ตกตะลึงพรึงเพริดไปตามๆกันเมื่อจู่ๆ ยูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ กุนซือทีมชาติ เยอรมัน คิดอะไรไม่ทราบจับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ดาวเตะตัวรุกมาเล่นเป็นแบ็คซ้ายในเกมอุ่นเกือกกับ ตุรกี
อดีตดาวเตะทีม เชลซี ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผลงานการค้าแข้งกับทีมเงินถังของกรุงลอนดอน แต่ไม่วายที่ มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่ อาร์เซน่อล จะควักกระเป๋า 65 ล้านปอนด์ดึงสตาร์วัย 24 ปีมาร่วมชายคา
กระทั่งล่าสุด ฮาแวร์ตซ์ ได้ลงเล่นเป็นแบ็คซ้ายให้ทีมเจ้าภาพ ฟุตบอลยูโร 2024 ในเกมอุ่นแข้งกับ ตุรกี ที่ เบอร์ลิน เมื่อวันเสาร์โดยเจ้าตัวยิงประตูแรกของเกมได้ด้วย แต่สุดท้ายทำแฮนด์บอลจนเสียลูกโทษที่ทำให้ทีมเยือนพลิกแซงกำชัยไปด้วยสกอร์ 3-2
ถึงกระนั้น ฮาแวร์ตซ์ ได้รับคำชมอย่างล้นหลามว่าโชว์ฟอร์มภายใต้บทบาทใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ยังไม่แน่ว่า นาเกิ้ลส์มันน์ จะมอบ
หน้าที่ใหม่นี้ให้กับเขาอย่างถาวรหรือเปล่า
แต่ก่อนที่ ฮาแวร์ตซ์ จะเปลี่ยนตำแหน่งแล้วดูเหมือนจะรุ่ง นี่คือ 10 ดาวเตะที่ไปได้สวยหลังโยกมาเล่นในตำแหน่งใหม่
- เธียร์รี่ อองรี
ก่อนย้ายมาร่วมทีม อาร์เซน่อล อองรี สวมบทปีกให้กับ ยูเวนตุส ได้อย่างเลวร้าย แต่สุดท้ายเขากลายเป็นคนใหม่หลังจาก อาร์แซน เวนเกอร์ ดึงเขามาที่ ไฮบิวรี่
พร้อมกันนี้ กุนซือสมองเพชรยังเปลี่ยนดาวเตะเลือดน้ำหอมให้หันมาเล่นเป็นหมายเลข 9 ซึ่งทำให้เขาระเบิดประตูให้ทีม ปืนใหญ่ ได้อย่างมหาศาล 228 เม็ดในเวลาแปดปี
- แกเร็ธ เบล
เป็นที่รู้กันดีว่าในช่วงต้นอาชีพ เบล เคยเล่นเป็นแบ็คซ้ายมาก่อน แต่มันอาจไม่ใช่ตำแหน่งที่เหมาะสมกับเขา
จนในที่สุด แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ กุนซือทีม สเปอร์ส จับเขาลงเล่นเป็นปีกซ้าย และกลายเป็นว่าสตาร์ทีมชาติ เวลส์ สร้างชื่อได้อย่างยอดเยี่ยมกระทั่งส่งผลให้เขาได้เซ็นสัญญากับ เรอัล มาดริด ทีมยักษ์ของ ลา ลีกา
- ฮาเวียร์ มาสเคราโน่
โดยปกติ ลิเวอร์พูล ใช้งานดาวเตะอาร์เจนไตน์ในตำแหน่งกองกลาง แต่สำหรับ บาร์เซโลน่า พวกเขาเปลี่ยนตำแหน่งให้กับดาวเตะอเนกประสงค์ลงเล่นต่ำลงไปอีก
และที่สำคัญ เขากลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของถิ่น คัมป์นู กับการพาทีมซิวแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก สองหนในเวลาแปดปีที่ค้าแข้งอยู่ในกาตาลัน
- แว็งซ็องต์ กอมปานี
อาจเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ แต่ความจริงแล้ว มาร์ค ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีมที่ดึง กอมปานี มาร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ ส่งเขาลงเล่นในแดนกลาง แถมดาวเตะทีมชาติ เบลเยี่ยม เคยยืนยันด้วยว่าเป็นตำแหน่งโปรดของเขา
อย่างไรก็ดี กอมปานี กลายมาเป็นยอดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟในท้ายที่สุดจากการสร้างชื่อใน พรีเมียร์ลีก พาทีม เรือใบสีฟ้า ในยุคต่อมาประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
- คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ในช่วงต้นอาชีพพ่อค้าแข้ง "ซีอาร์เซเว่น" สร้างชื่อเป็นปีกตัวอันตรายที่กองหลังฝ่ายตรงข้ามพากันหัวหมุน แต่หลังย้ายมาเล่นเป็นกองหน้าให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด สตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส เพิ่มความอันตรายให้กับตัวเองอีกโข
จวบจนวันนี้เขาสถาปนาตัวเองเป็นหัวหอกชั้นยอดไปแล้วจากการมีคุณสมบัติสอยตาข่ายได้อย่างครบเครื่องทั้งลูกยิง ลูกโขก ลูกฟรีคิก และลูกโทษ
- อันเดรีย ปีร์โล่
แรกเริ่มเดิมที ปีร์โล่ ยึดบทบาทเป็นหน้าต่ำที่เล่นอยู่หลังหัวหอก แต่ทำไปทำมาดาวเตะอิตาเลี่ยนกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะในตำนานไปซะแล้ว
และเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เปลี่ยนให้เขาถอยลงต่ำไปเล่นอยู่หน้าแผงหลังให้กับ เอซี มิลาน ซึ่ง ปีร์โล่ ยอมรับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอาชีพของเขา
- แกเร็ธ แบร์รีย์
นับเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์อีกราย และสุดท้ายหันมาได้ดีกับการสวมบทมิดฟิลด์
จุดเริ่มต้นเป็นเพราะว่า มาร์ติน โอนีลล์ ส่งเขาลงเล่นในแดนกลางของ แอสตัน วิลล่า ถี่ยิบ และเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้นทุกทีกระทั่งได้ย้ายไปร่วมทีม แมนฯ ซิตี้ และมีดีกรีเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก รวมทั้ง เอฟเอคัพ
- ไรอัน กิ๊กส์
ในฐานะนักเตะที่มีความเร็วจัด กิ๊กส์ จึงสร้างชื่อได้อย่างระบือลือลั่นในตำแหน่งปีกตัวกลั่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด
หากแต่หลังมีอายุเกินกว่า 30 ปี ดาวเตะทีมชาติ เวลส์ จึงหันมาใช้มันสมองแทนความคล่องตัวด้วยการเปลี่ยนมาสวมบทมิดฟิลด์ตัวกลางซึ่งเปิดโอกาสให้เขาได้ค้าแข้งต่ออย่างยาวนานจนมีอายุ 40 ปี
- ฟิลิปป์ ลาห์ม
ดาวเตะทีมชาติ เยอรมัน มีความช่ำชองที่สามารถเล่นได้ทั้งสองฟากฝั่งของสนาม
แต่เป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่มองว่าเขาสามารถรับภาระเป็นมิดฟิลด์ได้ และเปลี่ยนตำแหน่งให้กับกองหลังทีม บาเยิร์น มิวนิค จนทำให้เขาสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับสโมสร รวมถึงการพาทีม อินทรีเหล็ก คว้าตำแหน่ง แชมป์โลก ปี 2014 ได้ด้วย
- อันโตนิโอ วาเลนเซีย
หลังเริ่มค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างน่าพึงพอใจ ปีกทีมชาติ เอกวาดอร์ ก็เริ่มมีผลงานที่ตกต่ำลงทุกทีจนทำท่าว่าจะโดนโละออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด
อย่างไรก็ดี หลังย้ายมาปักหลักเล่นเป็นแบ็คขวา วาเลนเซีย ก็เหมือนกลับชาติมาเกิดโดย โชเซ่ มูรินโญ่ เคยเอ่ยยกย่องเขาอย่างเลิศเลอว่าเป็น "แบ็คขวาที่ดีที่สุดในโลก"