มีเรื่องน่าสนใจในลีกล่างตั้งแต่แชมเปี้ยนชิพลงไปว่ามีสถิติหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าฟุตบอลอังกฤษได้เปลี่ยนไปนับจากชายที่ชื่อว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่าเข้ามา
หลายทีมเล่นอดทนขึ้น หลายทีมก็พยายามจะต่อบอลจากหลังขึ้นไป ไม่ใช่สาดยาวไปข้างหน้าเหมือนแต่ก่อนและอีกหลายทีมก็อาศัยวิธีการเล่นของ 'เป๊ป' มาเป็นแรงบันดาลใจ
ทุกวันนี้โค้ชหนุ่มรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเลย ที่กำลังโชว์ฝีมือจนได้รับคำชื่นชม ทั้ง คีแรน แม็คเคนน่า ของ อิปสวิช ทาวน์ (อันดับ 2 แชมเปี้ยนชิพ), สตีเว่น ชูมาเชอร์ ของ พลีมัธ (น้องใหม่แชมเปี้ยนชิพแต่ผลงานดีเกินคาด), จอห์น มูซินโญ่ ขอ งพอร์ทสมัธ (จ่าฝูงลีกวัน), เลียม แมนนิ่ง ของ อ็อกฟอร์ด (อันดับ 2 ลีกวัน) ไปจนถึง ลุค วิลเลี่ยมส์ ของ น็อตตส์ เคาน์ตี้ (อันดับ 2 ลีกทู)
ทั้งหมดต่อให้อาจเติบโตคนละเส้นทาง แต่ต่างยึดปรัชญาคล้ายกันพอก้าวมาคุมทีม นั่นได้แก่ทำให้ทีมเอนเตอร์เทนที่สุด ทำให้ทีมเล่นบอลบนพื้นให้มากที่สุด เหนืออื่นใดทีมต้องได้รับผลที่ต้องการด้วย
ทุกอย่างเริ่มจาก เป๊ป อ้างอิงจากสถิติก็ได้แก่นับแต่ลากกระเป๋ามา เอติฮัด สเตเดี้ยม ปี 2016 ค่าเฉลี่ยที่เห็นผู้รักษาประตูเตะบอลโด่งไปข้างหน้าก็ลดลงในทุกลีก ยกตัวอย่างพรีเมียร์ลีกด้วยก็ได้ จากที่เคยมีสูงถึงเกือบ 90% ช่วงปี 2004-2010 โดยมาปัจจุบันก็หดกว่าครึ่งต่อครึ่งเหลือเพียง 45% เท่านั้น
แชมเปี้ยนชิพ, ลีกวัน หรือ ลีกทู ก็เช่นกัน ที่เส้นกราฟหันหัวตกลงมา ประหนึ่งหุ้นที่ทำให้คนเล่นหมดตัว ทุกวันนี้ค่าเฉลี่ยในแชมเปี้ยนชิพ ที่จะเห็นโกลเตะบอลยาวพอได้ลูกเหลือไม่ถึง 50% ต่อเกม
นั่นเป็นเพราะแทบทุกทีมก็จะยึดสไตล์เดียวกับ แมนฯ ซิตี้ พอนายทวารได้ลูกก็จะเอาบอลลงเล่นกับเท้า ก่อนมองหาเพื่อนจ่ายให้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ที่ถ่างออกซ้ายขวาไปรับลูกนั่นเอง
ก็ยังมีสถิติอื่นๆอีก ที่สะท้อนได้ถึงทฤษฎีนี้ อย่างเช่นตัวเลขที่ลดลดของคำว่า 'Long Ball' กับตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นทางด้านความแม่นยำการผ่านบอลต่อเกม
สมัยที่มาแรกๆนั้น เป๊ป เองก็เจอเหน็บแนมเยอะว่าบอลแบบที่เขาเคยสร้าง บาร์เซโลน่า ยิ่งใหญ่อาจไม่เหมาะกับสไตล์บอลแบบผู้ดีก็ได้ ทว่าเขาก็ยังยึดมั่นแนวทางตัวเองด้วยการออกมาประกาศผ่านไมโครโฟน "ผมไม่ใช่โค้ชที่สอนให้ลูกทีมเน้นเข้าปะทะ"
ทุกอย่างต้องการเวลา โดยเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น ที่เขาเนรมิตให้ทีม เรือใบสีฟ้า แล่นฉิวได้ตามที่เคยวาดภาพไว้
ยังไงซะ ระบบก็มาก่อนบุคคล
ยังไงซะ สไตล์ก็จะเหมือนตัวแทนคาแรกเตอร์ของโค้ช
รัสเซลล์ มาร์ติน กุนซือ เซาธ์แฮมป์ตัน คนปัจจุบันเคยให้สัมภาษณ์ไว้แบบนี้ "ผมเคยนั่งดูนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2009 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอ บาร์ซ่า ตอนนั้น ยูไนเต็ด ถือว่าสุดยอดแล้วในประเทศ แต่ในนัดชิงพวกเขากลายเป็นทีมธรรมดาไปเลยเมื่อเจอทีม เป๊ป ผมเลยตั้งใจว่าวันหนึ่งถ้าได้มาคุมทีมก็จะอาศัยแนวทางนั้นมาทำ"
อีกคนก็ เอียน อีวัตต์ ที่ก็กำลังทำ โบลตัน อยู่แถวหัวตารางลีกวัน "เป๊ปคือคนที่มีอิทธิพลต่อการทำทีมผมมาก"
ทุกวันนี้บางคนก็อาจจะไม่ชอบนักที่เห็นทีมที่ตัวเองเชียร์เสียประตูจากการออกบอลหลังขึ้นไป มันยังมีให้พบอยู่ตลอดในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งนั่นก็มาจากสองเหตุผลหลักๆ ทีมรุกต้องการลำเลียงบอลขึ้นไปอย่างมีสไตล์ กับทีมรับก็วางแผนมาเพรสสูงเร็ว เพื่อดักทาง
อย่างหนึ่ง บอลแบบ เป๊ป นั้นจะไม่ได้รับการพูดถึงเลย หรือจะไม่มีคนอยากทำตามลองว่าเขาทำแล้วทีมเกิดล้มเหลว
สไตล์ก็มี โทรฟี่ ก็ได้แถมยังมักคิดนอกกรอบไม่เหมือนใคร
นี่เองทำให้ เป๊ป ยืนเป็นหนึ่ง...
"ไก่ป่า"