ถ้ายุคดิวิชั่นหนึ่งเดิมเจอกันบ่อย โดยเฉพาะยุค80 สนาม เคนิลเวิร์ธ โร้ด ของลูตัน นั้นใช้หญ้าเทียม กลุ่มตำนานหงส์ ยุค เซอร์ ดัลกลิช, รัช มาเยือน มักเอาชนะได้ยาก เสมอและแพ้เสียฟอร์มก็มี
สตีฟ ฟอสเตอร์ เซนเตอร์ร่างใหญ่
กองหน้าดีสุดตลอดกาล มิค ฮาร์ฟอร์ด เกมนี้มานั่งชมด้วย
ไมค์ นีวล์ (ช่วงสั้นๆ) แต่ยิงแฮทริกหงส์!!! ก่อนยัายมาเอฟเวอร์ตัน ผ.จ.ก ต้อง เดวิด พลีท
ถึงยุคนี้คือหญ้าจริงหมดละ แต่ตัวบรรยากาศนี่ เหมือนบอลอังกฤษยุคดั้งเดิม ตัวสนามกับอัฒจันทน์ ใกล้กันมากจนแฟนบอลสามารถด่านักเตะทีมเยือนเต็มรูหู
ลูตัน หรือ เดอะ แฮทเทอร์ (ช่างทำหมวก) หายไปจากลีกสูงสุด นับจากซีซั่น 1991-92
โดย8 ปีที่แล้ว…ตกไปนอกลีก!!
ก่อนไต่เต้ากลับมาพรีเมียร์ลีกใช้เวลา 31 ปี
ครั้งสุดท้ายเจอกันที่นี่ในลีกสูงสุดปี1992 ด.1 เดิมเสมอ0-0….
การกลับมาเจอกันครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ลีก เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ลูตัน 4-5-1 เกมแพลน “รับลึก”
รอบ เอ็ดเวิร์ดส อดีตเซนเตอร์วูล์ฟแฮมป์ตัน ยังคงยึดมั่นกับรูปแบบ 5-4-1 วางเกมแพลน มาตั้งรับแดนตัวเอง ลึกหน้าเขตโทษ ไม่เปิดพื้นที่ให้เด็กหงส์ เจาะง่ายๆ ทั้งหน้าไลน์ และด้านข้างสองฝั่ง มีตัวเก๋า แอนดรอส ทาวน์เซนด์ และ รอส บาร์คลีย์ ช่วยเดินเกม ตัวทำ คาร์ลตัน มอร์ริส
เสื้อส้มเต็มพรืดไปหมด…กองเขียร์ส่งเสียงทุกจังหวะ
ช่วง 10 นาที กล้องจับไปที่ นักร้องชื่อดังเอียน บรูดี วัย65 ปี จากวง“ Lightning Seeds,” วงร้อค “อัลเทอร” ยุค80 แฟน ลูตัน มาเชียร์ทีมด้วย
45 นาทีแรกหงส์ อึดอัด
ส่วน JK เลือก โจ โกเมส เล่นแบ๊กซ้ายก่อน ซิมิกาส ขณะที่ 3 มิดฟิลด์ แมคก้า, กราเฟนแบร์ก, โซบอสไล ข้างหน้า ชุดเดิม โดยใส่ชื่อ ลุยส์ ดิอาส สำรอง รูปแบบก็คอนโทรลเกมจาก เซนเตอร์ ใช้ เทรนต์ เล่น อินเวิร์ต ฟูลแบ้ก เมื่อบุก
45 นาทีแรก สร้างโอกาสยิง11 ครั้ง เข้ากรอบ 3
โชต้า ยิงติดเซฟ คามินสกี้ และ ดาร์วิน นูนเยส ยิงชนคาน คือ2 โอกาสที่ได้ลุ้นมากสุด นอกนั้นก็ยิงนกตกปลา
อ้อกเบเน ตัวป่วน
ซีดอซี อ้อกเบเน เบอร์ 7 ปีกเชื้อสายไนจีเรีย ทีมชาติไอรแลนด์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว โจมตีพื้นที่ด้านเทรนต์ บ่อยๆ จนครึ่งหลังมีโอกาสลุ้นประตู กลายเป็นนักเตะที่สร้างปัญหาให้แนวรับหงส์
โซโบ….เงียบ
น่าจะเป็นเกมแรกที่ โซบอสไล เล่นไม่ออก มีบทบาทกับทีมไม่มาก พื้นที่ให้เล่นจำกัด ทั้งหน้าไลน์ หรือระหว่างไลน์ เกมรับลูตัน จนต้องโดนเปลี่ยนออก น. 66 เอา ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ มาแทน
ดาร์วิน นูนเยส “คาห์น”
เกมนี้เขาได้ยิงไป 9 ครั้ง หรือ 1 ใน 3 จังหวะยิงของหงส์
น่าจะเป็นญาติกับ โอลิเวอร์ คาห์น
โอกาส ในการลั่นไกสังหาร เยอะแยะในเกม
ถ้าคมๆ เนี่ย “แฮทริก” ทั้งชนคาน, ข้ามคาน, ประตูเซฟ
โดยเฉพาะลูกที่ ซาล่าห์ โขกชงโล่งๆ เผาขน ดันแปบอลข้ามคาน !!!
หมูหกอย่างเหลือเชื่อ หรือว่ากลับมาคืนฟอร์ม
ลูตัน สู้ได้ดี
ความมุ่งมั่น การต่อสู้ และการเล่นอย่างมีวินัย แม้โดนเจาะได้ เกือบเสีย แต่เมื่อไม่เสียประตู พวกเขายังอยู่ในเกม จนยิงนำ1-0
จากจังหวะเตะมุมของลิเวอร์พูลแม้ ฟานไดจ์โหม่งชนศอก บาร์คลีย์ แต่ก็ไม่ตั้งใจ บอลจังหวะสองหลุดจากตรงนั้นออกมา ก่อน บาร์คลีย์ จ่ายให้ กาบอเร หลุดไปทางขวา ก่อนจ่ายเข้าเขตโทษ ให้ ตาฮิท ชอง ยิงผ่าน เบคเก้อ เข้าไป1-0 น.80
ดิอาส “ยิงเพื่อพ่อ”
ลุยส์ ดิอาส ใช้เวลาในสนาม12 นาที ยิงประตูเซฟหงส์ รอดพ้นความพ่ายแพ้ อย่างหืดจับ จากเกมที่ใช้โอกาสเปลืองมากมาย
ดิอาส ขึ้นโขกลูกครอสของ เอลเลียตต์ (ลงมาเล่นดี) ช่วยเซฟแต้มและทำให้ทีมรอดพ้นความพ่ายแพ้ จากผลเสมอ1-1
บทสรุป….
แม้ลิเวอร์พูลเป็น “เต็งสอง” ลุ้นแชมป์ ในสายตา บริษัทพนันที่ถูกต้องตามกฏหมายของอังกฤษ
แต่ในสายตาของผมจาก11 นัดแรกเท่าที่เห็น มันก็ยังเป็นทีม JK2.0 คือทีมพึ่งสร้างใหม่ มันคงไม่รวดเร็วพุ่งพรวดอย่างที่คิดกัน
มีอะไรให้ปรับหลายสิ่งหลายอย่างในทีมนี้ ทั้งแผงมิดฟิลด์ที่กำลังก่อตัวขึ้นมาใหม่ และแน่นอน แบ๊กโฟร์ ที่กลายเป็นจุดอ่อนของทีมไปแล้ว
นี่ดีว่าตัวรุกมี5 คน ที่พร้อมลงมาช่วยยิงประตูให้รอดพ้นความพ่ายแพ้
มีอะไรให้ปรับปรุงอีกเยอะอยู่ ถ้าจะไปถึงลุ้นแชมป์ เพียงแต่ตอนนี้คือทีมที่ยังลุ้นแค่ ช.ป.ล เท่านั้น
คิดมุมฟุตบอลของหงส์มุมนี้ “สบายใจ”
ไม่ต้องเครียดเรื่องลุ้นแชมป์ แน่นอนครับ