แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศผลประกอบการซีซั่น 2022-2023 อย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยพวกเขามีรายรับสูงสุดเป็นสถิติจำนวน 648.4 ล้านปอนด์ (ราว 28,529.6 ล้านบาท) แต่ยังมีผลขาดทุน 28.7 ล้านปอนด์ (ราว 1,262.8 ล้านบาท)
สำหรับจำนวนตัวเลขดังกล่าวถูกคิดคำนวณจนถึงสิ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2023 โดยทำลายสถิติรายได้สูงสุดเมื่อฤดูกาล 2018-2019 ซึ่งทำเอาไว้ 627.1 ล้านปอนด์ (ราว 27,592 ล้านบาท) ขณะเดียวกัน ยอดทีมแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
จำนวนรายได้ที่เพิ่งขึ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาจากสปอนเซอร์ที่สูงถึง 302.9 ล้านปอนด์ (ราว 13,327 ล้านบาท) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีตัวเลขมากกว่า 300 ล้านปอนด์ (ราว 13,200 ล้านบาท) โดยเพิ่มขึ้นกว่า 45.1 ล้านปอนด์ (ราว 1,984.4 ล้านบาท)
ขณะเดียวกันการเซ็นสัญญา 10 ปีกับ อาดิดาส แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องกีฬาชั้นนำของโลก มูลค่า 900 ล้านปอนด์ (ราว 39,600 ล้านบาท) มีแนวโน้มว่าจะทำให้พวกเขามีรายได้ในเชิงพาณิชย์เพิ่มยิ่งขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้รายรับจากการลงแข่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มขึ้นจาก 25.9 ล้านปอนด์ (ราว 1,396.6) ไปเป็น 136.4 ล้านปอนด์ (ราว 6,001.6 ล้านบาท) มาจากการได้ลงเล่นเกมเหย้าหลายแมตช์ในช่วงระหว่างที่พวกเขากรุยทางเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึก เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นแต่ แมนฯ ยูฯ ยังคงมีหนี้สินระยะยาวสูงกว่า 538 ล้านปอนด์ (ราว 23,672 ล้านบาท) ด้วยเหตุนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าตระกูลเกลเซอร์จะได้รับเงินปันผลหรือไม่
ทั้งนี้คาดการณ์ว่า "ผีแดง" จะมีรายรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 680 ล้านปอนด์ (ราว 29,920 ล้านบาท) ในปีหน้า จากการที่พวกเขาได้หวนกลับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2023-2024