อนาคตในวงการลูกหนังของ ซานโดร โตนาลี่ กองกลางนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังคงไม่แน่นอนหลังนักเตะโดนสอบสวนกรณีที่มีส่วนพัวพันกับการเล่นการพนัน ซึ่งถ้าหากมีความผิดจริงนักเตะมีสิทธิ์โดนลงโทษสุงสุดนั่นก็คือการถูกแบนยาว 3 ปีเลยทีเดียว
โตนาลี่ และ นิโคโล่ ซานิโอโล่ สองผู้เล่นทีมชาติอิตาลี เพิ่งโดนส่งตัวกลับสโมสรต้นสังกัด หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกมาสอบเรื่องพนันฟุตบอลถึงแคมป์เก็บตัวทัพ "อัซซูร์รี่" ช่วง "ฟีฟ่า เดย์" ช่วงกลางเดือนตุลาคม
ขณะที่ นิโคโล่ ฟาโจลี่ มิดฟิลด์ทีม ยูเวนตุส เพิ่งโดนอัยการตูรินสั่งลงโทษแบนยาวเจ็ดเดือนเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังก่อความผิดจากการเล่นพนัน และยังโดนปรับเงินเป็นจำนวน 12,500 ยูโร (ราว 485,000 บาท) ด้วย รวมทั้งเขาจะต้องเข้าคอร์สบำบัดอีกต่างหาก
สำหรับในกรณีของ โตนาลี่ ซึ่งเพิ่งยอมรับว่าสมัยอยู่กับ เอซี มิลาน ในบางครั้งที่เขาไม่มีชื่อติดทีมเขาก็จะลงเดิมพันว่าทีมจะเก็บชัยชนะได้ กระทำการฝ่าฝืนกฎมาตรา 24 ของประมวยกฎหมายความยุติธรรมด้านกีฬาจริง มีโอกาสสูงที่จะโดนแบนยาว 3 ปีเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามในวงการกีฬาโทษแบนดังกล่าวยังไม่ถือว่าโหดมากนัก เพราะมีนักกีฬาหลายคนที่เคยโดนสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับกีฬานั้นๆ นานกว่านี้หลายเท่า โดยจะมีใครบ้างลองไปเช็คกันดู
1. มูฮัมหมัด อาลี (แบน 4 ปี)
ตำนานแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต อย่าง มูฮัมหมัด อาลี เคยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกาในช่วงระหว่างสงครามเวียดนาม โดยอ้างความเชื่อทางศาสนาว่าห้ามไม่ให้เข้าร่วมทำสงคราม
การกระทำดังกล่าวส่งผลให้ อาลี ถูกปลดจากตำแหน่งแชมป์โลก พร้อมกับต้องโทษจำคุกฐานหนีทหารเป็นเวลา 5 ปี แต่ยังได้รับการประกันตัว ก่อนที่ศาลสูงจะกลับคำพิพากษาด้วยเหตุผลด้านกระบวนการพิจารณาคดีในอีกราว 4 ปีถัดมา
อย่างไรก็ตาม อาลี ซึ่งได้รับคำนิยามสมัยที่เป็นนักมวยว่า "โบยบินเหมือนผีเสื้อ แต่ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง" โดนยึดใบอนุญาตชกมวยอาชีพในตลอดช่วงที่อยู่ในกระบวนการยื่นอุทธรณ์คดี โดยกรณีนั้นส่งผลให้เขาโดนแบนจากวงการมวยไปโดยปริยาย
2. จัสติน แกตลิน (แบน 5 ปี)
จัสติน แกตลิน ยอดนักวิ่งชาวอเมริกัน ถูกตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้นจากกรณีที่ใช้สารเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย และฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของมนุษย์เมื่อปี 2006 และทำให้เขาต้องโดนสั่งแบน 4 ปีแต่โทษลดลงหลังมีการอุทธรณ์
ลมกรดจากแดนลุงแซม กลับคืนสู่ลู่วิ่งอีกครั้งเมื่อปี 2010 ก่อนที่จะคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันวิ่ง 100 เมตรชายศึกโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2012
หลังจากนั้น แกตลิน สามารถคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่นครริโอ เดอ จาเนโร่ ที่ประเทศบราซิล เมื่อปี 2016 แต่ช่วงเวลาที่พีคที่สุดของเขาก็คือการเข้าเส้นชัยคนแรกวิ่ง 100 เมตรชายในศึกกรีฑาชิงแชมป์โลก ปี 2017 โดยเอาชนะ ยูเซน โบลต์ ตำนานลมกรดชาวจาเมกา ซึ่งเข้าเส้นชัยอันดับ 3
3. อีน็อค เวสต์ (แบน 30 ปี)
ตอนนั้น อีน็อค เวสต์ เป็นสตาร์ดาวรุ่งจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่อนาคตของเขาในวงการลูกหนังต้องมลายสิ้นหลังจากที่โดนสั่งแบนตลอดชีวิตจากคดีล้มบอล โดยงานนี้มีผู้ร่วมกระทำผิดเป็นแข้ง "ผีแดง" 4 ราย และ ลิเวอร์พูล 3 ราย เมื่อปี 1915
อย่างไรก็ตามนักเตะคนอื่นๆ ที่โดนคดีดังกล่าวได้รับโอกาสกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งหลังยอมรับเงื่อนไขจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) นั่นก็คือการช่วยชาติเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 1
อย่างไรก็ตาม เวสต์ ซึ่งค้าแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นานถึง 5 ฤดูกาล พร้อมสถิติตะบันไป 80 ประตูจากการเล่น 181 แมตช์ให้กับต้นสังกัด ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวทำให้โดนลงโทษแบน แต่สุดท้ายโทษมีการยกเลิกในปี 1945 ทำให้เขาถูกแบนไปทั้งสิ้น 30 ปี
ทั้งนี้ในช่วงระหว่างปี 1964-1965 เอฟเอ ได้สั่งแบนนักเตะ 10 รายตลอดชีวิต โดยมี 3 รายที่ได้รับการยกเลิกโทษแบนในปี 1972 สำหรับเหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นการล้มบอลครั้งใหญ่ที่สุดในวงการลูกหนังเมืองผู้ดีเลยทีเดียว
4. เบน จอห์นสัน (แบนตลอดชีวิต)
เบน จอห์นสัน ลมกรดชาวแคนาเดี้ยน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นชายที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกเมื่อปี 1988 หลังทำลายสถิติโลกวิ่ง 100 เมตร และ 60 เมตร แต่อาชีพของเขาต้องพังทลายในชั่วพริบตา
นักวิ่งจากประเทศแคนาดา คว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตรจากการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อปี 1988 แต่หลังจากนั้นอีก 3 วันคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้สั่งริบเหรียญทองของ "บิ๊กเบน" หลังตรวจพบสารต้อมห้ามสเตียรอยด์ในตัวเขา นั่นทำให้สถิติต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดนยกเลิกเรียบวุธ
การกระทำดังกล่าวทำให้ จอห์นสัน ต้องชดใช้กรรมถูกห้ามแข่งเป็นเวลา 2 ปี โดยเมื่อเขาพ้นโทษแบนเมื่อปี 1991 ยอดนักวิ่งชาวแคนาเดี้ยน พยายามที่จะกลับเข้าสู่วงการอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังมีพฤติกรรมเดิม เมื่อถูกตรวจพบใช้สารกระตุ้นอีกครั้ง และต้องโทษบทลงโทษโหดห้ามแข่งตลอดชีวิตเมื่อปี 1993
5. แลนซ์ อาร์มสตรอง (แบนตลอดชีวิต)
แลนซ์ อาร์มสตรอง ตำนานน่องเหล็กชาวอเมริกัน ถือเป็นนักปั่นจักรยานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์การแข่งขันจักรยานทางไกล ตูร์ เดอ ฟร้องค์ เมื่อสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 7 สมัยในช่วงระหว่างปี 1999-2005
นอกจากนี้ "สิงห์เทกซัส" ยังถือเป็นไอดอลในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก จากการที่เป็นนักกีฬาสู้ชีวิตเมื่อสามารถเอาชนะมะเร็งต่อมลูกหมากได้สำเร็จ และก้าวขึ้นมาเป็นตำนานในวงการน่องเหล็กโลก
อย่างไรก็ตามภาพไอดอลยอดนักสู้ต้องสลายสิ้นเมื่อ อาร์มสตรอง ถูกจับได้ว่าใช้สารกระตุ้นหลายประเภทเช่นสารอีพีโอ, เทสโทสเตอโรน และ คอร์ติโซน เป็นต้น จนทำให้เขาคว้าแชมป์ตูร์ เดอ ฟร้องค์ อย่างยิ่งใหญ่
การกระทำสุดอัปยศส่งผลให้ อาร์มสตรอง โดนริบแชมป์ตูร์ เดอ ฟร้องค์ ทั้ง 7 สมัย นอกจากนี้ สหพันธ์จักรยานโลก (ยูซีไอ) ยังริบแชมป์ทุกรายการพร้อมลงโทษแบนตลอดชีวิต ขณะที่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ก็สั่งริบเหรียญทองแดงรวมทั้งเหรียญทองแดง โอลิมปิก เกมส์ ที่นครซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2000 ด้วย
6. เหลียง เหวินโป๋ กับ หลี ฮัง (แบนตลอดชีวิต)
ช่วงต้นปี 2023 วงการสนุกเกอร์ต้องพบกับเรื่องสุดอื้อฉาวเมื่อมีการล็อกผลการแข่งขันเพื่อจุดประสงค์ในการเดิมพัน และทำให้นักสอยคิวชาวจีน 10 รายโดนสั่งแบนจากคดีดังกล่าว
สำหรับ เหลียง เหวินโป๋ กับ หลี ฮัง ได้รับบทลงโทษหนักสุด โดยสมาคมบิลเลียด และสนุกเกอร์อาชีพ (ดับเบิ้ลยูพีบีเอสเอ) จัดการสั่งแบนนักสอยคิวทั้งสองคนตลอดชีวิต
เนื่องจากทั้งสองคนพยายายมล็อกผลการแข่งขัน โน้มน้าวผู้เล่นคนอื่นให้ล็อกผล เดิมพันผลการแข่งขัน ข่มขู่ผู้เล่นคนอื่น รวมทั้งทำลายหลักฐานด้วยการลบข้อความ และไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวน
ขณะที่นักสนุกเกอร์เพื่อนร่วมชาติอีก 8 ราย ยอมรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน ทำให้พวกเขาได้รับการลดโทษลดหลั่นกันไป
ทอมเม้ง