แมนยู: โรงละครแห่งฝันร้าย

ชัดเจนที่สุดคำว่า-ฝันร้าย

ฝันร้ายที่ทีมออกนำไปแล้ว2-0แต่กลับโดนตีเสมอ 2-2 ในช่วงเวลาห่างกันไม่กี่นาทีของท้ายครึ่งแรก 

ฝันร้ายที่ครึ่งหลังก็ยิงกลับไปนำอีกครั้ง 3-2 แต่ก็ไม่สามารถช่วยกันรักษาสกอร์เอาไว้ได้ ไม่ใช่แค่โดนตีเสมอแต่ถึงขั้นโดนยิงแซงหน้าตาเฉย

ฝันร้ายที่ก็เหมือนว่าทีมจะเจอการตัดสินที่ค้านสายตาอีกแล้ว ใบแดงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ย่อมไม่เกิดจากเจตนาไปทำร้ายฝ่ายตรงข้ามแน่นอน

ฝันร้ายที่ตอนนี้ไม่ว่าเจอใครก็ไม่ได้ทำให้กองเชียร์สบายใจได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้กับทีมๆนี้ที่แพ้เป็นเกมที่ 9 จาก 17 เกมเข้าให้แล้ว

ฝันร้ายที่ เอริค เทน ฮาก โค้ชผู้ที่ก็ยังมีแฟนบอลส่วนใหญ่หนุนหลังอยู่ ดูจะเดินอยู่ในเขาวงกตที่หาทางออกไม่ได้ ตอนเสียงนกหวีดยาวดังก็มีภาพที่เขายืนเหม่อๆเอาสองมือล้วงกระเป๋า คล้ายยังคงรับไม่ได้ต่อผลการแข่งขัน

การที่เหลือผู้เล่น 10 คนในนาที 42 ย่อมเรียกว่าจุดเปลี่ยนได้ ถึงกระนั้นก็ตามถามตรงๆว่าคู่แข่งอย่างเอฟซี โคเปนเฮเก้นอยู่ในระดับไหนกัน มันก็ไม่ควรนำมาใช้เป็นข้อแก้ตัวได้กับการที่เกมรับมีช่องโหว่มากมาย ความไม่ละเอียดพอของนักเตะรายบุคคลอันส่งผลให้ทีมโดนกะซวกไปถึง 4 ประตูโดยเฉพาะสองลูกท้ายที่ต้องยอมรับว่ามันดีไม่พอจริงๆ

เทน ฮาก ก็ยังคงจัดตัวที่สะท้อนถึงปัญหาความผุพังของทีมในรอบหลายปีมานี้ ตัวที่เสริมเข้ามาใหม่นั่งสำรองกันเรียงหน้ากระดาน ตัวที่เคยอยากจะขายได้ลงตัวจริง ยิ่งเซอร์ไพร์สที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์กับ จอห์นนี่ อีแวนส์ ได้ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกันต่อไปโดยที่ ราฟาเอล วาราน อยู่บนม้านั่งข้างสนาม

ใช่ครับ กระแสข่าวที่ว่ามีนักเตะบางคนเริ่มสงสัยในตัว เทน ฮาก ก็ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกเลย...

อีกจุดก็อยู่ตรงการถอดเอา ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่ซัดไปสองลูกออกในนาที 84 โดยตอนนั้น โคเปนเฮเก้นเพิ่งตามตีเสมอ 3-3 ได้ เป็น เมสัน เมานท์ ถูกส่งมาแทน

คำถามก็คือเขาต้องการแค่แต้มเดียวกลับไปใช่ไหม?

มันจึงเป็นฝันร้ายที่ทำให้สาวกอสูรทุกชีวิตต้องสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะทีมแพ้ในเกมที่ไม่ควรแพ้ เอากันจริงๆผลเสมอก็ถือว่าไม่น่าพอใจแล้วกับสถานการณ์ในตารางที่เป็นอยู่

นาทีนี้ หยิบจับตรงไหนเกี่ยวกับ แมนฯยูไนเต็ด ก็เจอบาดแผลเต็มไปหมด อย่างหนึ่งถึงพวกเกลเซอร์ต้องรับผิดชอบที่ยังคงดื้อด้านไม่ออกไปแต่การวางแผน การเลือกตัวและสไตล์ของทีมมาจากโค้ช นี่คือสิ่งที่เทน ฮากยากจะปัดให้พ้นตัว

ถึงตรงนี้เราก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือ แมนฯยูไนเต็ด ที่เขาอยากสร้างให้เป็น

ต่างจากตอนเป๊ปมาคุม แมนฯ ซิตี้ ตอน คล็อปป์ ลากกระเป๋ามา แอนฟิลด์ หรือตัวอย่างใกล้ๆก็ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ภายใต้ อังก์ ปอสเตโคกลู ไงที่แค่ไม่กี่เดือนก็สัมผัสได้ถึงตัวตนจากโค้ชชาวออสซี่

เตะมา 4 เกมมีแค่ 3 แต้มบังคับให้ต้องชนะให้หมดกับอีกสองเกมที่เหลือกับ กาลาตาซาราย และ บาเยิร์น มิวนิค (รวมถึงลุ้นผล โคเปนเฮเก้น ด้วย)

ช่วงก่อนบอลเขี่ยมีการกางขึงแผ่นผ้าผืนใหญ่จากกองเชียร์โคนมโดยมีทั้งรูปที่วาดอย่างสวยงามและข้อความที่น่าชื่นชมในไอเดีย 

ข้อความนั้นอ่านได้ว่า "Your Theatre Of Nightmares"

คงมีใครหลายคนผวาตื่นขึ้นกลางดึก...

"ไก่ป่า"