ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวตั้งตัวเป็นหัวหอกในการไล่ล่ากดดัน พรีเมียร์ลีก ให้รีบเร่งลงโทษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สถานหนักอย่างฉับพลันทันทีไม่มีข้อแม้ โทษฐานละเมิดกฎการเงินมากมายมหาศาลถึง 115 กระทง ภายหลังเพิ่งสั่งตัดคะแนน เอฟเวอร์ตัน ที่ถูกมองว่าหนักหนาสาหัสมากๆ ด้วยข้อหาเดียวกัน ทั้งๆ ที่มีแค่กระทงเดียวโดดๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
"ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" หล่นลงไปอยู่โซนตกชั้นหลัง 10 คะแนนหายวับไปกับตา เหลือเพียง 4 คะแนนจาก 12 นัด รั้งอันดับ 19 หลังกระทำผิดกฏการทำกำไรและความยั่งยืน โดยกฎดังกล่าวอนุญาตให้ทีมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีขาดทุนได้มากที่สุด 105 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,620 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลาสามปี แต่คณะกรรมการอิสระพบว่า เอฟเวอร์ตัน ขาดทุนในฤดูกาล 2021-22 ถึง 124.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,478 ล้านบาท) หรือเกินกว่ากำหนด 19.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 858 ล้านบาท) ด้วยกัน
"เรือใบสีฟ้า" ซึ่งหวนกลับมาอยู่ในท่ามกลางความสนใจอีกครั้งหลัง เอฟเวอร์ตัน โดนตัดแต้มนั้น โดนถึง 115 คดีแหกกฎการเงิน "ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์" (เอฟเอฟพี) ระหว่างเดือนกันยายน 2009 เรื่อยมาจนถึงฤดูกาล 2017-18 โดยเกิดขึ้นในช่วงที่ ชีค มานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร (ตั้งแต่ปี 2008) ซึ่งว่ากันว่าบทลงโทษอาจเป็นไปได้ตั้งแต่ปรับเงินไปจนถึงตกชั้นได้เลยทีเดียว
แฟนบอลจำนวนมากของสโมสรต่างๆ กำลังตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงได้ใช้เวลายาวนานมากๆ กับการสรุปจบคดีฉาวโฉ่ของ "ทริปเปิ้ลแชมป์" ฤดูกาลที่แล้ว ในขณะที่คดีของทีมดังสีน้ำเงินแห่งย่าน เมอร์ซี่ย์ไซด์ มาทีหลังแท้ๆ แต่ลงดาบเชือดภายในระยะเวลาอันสั้น
ฟุตบอล อินไซเดอร์ (Football Insider) เว็บไซต์ข่าวสารวงในแวดวงลูกหนัง ยืนยันว่า "หงส์แดง" กำลัง "นำขบวนในการผลักดัน พรีเมียร์ลีก ให้เร่งสะสางคดีการเงินของ แมนฯ ซิตี้" พร้อมกับเรียกร้องให้มี "บทลงโทษขั้นรุนแรงโดยทันที" อีกต่างหาก
ลิเวอร์พูล นั้น ถือว่าเป็นผู้ท้าชิงตัวจริงของ แมนฯ ซิตี้ สำหรับถ้วยชนะเลิศ พรีเมียร์ลีก ถึง 3 ใน 5 ฤดูกาลหลังสุดเลยทีเดียว แถมยังเคยเอาชนะ "เดอะ ซิติเซ่นส์" ไปได้อย่างสบายๆ ในการคว้าแชมป์ประจำซีซั่น 2019-20 มาแล้วด้วยซ้ำไป
รายงานระบุว่าในฐานะหนึ่งในคู่แข่งสำคัญ ลิเวอร์พูล "กำลังโยนความกดดันใส่ พรีเมียร์ลีก ในการชำระสะสางการสอบสวนดำเนินคดีเจ้าของ 3 แชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วขององค์กร โดย ลิเวอร์พูล ปรารถนาให้เกิดการตัดสินตามหลักการที่ถูกที่ควรให้ได้ก่อนเปิดฉากฤดูกาล 2024-25"
คีแรน แม็กไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินในโลกฟุตบอล ยืนยันว่า แมนฯ ซิตี้ จะไม่ต้องเป็นกังวลกับการทำสถิติใหม่ในแง่ใบเสร็จค่าเหนื่อยสูงที่สุดในบรรดาทีม พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2022-23 เนื่องจากสามารถจ่ายค่าแรงได้อีก 70-80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,080-3,520 ล้านบาท) โดยที่ยังคงอยู่ภายใต้ขีดจำกัดตามที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) กำหนดเอาไว้
"ซิตี้ จะผ่อนคลายสบายใจได้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อเป็นเรื่องของใบเสร็จค่าเหนื่อย" แม็กไกวร์ กล่าวผ่าน ฟุตบอล อินไซเดอร์ "ความสำคัญของตัวเลขก็คือพวกเขาจ่ายค่าเหนื่อยเท่าไหร่ก็ได้แต่ต้องได้สัดส่วนกับรายรับ และนั่นก็แค่ 58-59 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง"
"พวกเขายังคงต่ำกว่าเป้าหมาย 70 เปอร์เซ็นต์ของ ยูฟ่า ดังนั้น พวกเขายังจ่ายได้อีก 70-80 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,080-3,520 ล้านบาท) ในแงค่าเหนื่อย และยังคงอยู่ภายใต้ข้อจำกัดอีกต่างหาก ดังนั้น ซิตี้ จะค่อนข้างผ่อนคลาย ค่าเหนื่อยมากมายเหล่านั้นมาจากโบนัสสารพัดที่ทำได้ตามเป้าหมายจากความสำเร็จสามแชมป์ของสโมสรนั่นเอง"
"พวกเขามีโครงสร้างการจ่ายเงินด้วยแรงจูงใจสูงมากๆ ที่ ซิตี้ ซึ่งทุกๆ คนต่างได้รับผลประโยชน์ในปีที่ดี และทุกๆ คนต่างก็ย่ำแย่ในปีที่ไม่ดี ตามพื้นฐานการคำนวณของผมแล้ว ค่าเหนื่อยโดยเฉลี่ยต่อสัปดาห์ที่ ซิตี้ เท่ากับวีกละ 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ตอนที่ ชีค มานซูร์ เข้ามาใหม่ๆ และกลายมาเป็นวีกละ 196,000 สัปดาห์ (ประมาณ 8.6 ล้านบาท) ในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจไปเลยทีเดียว นี่คือความมหัศจรรย์อย่างที่สุด" กูรูเรื่องเงินลูกหนังระบุ