เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม ลิเวอร์พูล กลับคืนสู่ฟอร์มเก่งได้อีกหนแล้วในซีซั่นนี้หลังมีการเผยสถิติว่าสตาร์ทีมชาติ ฮอลแลนด์ เป็นหนึ่งในสามเซ็นเตอร์ฮาล์ฟของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ที่ยังไม่โดนฝ่ายตรงข้ามกระชากบอลหนีไปได้
ฟาน ไดค์ ตกเป็นประเด็นถกเถียงว่าเริ่มมีฝีเท้าที่ตกลงไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่ปราการหลังที่มีความแข็งแกร่งเหมือนก่อนซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งสื่อเคยเผยว่าเขาไม่โดนคู่แข่งลากบอลหนีไปได้เลยนานถึง 50 นัดติดต่อกัน
กระนั้นก็ดี มีข้อโต้แย้งว่า กาเบรียล เชซุส เคยลากบอลหนี ฟาน ไดค์ ได้ในเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ แต่มีการระบุว่ารายการดังกล่าวไม่ใช่เกมที่จริงจัง และยกให้ นิโกลาส์ เปเป้ อดีตกองหน้า อาร์เซน่อล เป็นนักเตะคนแรกที่ทำให้กองหลัง เร้ด แมชีน เสียท่าได้
ด้าน Squawka เคยเผยเมื่อเดือนมิ.ย.2020 ว่ารวมแล้วมีนักเตะ 8 รายที่เลี้ยงบอลหนี ฟาน ไดค์ ได้สำเร็จในเกม พรีเมียร์ลีก ตลอดสามซีซั่น
กระทั่งล่าสุดเมื่อ 25 ต.ค.WhoScored เผยสถิติออกมาว่าจากการรวบรวมข้อมูลของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ซึ่งต้องลงเล่นเป็นตัวจริงไม่ต่ำกว่า 5 นัดรวมทั้งสิ้น 42 ราย มีแค่สามกองหลังที่ยังไม่โดนฝ่ายตรงข้ามกระชากบอลหนีไปได้ซึ่งประกอบไปด้วย ฟาน ไดค์ , วิลเลี่ยม ซาลิบา สตาร์ทีม อาร์เซน่อล และ คูร์ต ซูม่า ดาวเตะทีม เวสต์แฮม
ต่อกรณีของ ฟาน ไดค์ มีการโต้แย้งว่าเขาถูก อเล็กซานเดอร์ อิซัก กองหน้าทีมชาติ สวีเดน ของสโมสร นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ลากบอลหนีได้จนทำให้เขาเข้าปะทะหน้าเขตโทษ และโดนไล่ออกในนาทีที่ 28 แมตช์ที่ ลิเวอร์พูล บุกไปแซงชนะ 2-1 เมื่อวันที่ 27 ส.ค.แต่ลักษณะดังกล่าวไม่เข้าข่ายถูกลากบอลหนี
จากจังหวะดังกล่าว ส่งผลให้ ฟาน ไดค์ ถูกแบนหนึ่งนัดตามระเบียบ หากแต่เขาโวยใส่ผู้ตัดสิน จอห์น บรู๊คส์ ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายก่อนเดินออกจากสนามจนทำให้ได้รับโทษแบนเพิ่มเป็นสองนัดหลังตัวนักเตะยอมรับผิดตามข้อกล่าวหาของ สมาคมฟุตบอล (เอฟเอ)