เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล กำลังสร้าง "หงส์แดง" ยุค 2.0 ได้อย่างแข็งแกร่งโดยในแมตช์ล่าสุดสามารถไล่ต้อน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 3-0 ที่สนามแอนฟิลด์ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้อย่างไร้ที่ติ
ผลงานตั้งแต่กองหลังไปจนถึงแนวรุกต้องยอมรับว่าเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ 3 ประสานยุคใหม่ทั้ง ดีโอโก้ โชต้า, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ต่างก็มีชื่อบนสกอร์บอร์ด
ขณะที่แดนกลางก็เล่นได้อย่างเข้าขารู้ใจ โดยเฉพาะ โดมินิค โซโบซไล ที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือผู้เล่นที่ทีมขาดไม่ได้จริงๆ พละกำลังและการสร้างสรรค์เกม คือจุดเด่นของนักเตะรายนี้
สำหรับตอนนี้หลายคนเริ่มมองแล้วว่า ลิเวอร์พูล กำลังกลับมาสู่ฟอร์มที่อันตรายอีกครั้ง และคงจะไม่ใช่เรื่องผิดหากจะยกให้พวกเขาคือคู่ต่อกรณีที่อันตรายที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ !!!
1. โชต้า น่าชื่นชม
ต้องบอกว่าเป็นเรื่องสุดช็อกสำหรับ ลิเวอร์พูล และทุกๆ คนที่ได้รับทราบข่าวว่าพ่อแม่ของ หลุยส์ ดิอาซ โดนลักพาตัวเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ โดยตอนนี้สถานการณ์ของผู้ให้กำเนิดสตาร์ชาวโคลอมเบียยังไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไหร่ นั่นทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจพักนักเตะเนื่องจากเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ
สำหรับแมตช์นี้เหล่าขุนพล "หงส์แดง" ลงสนามด้วยหัวใจที่เป็นห่วงเพื่อนร่วมสังกัด แต่ก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ โชต้า ที่ได้รับมอบหมายให้ลงเล่นในตำแหน่งของ ดิอาซ และเจ้าตัวก็สร้างผลงานดีมีคุณภาพมากๆ
จังหวะที่ สตาร์ชาวโปรตุกีส ส่งบอลเข้าซุกก้นตาข่ายหลังเกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจ้าตัวรีบวิ่งไปที่ซุ้มม้านั่งสำรองเพื่อนำเสื้อแข่งของ ดิอาซ ขึ้นมาชูเป็นการส่งสัญญาเป็นกำลังใจให้กับนักเตะ
แน่นอนว่าการแสดงออกของ ดิอาซ ซึ่งซัดไปแล้ว 6 ประตูจาก 5 แมตช์ที่ลงด้วยกับ ฟอเรสต์ ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามในสื่อสังคมออนไลน์
2. นูนเญซ ร้อนแรงต่อเนื่อง
หลังจากที่ โชต้า ส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายไม่นานนัก นูนเญซ ก็กลัวน้อยหน้าจัดการตะบันประตูให้ทีมขึ้นนำ 2-0 เช่นกัน โดยนักเตะกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดๆ หลังซัดประตูในเกมทุบ ตูลูส ศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก ช่วงกลางสัปดาห์
จังหวะดังกล่าวต้องชื่นชมการต่อเกมของแนวรุกที่เริ่มตั้งแต่ โม ซาลาห์ ก่อนจะส่งบอลอย่างชาญฉลาดให้ โซโบซไล ที่ตัดเข้ากลางให้ นูนเญซ วิ่งเข้ามาชาร์จบอลเข้าประตูไปอย่างสบายอุรา
ไม่ใช่แค่การจบสกอร์เท่านั้นแต่ ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย ยังมีส่วนร่วมกับเกมเยอะมาก การวิ่งหาพื้นที่ว่างก็ทำได้ดี พยายามช่วยทีมในทุกจังหวะ และทุกครั้งที่มีโอกาสความเร็วของเขาสามารถฉีกแนวรับ "เจ้าป่า" ได้ขาดกระจุย
ผลงานของ นูนเญซ สำหรับฤดูกาลนี้ตะบันไปแล้ว 6 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 13 แมตช์เท่านั้น แน่นอนว่าฟอร์มแบบนี้ คล็อปป์ คงเตรียมจับเขาทำหน้าที่เป็นหน้าเป้าตัวหลักชัวร์
3. โซโบซไล จอมสร้างสรรค์เกม
สำหรับการเซ็นสัญญานักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้ของลิเวอร์พูล ต้องยอมรับว่า โดมินิค โซโบซไล คือผู้เล่นที่คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่สโมสรจ่ายไปจริงๆ หลังนักเตะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนกลายเป็นตัวหลักที่ทีมขาดไม่ได้ และตอนนี้เขาคือผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีมได้เยอะมาก
เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติฮังการี มีส่วนในเกมรุกและรับของทีมทุกแมตช์ พลังกำลังทีเหลือเฟือ เซนต์บอลที่ยอดเยี่ยม การอ่านเกมขาดทุกจังหวะ ที่สำคัญการปั้นเกมให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
ในแมตช์รับมือ "เจ้าป่า" สตาร์วัย 23 ปี ทำผลงานได้อย่างสุดยอดอีกครั้งด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ โดยเฉพาะแอสซิสต์สุดท้ายของเกม แสดงให้เห็นถึงสายตาที่เฉียบคมของนักเตะ แม้อาจจะมีโชคช่วยอยู่บ้าง แต่ต้องยอมรับว่าการวางบอลที่ได้น้ำหนักทำให้กองหลังกับโกลของทีมเยือนอ่านจังหวะพลาด และนำไปสู่สกอร์ของ "บังโม"
ตอนนี้บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ทั่วโลกต่างยกให้ โซโบซไล คือการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ และแน่นอนว่าแฟนบอลคงหวังให้นักเตะไม่มีปัญหาบาดเจ็บ เพราะไม่งั้นคงส่งผลกระทบกับฟอร์มของทีมแน่นอน
4. คูเปอร์ อาการน่าเป็นห่วง
ความพ่ายแพ้ทั้งสกอร์และรูปเกมของ ฟอเรสต์ ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเนื่องจาก ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่าในทุกกระเบียดนิ้วของสนาม อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ของทีมมันไม่เป็นผลดีเพราะพวกเขาจะต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในฤดูกาลนี้
ตอนนี้ ฟอเรสต์ สะกดคำว่าชนะไม่เป็น 6 เกมติดต่อกันในเกมลีก นั่นทำให้ตอนนี้พวกเขามีแต้มห่างจากโซนตกชั้น 5 แต้ม และผลงานแบบนี้คนที่ต้องรับผิดชอบก็คือ สตีฟ คูเปอร์ เต็มๆ
เกมต่อไป คูเปอร์ แอนด์ โค. ต้องรับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า ซึ่งฟอร์มดุดันเหลือเกิน จากนั้นก็เยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และปะทะ ไบรท์ตัน ก่อนหมดเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทั้งสามเกมนี้อาจจะส่งผลกระทบกับเก้าอี้ของ คูเปอร์ เลยทีเดียวถ้าหากไม่ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ
5. ขุมกำลังเชิงลึกยอดเยี่ยม
เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มีขุมกำลังเชิงลึกไม่ค่อยดีนัก แต่สำหรับซีซั่นนี้พวกเขามีการเสริมแกร่งที่ยอดเยี่ยม และมีผู้เล่นที่พร้อมสลับสับเปลี่ยนได้ตลอดเวลา โดยนักเตะที่ลงสนามก็มีศักยภาพไม่แตกต่ากัน
ในช่วงแรกตำแหน่งแบ็กโฟร์มีหลายคนค่อนข้างเป็นห่วง แต่ตอนนี้ทั้ง โจ โกเมซ, โฌเอล มาติป และ คอสตาส ซิมิคาส สามารถลงมาลงเล่นตัวหลักได้สบายๆ แม้อาจจะมีจังหวะผิดพลาดไปบ้างแต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับทีม
ขณะที่แผงมิดฟิลด์ต้องบอกเลยว่าเปลี่ยนโฉมแบบหน้ามือเป็นหลังมือ นับตั้งแต่ที่ไม่มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ พวกเขาได้ โซโบซไล กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้ามาเติมเต็ม ขณะที่ วาตารุ เอ็นโด กับ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ก็สามารถลงสนามโดยที่ไม่ทำให้ศักยภาพของทีมลดลง
ส่วน ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ กับ เคอร์ติส โจนส์ ถือเป็นผู้เล่นอนาคตไกลที่ คล็อปป์ พร้อมที่จะให้โอกาสทุกครั้ง และทั้งสองคนก็ทำผลงานได้ดีแม้อาจจะต้องปรับปรุงเรื่องการเล่นให้นิ่งขึ้น แต่ความขยันและความทุ่มเทบอกเลยว่าเกินร้อย
ด้านแนวรุกตอนนี้แฟนบอล "หงส์แดง" ยิ้มแก้มปริเพราะทั้ง โคดี้ กัคโป, โม ซาลาห์, นูนเญซ, โชต้า และ ดิอาซ ทุกคนกำลังอยู่ในช่วงฟอร์มเข้าฟัก และใครก็ตามที่ได้ลงสนามไม่เคยทำให้ผิดหวัง ฉะนั้นต้องบอกเลยว่าฤดูกาลนี้ "เดอะ เร้ดส์" มีความหวังที่จะลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง
ลุงต้อม