ดิ แอธเลติก สื่อกีฬายักษ์ใหญ่เปิดประเด็นโอกาสคว้าหุ้น แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ พร้อมระบุวันที่จะมีการโหวตตัดสินใจของตระกูลเกลเซอร์
แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาตกเป็นข่าวใหญ่ในสื่อเมืองผู้ดีอีกครั้งหลังจาก ชีคห์ ยาสซิม แห่ง กาตาร์ ตัดสินใจถอนตัวจากการเทคโอเวอร์สโมสรดังของ พรีเมียร์ลีก อย่างแน่นอนแล้วหลังพยายามยื่นข้อเสนอติดต่อขอซื้อ ผีแดง หลายรอบนับตั้งแต่ตระกูลเกลเซอร์ปักป้ายขายทีมเมื่อเดือนพ.ย. แต่ไม่มีวี่แววว่าเขาจะคว้าทีมลูกหนังนามกระเดื่องมาอยู่ในกำมือได้แบบ 100%
ต่อกรณีดังกล่าว ส่งผลให้ เซอร์ แรตคลิฟฟ์ ตกเป็นข่าวตามมาว่าจะได้ถือครองหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด 25% แลกกับการควักกระเป๋า 1,400 ล้านปอนด์ (ราว 63,028 ล้านบาท) เนื่องจากมหาเศรษฐีอิงลิชตระหนักดีว่าเจ้าของทีมชาวอเมริกันไม่คิดขายทีมจริงจึงทำให้เขาพร้อมซื้อหุ้นก้อนเล็กเป็นบันไดขั้นแรกก่อนพยายามพาทางเทคโอเวอร์สโมสรในอนาคต
อย่างไรก็ดี ถึงขณะนี้นักธุรกิจวัย 70 ปีซึ่งเป็นกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ มาตั้งแต่แรกยังไม่ได้ครอบครองหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากเขาจะต้องได้รับเสียงโหวตสนับสนุนจากบอร์ด ผีแดง ซะก่อนโดยประเด็นนี้ ดิ แอธเลติก เผยว่าจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ในวาระประชุมบอร์ดเร่งด่วนซึ่งจะเป็นวันที่ตัดสินว่าประธานกลุ่ม INEOS จะสมหวังหรือไม่
ขณะเดียวกัน สื่อเจ้าดังกล่าวเผยรายละเอียดด้วยว่า เซอร์ แรตคลิฟฟ์ ต้องรอฟังเสียงโหวตจากบอร์ด แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมด 12 รายซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกตระกูลเกลเซอร์หกรายทั้ง โจเอล , อาฟรัม , ดาร์ซี่ , เควิน , ไบรอัน และ เอ็ดเวิร์ด รวมถึง ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอ ,คลิฟฟ์ บาตีย์ หัวหน้าฝ่ายการเงิน , แพทริค สจ๊วร์ต ที่ปรึกษาด้านกฏหมายของสโมสรซึ่งทำงานให้กับศาลกีฬาโลกเช่นกัน ตลอดจนบอร์ดอีกสี่รายที่เหลืออย่าง โรเบิร์ต เลทาว , มานู ซอว์นีย์ และ จอห์น ฮุกส์
สำหรับการโหวตเสียงมีการกำหนดให้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินผลลัพธ์ แต่หากผลลัพธ์ออกมาเสมอกัน โจเอล กับ อาฟรัม ประธานร่วมจะเป็นคนตัดสินใจในท้ายที่สุด