แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บสามแต้มในเกม พรีเมียร์ลีก ได้สองนัดติดต่อกันเป็นผลสำเร็จด้วยการบุกไปเฉือนชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด แบบเหงื่อตก 2-1 ในการฟาดแข้งที่สนาม บรามอลล์ เลน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 ต.ค.ส่งผลให้ ดาบคู่ ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นต่อไป
อย่างไรก็ดี ยังเป็นอีกเกมที่ ผีแดง มีฟอร์มการเล่นที่ตะกุกตะกัก ถูลู่ถูกังไม่เลิกเพราะขนาดได้ฟาดเกือกกับทีมรองบ่อนแท้ๆ แต่แทนที่จะคว้าโอกาสนี้โชว์ชั้นเชิงที่เหนือกว่าเจ้าบ้าน พวกเขากลับทำได้แค่คว้าชัยไปแบบหวุดหวิดเท่านั้นซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าซีซั่นนี้ ผีแดง ยากที่จะประสบความสำเร็จหากยังสำแดงเดชกันได้แค่นี้
1. ดาบคู่ เปลี่ยนโผตัวจริงสองตำแหน่ง
เชฟฯ ยูไนเต็ด ซึ่งยังไม่ชนะเลยนับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาได้มีการเปลี่ยนนักเตะ 11 คนแรกรวมสองตำแหน่งจากเกมออกไปแพ้ ฟูแล่ม นัดล่าสุดโดย แจ็ค โรบินสัน ได้เสียบแทน คริส บาแช่ม ปราการหลังที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักในเกมปะทะกับ เจ้าสัวน้อย
ส่วนอีกราย ดาบคู่ เลือกใช้งาน เจมส์ แม็คคาที แทนที่ อาเนล อาเหม็ดฮอดซิช ซึ่งหลุดไปจากทีมในเกมนี้
2. ผีส่ง แม็คโท ออกสตาร์ตตามคาด
ในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ที่ลุกจากม้านั่งลงไปซัดสองเม็ดในช่วงทดเวลาพา แมนฯ ยูไนเต็ด แซงชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ จึงได้รับการตกรางวัลจาก เอริค เทน ฮาก ให้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ตามความคาดหมายเสียบแทน กาเซมีโร่ ที่บาดเจ็บข้อเท้ามาจากการลงบู๊ให้ บราซิล
ส่วนอีกตำแหน่งเป็นการปรับทัพในแดนกลางเช่นกันโดย เมสัน เมาท์ หล่นไปรับบทตัวสำรองเพื่อหลีกทางให้ อันโตนี่ ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงเกมแรกของเขานับตั้งแต่นัดออกไปแพ้ อาร์เซน่อล เดือนก่อน
3. แม็คโท ฉายเดี่ยว
แม้จะได้เล่นกับทีมน้องใหม่ แถมเป็นทีมบ๊วยของตารางอีกต่างหาก แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ของกุนซือ เอริค เทน ฮาก ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าผิดหวังไม่เลิก และต้องอาศัยการเซฟลูกอันตรายจาก อ็องเดร โอนาน่า ช่วงต้นเกมหลายหนป้องกันไม่ให้ทีมโดนสอยตาข่ายก่อน
จนในที่สุด แม็คโทมิเนย์ ก็สร้างชื่อได้เป็นเกมที่สองเกมติดต่อกันด้วยการตะบันให้ทีมออกนำในนาทีที่ 28 ช่วยให้อาคันตุกะได้หายใจหายคอโล่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ถัดมาอีกแค่หกนาทีสตาร์ทีมชาติ สกอตแลนด์ ก็ทำแฮนด์บอลในเขตโทษจนเสียลูกโทษตามระเบียบโดย โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ สังหารไม่พลาดตีเสมอให้เจ้าถิ่นเป็น 1-1
ลงเอยแล้วเกมในครึ่งแรกจึงจบลงด้วยสกอร์ดังกล่าวซึ่งถือว่าเป็นไปตามเนื้อผ้าเนื่องจาก ปีศาจแดง ไม่ได้ข่มทีมเจ้าบ้านได้เหมือนกับหลายๆทีมจากสถิติที่ครองบอลได้มากกว่า 56:44% แต่ได้ส่องยิงน้อยกว่า ดาบคู่ 7:6 ครั้ง และส่งบอลเข้ากรอบได้น้อยกว่า 4-3 ครั้ง
ด้าน แม็คโทมิเนย์ หลังสร้างผลงานทั้งคลำเป้า และทำเสียลูกโทษในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเดียวกันส่งผลให้เขาเป็นดาวเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด รายที่ห้าแล้วที่เข้าทำเนียบดังกล่าวโดยรายล่าสุดได้แก่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส นัดบู๊กับ ไบรท์ตัน ในเดือนก.ย.2020
4. ดาโลต์ ขอโชว์บ้าง
กลับสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ยกระดับการเล่นได้ดีกว่าครึ่งแรกเนื่องจากเป็นฝ่ายบุกได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่โอกาสสุดท้ายที่จะส่งบอลเข้าสัมผัสกับตาข่ายยังค่อนข้างลำบากเนื่องจากไม่มีลูกเล่นที่เหนือชั้นมากพอต่อการสร้างปัญหาให้กับเจ้าถิ่นได้อย่างชัดเจน
จวบจนนาทีที่ 77 เป็นโอกาสที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ ได้โชว์การส่องไกลตุงตาข่ายอย่างสุดสวยพาทีมคว้าสามแต้มได้สำเร็จซึ่งถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของบรรดาตัวรุกได้อย่างยอดเยี่ยมในเมื่อเกมนี้สตาร์เจ้าประจำหลายรายไม่อาจเป็นที่พึ่งของทีมได้
ขณะเดียวกัน นอกจาก ดาโลต์ แล้ว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เกมนี้ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงต่อก็มีฟอร์มที่ดีไม่หยอกถึงขนาด สกาย สปอร์ตส์ ยกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ และบางทีมันอาจเป็นจุดเปลี่ยนในซีซั่นนี้ของเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติ อังกฤษ ก็เป็นได้หาก เทน ฮาก จะยอมรับความจริงว่าอดีตกัปตันทีมกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าพอใจอีกหนหลังไม่ได้ย้ายออกจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์
ถึงกระนั้นก็เถอะ แม้ ดาโลต์ จะกดประตูชัยให้ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะได้สำเร็จ แต่หากจะงัดสถิติหลังจบเกมออกมาตีแผ่ ผีแดง เหนือกว่าเจ้าบ้านอย่างชัดเจนแค่การครองบอลเท่านั้น 62:38% แต่พวกเขาปล่อยให้ เชฟฯ ยูไนเต็ด ทีมบ๊วยส่องยิงได้มากถึง 12 ครั้ง และเข้ากรอบมากกว่าซะด้วยถึง 6 ครั้งซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมหันต์แม้ว่า ผีแดง จะได้ลุ้นเช็กบิลมากกว่า 14 ครั้ง แต่ส่งบอลเข้ากรอบได้น้อยกว่า 5 ครั้งซึ่งชัดเจนว่าทีมจาก โรงละครแห่งความฝัน ยังเข้าขั้นมีผลงานตกต่ำเช่นเดิม และหากพวกเขาต้องบู๊กับทีมระดับหัวแถวโดยสามารถเล่นกันได้แค่นี้ก็บอกได้เลยว่าไม่ตายก็คางเหลืองชัวร์
5. โรคเดี้ยงเล่นงานอีก???
อย่างที่เห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะล้มเจ็บกันระนาวในซีซั่นนี้โดยเฉพาะผู้เล่นในแผงหลังที่ทำเอา เทน ฮาก ต้องสลับตำแหน่งลูกทีมในแต่ละเกมเป็นว่าเล่น
และในที่สุดช่วงท้ายเกมบุกไปชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด จอนนี่ อีแวนส์ กลายเป็นเหยื่อรายอีกรายของทีมที่โดนโรคเดี้ยงรังควานจนได้ และต้องเปลี่ยนตัวออกให้ ราฟาแอล วาราน ที่ฟิตสมบูรณ์แล้วลงบู๊แทน
ถึงตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงต้องรอดูว่าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมเก๋าจะเจ็บหนักแค่ไหนแม้เจ้าตัวจะเดินออกจากสนามเองได้ก็ตามเพราะหากเป็นปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังก็จะทำให้สตาร์ทีมชาติ ไอร์แลนด์เหนือ ต้องร้างสนามไประยะหนึ่ง
และสำหรับ วาราน แม้จะกลับมาลงสนามได้ แต่เท่าที่เห็นกองหลังเลือดน้ำหอมเข้าขั้นกระดูกเปราะไปแล้วเนื่องจากไม่เคยลงบู๊ได้อย่างต่อเนื่อง และมักล้มหมอนนอนเสื่อชนิดเกมเว้นเกมเลยก็ว่าได้ เขาจึงไม่ใช่นักเตะที่ทีมสามารถพึ่งพาได้ในระยะยาว
แต่ขณะเดียวกัน ปัญหาดังกล่าวของ ผีแดง กลับกลายเป็นผลดีต่อ แม็กไกวร์ ซึ่งได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกคำรบแล้วในระหว่างที่เพื่อนร่วมตำแหน่งหลายรายพากันบาดเจ็บซึ่งส่งผลให้กุนซือดัตช์เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเรียกใช้งานกองหลังค่าตัวแพงที่มีส่วนทำให้ทีมกำชัยในเกมลีกได้สองนัดติดต่อกันแล้ว และหากเขายังเล่นได้อย่างน่าพอใจเช่นนี้ต่อไปโดยไม่ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานมันก็ยุติธรรมดีที่ขุนพลคนสำคัญของทีม สิงโตคำราม จะมีสถานภาพแบบเดียวกันนี้ในทีม ผีแดง เหมือนก่อนอีกครั้ง