อ็องเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตูทีมชาติ แคเมอรูน ย้ายมาจุดประกายความหวังให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากเขาเป็นมือกาวชั้นยอดที่ได้รับการยอมรับในฝีไม้ลายมือ แต่ไม่ทันไร เจ้าของค่าตัว 47 ล้านปอนด์กลับกลายเป็นตัวปัญหาของ ปีศาจแดง ไปซะได้
อดีตผู้รักษาประตูทีม อินเตอร์ มิลาน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก กับ แมนฯ ซิตี้ แต่หลังย้ายมาเฝ้าเสาให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาเสียประตูไปแล้ว 19 เม็ดจาก 10 นัดในทุกรายการจนทำให้สาวก เร้ด อาร์มี่ เริ่มส่งเสียงเรียกร้องให้ เอริค เทน ฮาก ดร็อปเขาได้แล้ว
ไม่เฉพาะ โอนาน่า เท่านั้น หากแต่ เมสัน เมาท์ ถูกมองว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังของ ผีแดง เช่นกัน
อย่างไรก็ดี หากจะว่ากันถึงผู้รักษาประตูซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เคยลงทุนกับตำแหน่งนี้อย่างน่าผิดหวังมาก่อน เราจะไปดูกันว่า โอนาน่า รั้งอยู่ในตำแหน่งไหนในจำนวนแปดนายทวารยอดแย่ของสังเวียนแข้ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด
8. เบน ฟอสเตอร์
ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางตัวให้เป็นอนาคตในระยะยาวของสโมสร แต่คว้าโอกาสเอาไว้ไม่ได้
ได้รับบทให้เป็นแบ็คอัพของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ และถูกส่งลงเฝ้าเสาในเกมชิงชนะเลิศ ลีกคัพ ปี 2009 แมตช์ดวลลูกโทษชนะ สเปอร์ส หลังเสมอกัน 0-0 แถมในช่วงต้นซีซั่นถัดมาซึ่งโกลดัตช์บาดเจ็บ ฟอสเตอร์ กลับทิ้งโอกาสทะยานขึ้นเป็นประตูมือหนึ่งเนื่องจากก่อความผิดพลาดในเกมบู๊กับ อาร์เซน่อล , แมนฯ ซิตี้ และ ซันเดอร์แลนด์ จนทำให้เขาเสียตำแหน่งในทีมตัวจริงทันทีที่ ฟาน เดอ ซาร์ เรียกความฟิตกลับคืนมาได้กระทั่งต้องย้ายออกไปหลังจบซีซั่น
7.มาร์ค บอสนิช
นายทวารออสเตรเลียสามารถคุยโวได้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่ เฟอร์กูสัน เซ็นสัญญาด้วยถึงสองครั้ง และมันเริ่มตั้งแต่ก่อนที่ พรีเมียร์ลีก จะถือกำเนิดโดยเขาได้ลงสนามสองเกมก่อนย้ายกลับบ้านเกิดเนื่องจากวีซ่าหมดอายุ กระทั่งหลังเจ้าตัวกลับสู่อังกฤษมาสร้างชื่อกับ แอสตัน วิลล่า ได้ บอสนิช ก็หวนคืนสู่ โรงละครแห่งความฝัน เป็นหนที่สองในปี 1999 หลังจาก ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล อำลาทีมไป
แน่นอนว่าการรับช่วงต่อจากยอดนายทวารทีมชาติ เดนมาร์ค เป็นภาระที่หนักอึ้ง และมันไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลยเมื่อ เฟอร์กูสัน ระบุว่าเขาเป็น "มืออาชีพที่เลวร้าย" เนื่องจากมาซ้อมสายสามชั่วโมง แถมกินจุเกินลิมิตโดยหลังเกมบุกไปเยือน วิมเบิลดัน กุนซือวิสกี้เผยว่านายทวารเลือดจิงโจ้กินทุกอย่างที่ขวางหน้าก่อนสั่งอาหารจีนกลับไปกินที่บ้านอีกด้วย
กระนั้นก็ดี บอสนิช ยังเป็นผู้รักษาประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งลงสนามมากที่สุดในบรรดาสามนายทวารหลังพ้นยุคของยักษ์เดนส์โดย แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ รวมถึงแชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ แต่ในซีซั่นที่สองเขาไม่ถูกส่งลงเล่น และย้ายไปร่วมทีม เชลซี ในเดือนม.ค.2001 ก่อนถูกตรวจพบว่าเสพโคเคนในปีต่อมา
6. ทิม ฮาวเวิร์ด
ไม่มีใครรู้จักนายทวารอเมริกันรายนี้มาก่อนตอนที่เขาเซ็นสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2003 และบอกได้เลยว่าเขาไม่อาจแบกรับความกดดันได้แม้จะโชว์ลีลาที่โลดโผนโจนทะยานเซฟประตูได้ในสองสามเดือนแรก แต่ทุกอย่างพังลงในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดต่อกรกับทีม ปอร์โต้ ของ โชเซ่ มูรินโญ่ เมื่อ ฮาวเวิร์ด ปล่อยให้ลูกฟรีคิกของ คอสตินญ่า หลุดเข้าประตูแบบง่ายๆจนทำให้ ผีแดง ตกรอบคารัง
นับจากนั้น ฮาวเวิร์ด ก็ไม่อาจเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้อีก และถูกสลับให้ทำหน้าที่ประตูมือหนึ่งกับ รอย แคร์โรลล์ เป็นเวลา 14 เดือนโดยทั้งสองต่างก็ไม่อาจทำให้ เฟอร์กูสัน ประทับใจได้จนในที่สุด ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ถูกดึงตัวมาจาก ฟูแล่ม ในปี 2005 และรั้งตำแหน่งมือหนึ่งจวบจนรีไทร์ในอีกหกปีต่อมา
5. รอย แคร์โรลล์
ผู้รักษาประตูทีมชาติ ไอร์แลนด์เหนือ เริ่มต้นอาชีพนักเตะกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฐานะตัวสำรองของ ฟาเบียง บาร์กเตซ ก่อนก้าวขึ้นเป็นมือหนึ่งในซีซั่น 2004/05 หลังจากเอาชนะการแย่งตำแหน่งกับ ฮาวเวิร์ด ได้
อย่างไรก็ดี แคร์โรลล์ ไม่ต่างอะไรกับนายทวารชาวเมืองลุงแซมเนื่องจากไม่สามารถเอาชนะแรงกดดันได้ และนอกจากเกมแพ้ เอซี มิลาน ในรอบ 16 ทีมถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก แล้ว เขายังเซฟลูกโทษไม่ได้เลยในการดวลความแม่นเป้ากับ อาร์เซน่อล ก่อนปราชัยในเกมชิงดำ เอฟเอคัพ ปี 2005
อย่างไรก็ดี แคร์โรลล์ สร้างตำนานที่ทุกคนจำจดได้อย่างแม่นยำทั้งๆที่ถูกสอยตาข่ายแต่ไม่เสียประตูเมื่อเขาวิ่งกลับไปปัดลูกยิงที่ข้ามเส้นไปแล้วของ เปโดร เมนเดส ออกมาในเกมฉะกับ สเปอร์ส ซึ่งทั้งผู้ตัดสินและไลน์แมนไม่ทันสังเกต แต่สุดท้าย ผีแดง ก็โละเขาออกจากทีมในเดือนพ.ค.2005
4. อ็องเดร โอนาน่า
ขุนพลทีมชาติ แคเมอรูน ถูกดึงตัวมาให้ ผีแดง ปั้นเกมขึ้นมาจากแดนหลังเพื่อเน้นการครองบอลให้มากขึ้น แต่กลายเป็นว่ามันทำให้ทีมสุ่มเสี่ยงที่จะเสียประตูซะมากกว่าซึ่งไม่เพียงส่อเค้าว่าทีมดังของ พรีเมียร์ลีก น่าจะพลาดการคว้าอันดับท็อปโฟร์แล้ว พวกเขายังน่าจะตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วย
ถึงขั้นนี้ โอนาน่า จึงถูกพิพากษาว่าไม่อาจทดแทน ดาบิด เด เคอา ที่ถูกสโมสรสาปส่งเมื่อช่วงซัมเมอร์หลังปฏิเสธต่อสัญญาให้กับเขา และมันส่อเค้าว่าโกลคนโปรดของ เทน ฮาก น่าจะทำให้ เร้ด เดวิลส์ กลับไปมีซีซั่นที่เลวร้ายอีกรอบ
3. ฟาเบียง บาร์กเตซ
ในฐานะผู้รักษาประตูทีมชาติ ฝรั่งเศส ชุดคว้า แชมป์โลก และ แชมป์ยูโร บาร์กเตซ จึงได้รับความเชื่อมั่นว่าจะเป็นทายาทของ ชไมเคิ่ล ได้ แต่กลายเป็นว่าเขามั่นใจในตัวเองมากเกินไป และตลอดสามปีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มือกาวหัวใสจึงถูกจดจำเพียงแค่การมอบสองประตูให้ เธียร์รี่ อองรี สับไกพา อาร์เซน่อล สยบ ผีแดง 3-1 หลังจากเมื่อเดือนก่อนเขาเพิ่งก่อความผิดพลาดอย่างง่ายดายในเกมแพ้ กอรุนญ่า
ไม่เพียงเท่านั้น บาร์กเตซ ยังเคยเตะใส่หน้า เอียน ฮาร์ท กองหลัง ลีดส์ จนเสียลูกโทษ แต่เขาไม่โดนไล่ออก และสามารถเซฟประตูได้ อีกทั้งพยายามอาศัยลูกเล่นในเชิงจิตวิทยายกมือบอกว่า เปาโล ดิ คานิโอ ล้ำหน้า แต่โดนสตาร์อิตาเลี่ยนสอยตาข่ายจนทำให้ เวสต์แฮม เขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด กระเด็นตกรอบถ้วย เอฟเอคัพ
แม้เขาจะช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แย่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก คืนมาจาก อาร์เซน่อล ได้ในซีซั่นที่สามของเขา แต่ฟอร์มที่เลวร้ายในรอบแปดทีมถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก นัดบู๊กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเขาเสียสามประตูทั้งสองเกมทำให้เขาไม่ได้เล่นให้กับ ผีแดง อีกเลยนับจากนั้น
2. บิคตอร์ บัลเดส
มือกาวสแปนิชมีส่วนร่วมเล็กๆในทีม บาร์เซโลน่า ชุดที่กำราบ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้งสองหนของรอบชิงชนะเลิศถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก แต่อีกสามปีต่อมาหลังจากกำชัยเหนืออสูรแดงที่ เวมบลีย์ เขาก็พบว่าตัวเองโผล่มาที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
อันที่จริง แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของ บัลเดส เนื่องจากเขาตกลงสัญญากับ โมนาโก แล้วหลังตัดสินใจไม่ลงน้ำหมึกเพิ่มกับถิ่น คัมป์นู แต่สุดท้ายทีมลูกหนังของเมืองน้ำหอมยกเลิกการย้ายหลังนายทวารชาวเมืองกระทิงดุเจ็บเข่าอย่างหนัก
ด้วยเหตุนี้ ผีแดง ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล จึงเปิดโอกาสให้เขาใช้สโมสรเป็นที่ฟื้นฟูร่างกาย และเสนอสัญญาให้กับเขาในเดือนม.ค.2015 แต่กลายเป็นว่าการร่วมงานกันอีกครั้งของทั้งคู่ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเนื่องจากกุนซือดัตช์ส่งเขาลงเฝ้าเสาแค่สองเกมเท่านั้นก่อนขึ้นป้ายขายหลังจากนายทวารชื่อดังปฏิเสธลงเล่นให้กับทีมสำรอง
"เขาปฏิเสธที่จะทำตามปรัชญาของผม มันจึงไม่มีที่ว่างสำหรับเขา" ฟาน กัล อธิบาย
1.มัสซิโม่ ตาอิบี้
แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับนายด่ายตาข่ายประสบการณ์สูงชาวอิตาเลี่ยนในปี 1999 เพื่อให้เป็นแบ็คอัพของ บอสนิช ที่บาดเจ็บโดยเขาถูกฉุดมาจาก เวเนเซีย ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ซึ่งไม่ใช่เงินก้อนเล็กในสมัยนั้น และกลายเป็นว่าพวกเขาเสียเงินนัดละเกินกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อการส่งเขาลงสนามสี่เกมโดยที่ทีมเสียประตูมากถึง 11 ลูก
ตาอิบี้ ประเดิมสนามในเกมแดงเดือดที่ แอนฟิลด์ และกลายเป็นฝันร้ายทันทีเมื่อคว้าลูกโยนโด่งไม่สำเร็จจนเปิดทางให้ ซามี่ ฮูเปีย สอยประตูแรกได้แบบหมูหก แต่ถัดมาเขาแก้ตัวได้เยี่ยมด้วยการเซฟลูกอันตรายได้หลายหนพาทีมกำชัย 3-2 พร้อมรับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ โดย ผีแดง ได้สองประตูที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ สกัดตุงตาข่ายตัวเอง
เกมถัดมาของเขาเป็นแมตช์เฝ้าบ้านเสมอกับ วิมเบิลดัน 1-1 และตามด้วยการเปิดรังเจ๊ากับ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 ซึ่งเขาก่อความผิดพลาดครั้งที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ พรีเมียร์ลีก ด้วยการปล่อยให้ลูกยิงเบาหวิวของ แมตต์ เลอ ทิสซิเอร์ ลอดหว่างขาเข้าประตู
แม้จะถูก เดอะ ซัน ขนานนามให้หลังจบเกมดังกล่าวว่า "คนตาบอดแห่งเวเนเซีย" แต่ความเลวร้ายที่หนักกว่านั้นยังบังเกิดตามมาอีกในเกมบุกไปแพ้ เชลซี ป่นปี้ 5-0 ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเกมสุดท้ายของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด