ตกแต่งบัญชี เอฟเวอร์ตัน โดนตัด 10 แต้ม

ข่าวนี้มีมาสักพักหนึ่งแล้วว่าคณะกรรมการพิจารณาอิสระของพรีเมียร์ลีกสอบสวนเรื่องงบการเงินเอฟเวอร์ตันระหว่างซีซั่น 2019-2022 สามฤดูกาลเต็ม จนทราบว่าทีมทอฟฟียื่นงบการเงินไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ฝ่ายตรวจสอบบัญชีตรวจพบได้ นั่นจึงทำให้มีการไต่สวนตลอด 5 วันช่วงตุลาคมที่ผ่านมา 

จนเป็นผลทำให้เอฟเวอร์ตันต้องรับโทษโดนตัดแต้ม 10 คะแนน มีผลทันทีในซีซั่นนี้

ดังนั้นตารางคะแนนล่าสุดของเอฟเวอร์ตันจึงหล่นมาอยู่ที่ 19 มี 4 แต้มเท่านั้นเอง

นี่คือการตัดแต้มสโมสรสูงสุดในพรีเมียร์ลีก ก่อนหน้านี้มี มิดเดิลส์โบรช์ โดนตัด3 แต้มเพราะไม่ยอมแข่งขันกับแบลคเบิร์น ซีซั่น 1996-97 อ้างว่านักเตะป่วยทั้งทีม และ พอร์ตสมัธ ปี 2010 โดนตัด 9 แต้ม เนื่องจากทีมเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างหนี้ (administration)  

เรื่องราวเบื้องลึกเป็นอย่างไร ลองอ่านกันดูครับ

- งบการเงินพรีเมียร์ลีก

กฏงบการเงินพรีเมียร์ลีกนั้นสอดคล้องกับยูฟา  FFP (Financial Fairplay) คือการลงทุนนั้นแยกส่วนกันระหว่าง "เงิน" เจ้าของทีม กับ "เงิน" ที่ได้จากผลประกอบการส่วนฟุตบอล

"เงิน"เจ้าของทีมสามารถนำไปใช้ในการสร้างสนามแข่ง, สนามซ้อม, พัฒนาทีมบอลหญิง, ทีมเยาวชน , วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ 

"เงิน" จากผลประกอบการส่วนฟุตบอลต้องมาจาก "รายรับ" และ "รายจ่าย"ที่เกี่ยวกับทีมบอลเช่น "ขายนักเตะ"  , ผู้สนับสนุนทีม, ตั๋วชมเกม, ของที่ระลึก, ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ทีวี (รวมเงินรางวัลแข่งขัน) รายจ่ายก็ซื้อนักเตะ (ค่าตัว), ค่าจ้างนักเตะ, โค้ช, สตาฟ ทั้งหลาย....

พรีเมียร์ลีกและยูฟา กำหนดกฏงบการเงินคล้ายๆกันคือ บริหารทีมให้"ขาดทุน" ได้จำนวนก้อนหนึ่งใน3 ฤดูกาลแข่งขัน 

ทางพรีเมียร์ลีกกำหนดตัวเลขที่สโมสรบริหารทีมให้ขาดทุนได้สูงสุด £105 ล้าน

หรือซีซั่นละ £30 ล้าน โดยประมาณ ซึ่งพรีเมียร์ลีกเรียก profit and sustainability rules (PSR)  หรือผลกำไรและความยั่งยืนด้านการเงินของสโมสร

คำจำกัดความชัดเจน...อยู่แล้ว

- ความผิดของเอฟเวอร์ตัน

ทีมทอฟฟียื่นงบการเงินให้พรีเมียร์ลีกใน 3 ฤดูกาลดังกล่าวเป็นตัวเลขขาดทุนเฉพาะซีซั่น 2021-22 แค่ £44ล้าน แต่ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระของพรีเมียร์ลีกตรวจพบว่าจริงๆแล้ว เอฟเวอร์ตันขาดทุนซีซั่นนี้ถึง £124.5 ล้าน แล้วรวมสามซีซั่นสูงถึง£372 ล้าน 

เกินตัวเลขของ  PSR ที่ระบุไว้ £105 ล้าน....

เหตุผลหลักที่ทีมบริหารทอฟฟี ทำผิดพลาดคือ "ซื้อนักเตะแพง" เกินไป และไม่สามารถขายนักเตะออกไปจากทีมเพื่อหาเงินเข้าสโมสรได้มากนัก แถมอันดับคะแนนตกไปใกล้โซนตกชั้นเงินส่วนแบ่งจากอันดับในลีกจึงน้อยตาม ลิขสิทธิ์ก็ได้ไม่มาก เพราะออกจอทีวีน้อยกว่าทีมอื่นๆ เป็นต้น

เรื่องการสูญเสียรายได้จาก "สิทธิ์ชื่อสนามใหม่" จากกลุ่มทุนรัสเซีย ฝั่ง อลิสเชอร์ อุสมานอฟ กลุ่มทุน  USM หุ้น 49% ของเอฟเวอร์ตัน เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์ อุสมานอฟ หลังจากรัสเซียบุกยูเครน เมื่อ มี.ค. 2022 โดย รัฐบาลอังกฤษระบุว่า อุสมานอฟ คือเครือข่ายธุรกิจของ วลาดิเมียร์ ปูติน 

เงินรายรับก้อนนี้จึงหายไปเยอะเลย....

โดยผลการไต่สวนตลอดห้าวันเมื่อต.ค.ที่ผ่านมาพบว่า "ฝ่าฝืน" งบการเงินจริงก่อนประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พ.ย. ว่ายื่นเอกสารเป็นเท็จต้องโดนตัดแต้ม 10 แต้มมีผลในซีซั่นนี้ทันที

ในอดีตเคยมีการโดนตัดแต้มเรื่องบริหารการเงินหลายกรณี เอาล่าสุด ดาร์บี เคาน์ตี้ ซีซั่น 2021-22 โดนไป 21 แต้ม  บริหารผิดพลาดจนทีมต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้  ถ้าเข้าสู่กระบวนนี้โดน 12 แต้ม จากนั้นอีกสองสามเดือนต่อมาโดนอีก 9 แต้ม เพราะเจ้าของทีมบริหารการเงินผิดพลาด รวม 21แต้ม

ลูตัน ทาวน์ ซีซั่น 2008-09 โดนตัด 30 แต้ม โดย 20 แต้มแรกจากกรณีนำทีมสู่กระบวนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยไม่แจ้งต่อฝ่ายตรวจสอบหนี้สินฟุตบอลลีก ส่วนอีก 10 แต้มโดนเรื่องการซื้อขายที่ไม่ตรงกับตัวเลขจริง

ลูตัน ทาวน์ ตกชั้นออกไปนอกลีก ครั้งแรกรอบ 89 ปี ก่อนจะไต่เต้ากลับมาถึงขั้นขึ้นพรีเมียร์ลีกได้ใน 14 ปี 

- สนามและเจ้าของใหม่

เมื่อก.ย. ฟาฮัด โมชิรี นักธุรกิจเลือดอิหร่านตกลงขายหุ้น 94% ให้กลุ่มทุนอเมริกันทีชื่อ  777 Partners ตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบเรื่องบัญชีและ ธรรมาภิบาลเจ้าของและผู้บริหารทีม ( fit and proper owners test)

ส่วนสนามใหม่เอฟเวอร์ตันที่บริเวณ แบรมลีย์-มอร์ ด็อค ริมฝั่งแม่น้ำเมอร์ซีย์ เยื้องๆตึกนก หรือ  Royal Liver Building (ศาลาว่าการเมืองลิเวอร์พูล) น่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2024 

- แมนฯซิตี้และเชลซี ล่ะ?

กรณี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดนพรีเมียร์ลีกตั้งข้อกล่าวหาว่า "ละเมิด" งบการเงิน 115 รายการ เมื่อ ก.พ. 2023 ซึ่งผมเขียนลงเพจ JACKIE อันเก่า (เดี๋ยวให้ทีมงานไปcopyมาให้อ่าน) ไปแล้ว

ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนสู้คดีกัน โดยเรือใบจ้างบริษัทกฏหมายชื่อดัง Lord Pannick KC ที่เคยเป็นที่ปรึกษากฏหมายให้ อดีตนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน คดี "พาร์ตีเกต" ช่วงคริสมาตตอนโควิด 

ทางพรีเมียร์ลีกแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระ นำโดยนักกฏหมายมือทอง ลอร์ด โรเซน (ถือตั๋วปีอาร์เซนอล) 

คาดว่าคงสู้กันยาวหน่อย

ล่าสุด!!! ตอนนี้มีข่าวลือออกมาว่า “เรือใบ” จะโดนปรับตกชั้นจากแทบลอยด์ ทั้งหลาย

ส่วนทางด้านเชลซีนั้นตกเป็นข่าวว่ามีข้อมูลการโอนเงินหลุดออกมายุค "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช ช่วงปี 2012-19 ไม่เกี่ยวกับยุคนี้นะครับ แต่พรีเมียร์ลีกเล่นงานย้อนหลังได้โดยไม่มีกฏระเบียบละเว้น

ประเด็นที่กำลังสืบค้นหาความผิดนั้นคือเรื่อง "ข้อมูลไม่สมบูรณ์" และ "เงินกินเปล่า"

ค่าจ้าง อันโตนีโอ คอนเต้ , ค่าตัว เอแดน อาซาร์ ที่ถูกโอนจากบริษัทในเครือของเสี่ยหมี ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภาษีและฟอกเงินระดับโลกอย่างเช่น เกาะ บริติช เวอร์จิ้นส์ (ทะเลแคริบเบียนส์)

ข้อมูลนั้นหลุดมาทาง ฝ่ายสอบสวนกลุ่มนักข่าวนานาชาติ  International Consortium of Investigative Journalists (ICIJ) และกลุ่มสื่อเยอรมนี  Paper Trail Media

ตัวอย่าง...ไฟล์ข้อมูล เมื่อ 18 ก.ค. 2017 แสดงให้เห็นว่า บริษัทของเสี่ยหมี ที่อยู่บนเกาะบริติช เวอร์จินส์ (เขตปกครองของอังกฤษ) ชื่อConibair Holdings ได้เซ็นสัญญาตกลงกับ เฟเดอริโก ปาสโตเรลโล เอเจนต์นักฟุตบอลชาวอิตาลี โดย เฟเดอริโก นั้นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ คอนเต้ จากรายงานของสื่อกีฬาทั่วยุโรปหลายฉบับ และมักออกสื่อเรื่องสัญญาของ คอนเต้ อยู่บ่อยๆ

บริษัท คอร์นิแบร์ ของเสี่ยหมี ตกลงจ่ายเงินให้ ปาสตอเรลโล £10 ล้าน กับหุ้น 75% ในบริษัทเพื่อการลงทุน Excellence Investment Fund (EIF) ที่มีสำนักงานในรัฐ เดลาแวร์, สหรัฐอเมริกา

มันเกิดขึ้นวันเดียวกันกับที่เชลซีประกาศต่อสัญญากับ คอนเต้ จำนวนเงิน £9.6 ล้านต่อปี ..... 

เรื่องเชลซี รอการสืบสวนและน่าจะมีการไต่สวนแน่นอนเพราะการละเมิดงบการเงินของพรีเมียร์ลีกไม่มีหมดอายุความ

จะดำเนินการเมื่อไหร่ก็ได้....หากมีหลักฐานว่าละเมิดกฏงบการเงินขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม....เรื่องเอฟเวอร์ตัน ไม่น่ายืดเยื้ออะไร แม้ทอฟฟี จะอุทธรณ์ต่อคณะกรรการอิสระพรีเมียร์ลีก

โดยผลการอุทธรณ์ของเอฟเวอร์ตันจะถือเป็นที่สิ้นสุด และจะไม่สามารถไปต่อที่ศาลกีฬาโลกได้ ตามสัญญาที่20 สโมสรได้เซ็นร่วมกันไว้ก่อนแล้ว ถึงกรณีพิพาทและการไต่สวนหาความผิด ต้องจบในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น

ดังนั้นการตัดทอฟฟี 10 แต้มนี้....

เหมือนเป็นการส่งสัญญาณไปยังบรรดาคู่กรณีของพรีเมียร์ลีกทั้ง แมนฯซิตี้และเชลซี ให้เตรียมตัวเตรียมใจต่อสู้นอกสนามกันอย่างเข้มข้น โดยพรีเมียร์ลีกไม่ต้องการให้สโมสรสมาชิก....ใหญ่กว่าองค์กรที่ดูแลฟุตบอล

หาไม่แล้ว...ในภายภาคหน้า ไม่นานนับจากนี้ องค์กรอิสระที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมก่อตั้งขึ้นมาอย่าง  football regulator จะเข้ามาดูแลแทนพรีเมียร์ลีก

"JACKIE"