งานนี้เมืองแมนเชสเตอร์ เป็นสีฟ้าบานตะไท หลังพลพรรค แมนฯ ซิตี้ บุกกำราบคู่แข่งร่วมเมืองราบคาบจนมีผู้เล่นของพวกเขาติดเข้ามาถึง 4 ราย
ผู้รักษาประตู : เอแดร์ซอน (แมนฯ ซิตี้)
จังหวะเซฟลูกยิงของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำได้ดีมาก นอกเหนือจากนี้ยังมีลูกออกบอลยาวสวย ๆ อีก
กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนฯ ซิตี้)
แม้วัยเข้าสู่เลขสาม แต่ฟอร์มการเล่นยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง วิ่งได้ไม่มีหมด เสมอต้นเสมอปลาย
กองหลัง : อีธาน พินน็อค (เบรนท์ฟอร์ด)
ดาวเตะทีมชาติจาไมก้า เบิกสกอร์แรกพา เบรนท์ฟอร์ด เจาะตาข่าย เชลซี ส่วนเรื่องเกมรับทำได้ยอดเยี่ยม โดยเคลียร์บอลถึง 8 ครั้ง
กองหลัง : จาร์ราด แบรนธ์เวท (เอฟเวอร์ตัน)
เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานระดับท็อปในเกมที่บุก ลอนดอน สเตเดี้ยม โดยผู้เล่นที่โดดเด่นเอามาก ๆ คือแนวรับวัย 21 ปีรายนี้ โดยสถิติตัวเลขบ่งบอกว่าเขาเคลียร์บอล 10 ครั้ง และเข้าปะทะบอลสำเร็จกับตัดบอลอีกอย่างละ 2 หน
กองหลัง : มิคกี้ ฟาน เดอ เฟน (สเปอร์ส)
ความเร็วของเขาช่วยให้ สเปอร์ส รอดพ้นตอนยามคับขัน แนวรับดัตช์ยังทำได้ดีในเรื่องลูกกลางอากาศกับการเข้าปะทะ
กองกลาง : โดมินิค โซโบซไล (ลิเวอร์พูล)
ขับเคลื่อนทางฝั่งขวาร่วมกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แบบไร้ที่ติ มีส่วนสำคัญต่อการได้ประตูสองลูก
กองกลาง : เชา ปาลินญ่า (ฟูแล่ม)
คุมเกมแดนกลางได้อยู่หมัด เป็นฮีโร่ที่พา ฟูแล่ม บุกแบ่งแต้มที่ เอเม็กซ์
กองกลาง : เบร์นาร์โด้ ซิลวา (แมนฯ ซิตี้)
เป็นหัวใจกับลูกที่สามที่ "เรือใบสีฟ้า" ได้ลูกสาม การไร้ เควิน เดอ บรอยน์ ไม่มีปัญหาอะไรต่อ แมนฯ ซิตี้ เลย ตราบใดที่ดาวเตะโปรตุกีส ยังอยู่ในทีม
กองหน้า : คัลลั่ม วิลสัน (นิวคาสเซิ่ล)
ยิงประตูต่อเนื่องสองเกมติดกัน แม้โดยรวมเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ จะเล่นไม่ดีมาก แต่เขาก็ยังรักษามาตรฐานตัวเองไว้ได้
กองหน้า : เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนฯ ซิตี้)
มีโอกาสที่จะพกลูกบอลกลับบ้าน แต่เลือกจ่ายให้ ฟิล โฟเด้น มีชื่อทำสกอร์ ความจริงถ้า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ อ็องเดร โอนาน่า ช่วยไว้ ฮาลันด์ อาจทำแฮตทริกไปแล้ว
กองหน้า : เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (อาร์เซน่อล)
ก้าวขึ้นมาทดแทน กาเบรียล เชซุส แบบไม่เคอะเขิน ทำแฮตทริกแรกบนศึก พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จ โดยแต่ละลูกสวย ๆ ทั้งนั้น