ตะกุกตะกักและทุลักทุเลเหมือนเดิม กว่าพลพรรค "ปีศาจแดง" จะบุกไปเอาชนะทีมบ๊วยอย่าง เชฟฯ ยูไนเต็ด ได้หวุดหวิด
และต่อไปคือสิ่งที่อยากจะบอก
1.ช่วง 20 นาทีแรก เกมเป็นรองแบบถูกกดอยู่ข้างเดียวเลย ฟอร์มการเล่นก็กระท่อนกระแท่น แต่ดันขึ้นนำซะอย่างนั้น แล้วก็เสียประตูคืนอย่างรวดเร็วเช่นเดิม
นี่คือสิ่งที่แก้ไม่หาย ฤดูกาลนี้ ปีศาจแดงชอบเสียประตูเร็วเป็นประจำแบบไม่รู้จักจำ
ทว่าหลังจากถูกตีเสมอเป็น 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด กลับเล่นดีขึ้นเรื่อยๆ ซะอย่างนั้น ก่อนจะคุมเกมบุกอยู่ข้างเดียวบ้างในครึ่งหลัง
2.เด็กผีหลายคนบ่นพลางส่ายหัวว่าขนาดเจอทีมบ๊วยยังเล่นได้แค่นี้ โดยอาจลืมไปว่า ณ ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นเพียงแค่ทีมกลางตารางนะครับ 5555
สุดท้ายก็มีชัยได้ล่ะน่า สเปอร์ส กับ แมนฯ ซิตี้ ก็ชนะทีมดาบคู่ได้ด้วยสกอร์แค่ 2-1 เหมือนกัน...นะจ๊ะ
3.สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ขึ้นไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกแบบเต็มตัว บางจังหวะยืนสูงในระนาบเดียวกับกองหน้าจนกระทุ้งตาข่ายได้อีกแล้ว ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม เอริค เทน ฮาก ถึงจับเขาขึ้นไปเล่นตำแหน่งนั้น
ข้อเสียคือ โซฟิยาน อัมราบัต จะสวมบทตัวรับแค่คนเดียว นั่นคือเหตุผลที่เกมเป็นรองเจ้าถิ่นในครึ่งแรก ต่อเมื่อถอด "แม็คทอม" ออกไปแล้วส่ง คริสเตียน เอริคเซ่น ลงมาช่วยตรงกลาง รูปเกมไฉไลขึ้นชัดเจน ก่อนจะได้ประตูชัย
4.อีกเรื่องที่น่าดีใจคือ อองเดร โอนาน่า เฝ้าเสาด้วยความมั่นอกมั่นใจมากขึ้น นอกจากจะไม่พลาดง่ายๆ ไม่เหวอแดก และไม่ตรงเป็นตุง ยังเซฟลูกอันตรายได้ 2-3 จังหวะ
เหนือสิ่งอื่นใดคือ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมระดับ "MVP" กับ "MOM" ตัดบอลได้ตลอด เก็บกินลูกกลางอากาศ และวางบอลยาวเข้าเป้าตลอด แถมลงสนามเมื่อไหร่ เปอร์เซนต์มีชัยค่อนข้างสูง
5.ทั้ง 2 ประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ มิได้มาจากรูปแบบการเล่นอันเป็นระบบ มิได้มาจากการประสานงานกันอย่างลื่นไหล
แต่ประตูชัยแบบผีจับยัดของ พอล สโคลส์ แม่งสวยจริงๆ นะครับ
บอ.บู๋