ชัยชนะที่ ลิเวอร์พูล ไม่ปล่อยให้ หลุยส์ ดิอาซ เดินเดียวดาย

ชัยชนะที่ ลิเวอร์พูล ไม่ปล่อยให้ หลุยส์ ดิอาซ เดินเดียวดาย
ความสวยงามของเกมนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องของผลการแข่งขัน แต่เป็นสิ่งที่เพื่อนร่วมทีมของ หลุยส์ ดิอาซ แสดงออกมา...

ถ้าเราเป็น หลุยส์ ดิอาซ เราก็คงไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรสักอย่าง 

ซึ่งต่อให้เขาไม่มีเรื่องเกมการแข่งขันคืนนี้อยู่ในหัว ไม่มีใครหรอกที่จะกล้าต่อว่าเขาได้

สโมสรลิเวอร์พูล ยืนหยัดเคียงข้างดาวเตะโคลอมเบีย โดยคำนึงถึงความรู้สึกของเขาเป็นอันดับแรก

เพื่อนร่วมทีมส่งกำลังใจผ่านหยาดเหงื่อบนผืนหญ้า

ทีมสตาฟฟ์ส่งกำลังใจผ่านการทำงานถ่ายทอดแก่นักฟุตบอล

และเหล่า "เดอะ ค็อป" ยังคงหนุนหลังเขาด้วยเช่นกัน

เจอร์เก้น คล็อปป์ บอกกับ บีบีซี เกี่ยวกับเรื่อง หลุยส์ ดิอาซ

"ชัดเจนว่าเรามีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง เนื่องด้วยสถานการณ์ส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับ หลุยส์ ดิอาซ"

"มันเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลสำหรับเราทุกคน และเป็นค่ำคืนที่ยากลำบาก"

"ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ผมไม่ต้องการเลย"

.

.

.

ครึ่งทางของครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ครองบอลได้แทบจะฝั่งเดียวก็จริง แต่ ฟอเรสต์ ที่วางกำแพงแนวลึกจนยากที่จะหาโอกาสเจาะ

อย่างไรก็ตาม พวกเขาสบโอกาสทรานซิชั่นเห็นผล 

เริ่มที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ก่อนที่จะจบด้วย ดีโอโก้ โชต้า แล้วส่งมอบประตูนี้ไปยังเพื่อนร่วมทีมที่ชื่อ หลุยส์ ดิอาซ

ลูกสองเช่นกัน จังหวะสวนเร็วสัมฤทธิ์ผล และคราวนี้ ดาร์วิน นูนเญซ พาตัวเองมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ด

เป็น 45 นาทีแรกที่ ลิเวอร์พูล คอนโทรลทุกอย่างไว้ได้หมด ทั้งรูปเกมและสกอร์

การถ่างบอลพื้นที่ให้กว้างขึ้นเท่ากับเพิ่มโอกาสเอาชนะแนวรับถอยลึก

โดมินิค โซโบซไล, ไรอัน กราเฟนแบร์ค, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เชื่อมต่อเกมกันได้ไหลลื่นมาก

ส่วน แม็คก้า ถ้ายังเล่นแบบนี้มันยิ่งตอกย้ำว่าหากเป็นเกมที่คู่แข่งไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เขาทำผลงานเนียนตา 

อย่างไรก็ตาม จากเกมนี้ที่เขาโดนใบเหลืองทำให้เกมหน้าที่ดวลกับ ลูตัน หากได้รับอีก นัดเจอ เบรนท์ฟอร์ด มิดฟิลด์ฟ้าขาวพลาดลงสนามด้วยสาเหตุติดโทษแบน (ใบเหลืองครบ 5 ใบ)

ประตูสามเกิดจากการทรานซิชั่นอีกครั้ง ความผิดตกไปที่ แม็ตต์ เทอร์เนอร์ เต็ม ๆ แต่หาก โซโบซไล ไร้ไหวพริบอันรวดเร็ว ซาลาห์ คงไม่มีประตูในเกมนี้

ตลอด 45 นาที ลิเวอร์พูล ปิดเกมได้ชัดเจน 

ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องรีบ เล่นแบบประคองตัว ไม่เสียพลังงานมาก

นั่นคือสิ่งสำคัญในเวลานี้กับฟุตบอลลีกที่แข่งระยะยาว

.

.

.

"การเตรียมตัวครั้งนี้เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตของผม" คล็อปป์ ที่ผ่านการคุมทีมมากว่า 1,000 นัดในเวลา 22 ปีเผยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ดิอาซ

"เราทุกคนต่างภาวนาว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย สิ่งเดียวที่เราจะทำได้คือสู้เพื่อพี่น้องของเรา และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำ"

ตอนได้ยินเรื่องราวการลักพาตัวคนในครอบครัวช่วงดึกคืนวันเสาร์ ดิอาซ ยังพักอยู่ที่โรงแรมไททานิก พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ 

แล้วหลังจากได้พูดคุยกับเจ้านายชาวเยอรมัน ก็มีการตกลงกันว่า ดิอาซ จะกลับไปยังบ้านเพื่ออยู่กับ เกร่า ปอนซ์ แฟนสาว และลูกสาวคนเล็ก

"เราส่งคนของเราไปอยู่กับเขา ส่งคนไปช่วยดูแลพวกเขา" คล็อปป์ อธิบายเพิ่มเติม

"คนในครอบครัวของเขาก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน นั่นทำให้พวกเขาอยากอยู่ด้วยกันในช่วงเวลานี้ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้"

"จากนั้นเราก็ได้ยินข่าวเกี่ยวกับคุณแม่ของเขา (ข่าวที่ว่าเจอตัวคุณแม่ของ ดิอาซ แล้ว) ซึ่งมันเป็นข่าวที่น่ายินดีมาก ๆ"

"อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นมันกลับไม่มีข่าวอะไรเพิ่มเลย พวกเขากำลังจัดการกับมันอยู่"

"แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันห่างจากที่นี่เยอะ (จนทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้รับทราบความคืบหน้ามากนัก)"

"แน่นอนว่าเราไม่ใช่คนแรกที่ได้รับข้อมูลเรื่องนั้น แต่เราพยายามก็รับรู้ทุกอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้"

"ขณะเดียวกันเราก็พยายามที่จะไม่ไปรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย"

"เราไม่ใช่กลุ่มคนที่เป็นประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ เราแค่อยากให้ความช่วยเหลือเท่านั้น"

หลังได้พักเกม ยูโรปา ลีก ชัดเจนว่า ดิอาซ จะกลับมาเป็นตัวจริงในเกมลีก

และการถอนตัวของเขาส่งผลให้โชต้า ก้าวขึ้นเป็นตัวจริง

หลังจากเบิกสกอร์แรกได้ ดาวยิงโปรตุกีสก็วิ่งไปที่ม้านั่งสำรอง รับเสื้อแข่งหมายเลข 7 จาก อาเดรียน แล้วชูขึ้นเพื่อส่งมอบความรู้สึกที่มีให้เพื่อนชาวโคลอมเบีย รับรู้

"มันเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก และผมก็ไม่รู้ว่าใครจะทำอะไรยังไงหากมันเกิดขึ้นกับคุณ" โชต้า เผยถึงความรู้สึกนั้น

"จริง ๆ เขาจะได้ลงเล่น แต่ผมได้เล่นแทนเขา และผมก็ชูเสื้อเขาขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเราอยู่ข้างเขา และหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี"

"เป็นไปไม่ได้เลยที่จะคิดว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น เราสามารถทำได้เพียงหนุนหลังเขาและแสดงให้เขาทราบว่าพวกเราอยู่เคียงข้างเขา"

โชต้า พักอยู่ใกล้ ๆ กับ ดิอาซ ใน ครอสบี้ เช่นเดียวกับ อาเดรียน และ นูนเญซ ที่ต่างเพิ่งย้ายไปที่นั่นเมื่อไม่นานนี้

ดิอาซ ซึ่งมีชื่อเล่นในกลุ่มเพื่อนๆ ว่า "ลูโช่" เป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนร่วมทีม และข่าวในครั้งนี้ก็ทำให้ทุกคนเสียใจมาก ๆ

"คุณจะทำให้เกมฟุตบอลเป็นเรื่องสำคัญในวันแบบนี้ได้ยังไง ? มันทำได้ยากมากๆ" คล็อปป์ ระบุ 

"ในชีวิตของผม ผมไม่เคยเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้มาก่อน"

"ปกติแล้วเกมฟุตบอลเป็นเหมือนสถานที่พักใจของผม บางครั้งผมใช้มันเป็นเหมือนที่หลบภัยไม่ว่าจะทั้งในตอนที่เป็นนักเตะหรือตอนที่เป็นกุนซือ"

"ในช่วงเวลา 90 นาที คุณจะสามารถพุ่งเป้าไปที่เกมฟุตบอลอย่างเต็มที่ได้ แต่วันนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำอย่างงั้นได้"

"ชัดเจนมากว่าเราต้องจริงจังกับเกมนี้มากเป็นพิเศษและสู้เพื่อ ลูโช่ และหลังจากนั้นลูกทีมของผมก็โชว์เสื้อที่พิเศษตัวนั้น"

"ผมไม่พร้อมสำหรับอะไรแบบนั้น มันเป็นสถานการณ์ที่น่าเศร้า แต่ในขณะเดียวกันเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่วิเศษสุด ๆ เช่นกัน"

ระหว่างเกม เดอะ ค็อป ร่วมกันตะโกนเรียกชื่อ ดิอาซ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และ โดมินิค โซโบซไล ก็ได้พูดถึงสิ่งที่เป็นบทสรุปที่ดีที่สุดด้วยคำพูดที่ว่า 

"ไม่มีใครในกลุ่มเราที่ต้องเดินเดียวดายหรอกนะ หลุยส์"

HOSSALONSO


ที่มาของภาพ : GETTY IMAGE
BY : Hossalonso
ธีรศานต์ คงทอง
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X