บิ๊กแมตช์ประจำแมตช์เดย์ พรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ หนีไม่พ้นเกมที เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ระหว่าง "เดอะ กันเนอร์ส" อาร์เซน่อล เปิดบ้านรับมือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล
ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า สร้างผลงานร้อนแรง ด้วยการคว้าชัย 7 จาก 8 นัด ขณะที่ เด็ก ๆ ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยู่ในช่วงตั้งหลักใหม่ โดยเกมลีกนัดก่อนทำได้แค่เสมอ ไบรท์ตัน ในบ้านตัวเอง 3-3
ก่อนคู่นี้จะระเบิดฟาดแข้ง เรามาดูเรื่องน่ารู้กันก่อนเลยดีกว่า ว่าจะมีอะไรบ้าง?!
1. ผลงาน "ปืนใหญ่"
แม้จะเสียตำแหน่งจ่าฝูงให้แก่ แมนฯ ซิตี้ (แข่งน้อยกว่า 1 นัด) แต่ผลงานที่ผ่านมาของพลพรรค อาร์เซน่อล ถือว่ายอดเยี่ยม โดยพวกเขาทำแต้มหลุดมือแค่เกมเดียวเท่านั้นในวันที่แพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-3 และถึงตอนนี้ "เดอะ กันเนอร์ส" มีแต้มทิ้งห่าง ลิเวอร์พูล มากถึง 10 คะแนน (21-11)
ในชัยชนะ 7 จาก 8 นัดของ อาร์เซน่อล มี 5 เกมที่ มิเกล อาร์เตต้า พาทีมเอาชนะคู่แข่งที่อยู่ตำแหน่งครึ่งล่างของตารางคะแนน มีแค่ ฟูแล่ม กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เท่านั้นที่รั้งอยู่อันดับเลขตัวเดียว
ส่วนเรื่องสถิติประตูได้-ประตูเสีย อาร์เซน่อล ถือว่าไม่ได้ต่างกับ ลิเวอร์พูล มากนัก โดย "ไอ้ปืนใหญ่" สอยประตูได้ 20 ลูก และเสีย 8 เม็ด ส่วน "เร้ด แมชชีน" ยิง 18 เสีย 9
2. ความสดของ อาร์เซน่อล
ทั้ง ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซน่อล ต่างมีคิวลงเล่นเกมฟุตบอล ยุโรป เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งคู่ได้รับชัยเหนือ เรนเจอร์ส และ โบโด/ กลิมท์ ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี คล็อปป์ จัดทัพชุดใหญ่เมื่อเกมวันอังคาร ขณะที่ อาร์เตต้า เลือกพักตัวหลักถึง 8 รายในเกมวันพฤหัสบดี
แอรอน แรมส์เดล, เบน ไวท์, วิลเลี่ยม ซาลิบา, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้, โธมัส ปาเตย์, บูกาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด และ กาเบรียล เชซุส ทั้งหมดได้พักเต็มที่ และในรายชื่อเหล่านี้ มี 4 รายที่ลงเล่นเป็นตัวสำรอง
คาดการณ์กันว่า ทั้ง 8 คนดังกล่าว อาจจะมี 7 รายที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในกับชน ลิเวอร์พูล มีแค่แบ็กซ้ายยูเครเนี่ยน เท่านั้นที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมกับ สเปอร์ส และยังต้องเรียกความฟิตอีกครั้ง
3. โชต้า ไทม์
"แฟนหงส์" คงไม่ว่าอะไรหากจะอยากให้ผลลัพธ์ เกมนี้ลงเอยเหมือนปีก่อนที่ออกเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ครั้งนั้น ดิโอโก้ โชต้า สอยตาข่ายใส่ อาร์เซน่อล ได้อีกครั้ง ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก็มีชื่อบนสกอร์บอร์ด โดยชัยชนะส่งให้ ลิเวอร์พูล อยู่เส้นทางการลุ้นแชมป์กับ แมนฯ ซิตี้
อีกทั้ง การเจอกันที่สนามแห่งนี้ 3 นัดหลังสุด เกิดเป็นสกอร์ของฝั่งทีมเยือน 0-2,0-2 และ 0-3 แต่เกมนี้มันจะยากขึ้นแน่นอน เมื่อพิจารณาจากฟอร์มการเล่นเจ้าถิ่นในตอนนี้
ครั้งก่อน ๆ อาร์เตต้า เคยถึงขั้นใช้เพลง You’ll Never Walk Alone เปิดให้ลูกทีมฟังที่สนามซ้อมเพื่อหวังรับมือกับเสียงเชียร์ของแฟน ๆ เดอะ ค็อป ให้ได้ แต่ผลลัพธ์มันออกมาในเชิงลบ ก็ไม่รู้ว่าคราวนี้กุนซือสแปนิช ยังจะกล้าทำแบบนั้นอีกหรือไม่
4. 1 คนหาย 1 คนใกล้กลับมา
ในการเปิดบ้านรับมือ เรนเจอร์ส ลิเวอร์พูล ได้ ควีวิน เคลเลเฮอร์, อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ คาลวิน แรมซี่ย์ หายเจ็บมีชื่ออยู่ในทีมชุดนั้น
อย่างไรก็ตาม หนึ่งคนที่ ลิเวอร์พูล ยังไม่สามารถใช้งานได้คือ อาร์ตูร์ เมโล่ ที่ คล็อปป์ บอกว่าแข้งแซมบ้า บาดเจ็บตอนมื้อซ้อมก่อนเจอทีมดังแห่งลีกสกอตช์
ถึงกระนั้น หนึ่งในผู้เล่นที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้อย่าง เคอร์ติส โจนส์ ใกล้กลับคืนสนามได้แล้ว โดยนายใหญ่เลือดด๊อยช์ท เผยว่า โจนส์ ลงซ้อมแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งนับเป็นข่าวดีในช่วงที่ทีมต้องลงเตะทุก ๆ 3 วันตลอดทั้งเดือนนี้
5. ระบบการเล่น "หงส์แดง"
เราเริ่มเห็นความผ่อนคลายเรื่องระบบการเล่นของ คล็อปป์ กันบ้างแล้ว หลังเกมชนะ เรนเจอร์ส "หงส์แดง" มาในมาดใหม่กับระบบ 4-4-2
ยังไม่มีใครทราบว่า ลิเวอร์พูล จะใช้ระบบในทริปเยือนเมืองหลวง ประเทศอังกฤษ แต่หากยังยึดระบบ 4-4-2 การเลือกตัวผู้เล่น น่าสนใจว่าจะใช้ใครตรงแผงกลาง มีสิทธิ์ที่ ฟาบินโญ่ จะได้ลงแทน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หรือกระทั่งแดนหน้าที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เสียบแทน ดาร์วิน นูนเญซ
6. แฮปปี้ 7 ปี
หนึ่งวันก่อนเกมนี้จะคิกออฟ คือวันครบรอบที่ คล็อปป์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ
7 ปีที่ผ่านมา คล็อปป์ พา "หงส์แดง" กวาดไป 7 แชมป์ และพาสโมสรก้าวไปสูงจุดที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์
และสัญญาฉบับปัจจุบันของเขากับ ลิเวอร์พูล มีไปถึงปี 2026
7. รู้หรือไม่?
ในการเจอกับ อาร์เซน่อล นั้น ฟีร์มีโน่ ไม่เคยปราณีต่อทีมทีมนี้เลย เมื่อเจ้าตัวสอยตาข่ายได้ถึง 9 จาก 13 เกมที่เจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก
ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ฟีร์มีโน่ ถือครองแข้ง "หงส์แดง" ที่ยิงใส่ "เดอะ กันเนอร์ส" ได้มากสุดเคียงข้าง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน
8. ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ชื่อนี้เข้าทาง "หงส์"
ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ชี้ขาดเกมนี้คือ ไมเคิ่ล โอเวอร์ ซึ่งเขาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลในแมตช์ระหว่าง อาร์เซน่อล ปะทะ ลิเวอร์พูล เลย
ท่านเปาวัย 37 ปีทำหน้าที่เกมคู่นี้มาแล้วถึง 7 ครั้ง และในจำนวนนัดดังกล่าว ไม่มีเกมไหนเลยที่ "ปืนใหญ่" เอาชนะ "หงส์แดง" ได้ โดยชัยชนะตกเป็นฝ่ายของ ลิเวอร์พูล 4 หน และอีก 3 เกมลงเอยด้วยผลเสมอ