท่าเดียวกัน

ทั้งนี้ ท่าดังกล่าวทำให้แฟนบอลบางคนแปลกใจ เพราะปกติแล้วตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา โรนัลโด้ มักจะฉลองประตูด้วยการกระโดดกางแขนกับเขาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาไปแล้ว กระทั่งล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เฉลยที่มาของท่าใหม่เอง

แมนฯ ยูไนเต็ด เผยผ่านเว็บไซต์ของพวกเขาว่า "เราสามารถเปิดเผยได้ว่าท่าฉลองของ โรนัลโด้ นั้น เป็นการล้อตัวเองกับบรรดาเพื่อนร่วมทีมของเขา ซึ่งมันเป็นการแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นระหว่างนักเตะในทีมของ เอริค เทน ฮาก"

"แน่นอน คริสเตียโน่ ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการดูแลตัวเองอยู่เสมอ และทำให้มั่นใจว่าเขาจะมีสภาพร่างกายที่ดีที่สุดอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้มันก็ต้องมาจากการทำงานอย่างหนักในสนาม, ในโรงยิม และรวมถึงการพักผ่อนในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อทำให้มั่นใจว่าเขาจะนอนหลับได้เพียงพอและส่งผลดีต่อการฟื้นฟูตัวเองตามไปด้วย"

"ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานแล้วว่า โรนัลโด้ มักจะหาโอกาสงีบหลับหลายครั้งต่อ 1 วัน! ซึ่งการฉลองของ CR7 ในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เป็นการสื่อถึงเรื่องที่ว่าเขามักจะนอนด้วยท่านั้นตอนที่เขาต้องเดินทางร่วมกับทีม และบรรดาเพื่อนร่วมทีมที่อยากเรียนรู้จากเขาก็เห็นเขานอนท่านั้นเป็นประจำ"

แม้ว่า โรนัลโด้ จะเพิ่งโชว์ท่านั้นเป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่มันก็มีคนทำตามแล้ว นั่นคือ ดีเอโก้ โมเรยร่า นักเตะจากทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีของ เบนฟิก้า ที่ทำท่านั้นหลังยิงประตูใส่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในเกม ยูฟ่า ยูธ ลีก (เทียบเท่ากับ แชมเปี้ยนส์ ลีก ของทีมเยาวชน) เมื่อวันอังคารที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมา


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport