แมนซิตี้ เตรียมตกบัลลังก์! 5เหตุผล อาร์เซน่อล จะซิวแชมป์พรีเมียร์ซีซั่นนี้

แมนซิตี้ เตรียมตกบัลลังก์! 5เหตุผล อาร์เซน่อล จะซิวแชมป์พรีเมียร์ซีซั่นนี้
ส่อง 5 เหตุผลที่ อาร์เซน่อล จะมีโอกาสผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ หลังจากอกหักโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงปาดหน้าคว้าแชมป์ไปในซีซั่นที่ผ่านมา

อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า ถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่มีโอกาสจะแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ หลังจากพวกเขาเพิ่งโชว์ฟอร์มเฉียบอัด "เรือใบสีฟ้า" 1-0 ในศึกพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุด พร้อมทำให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สะดุดแพ้สองนัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก 

จากผลการแข่งขันดังกล่าวนั้นทำให้ "เดอะ กันเนอร์ส" มี 20 แต้มขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง โดยมีแต้มเท่ากับ สเปอร์ส แต่ลูกได้เสียเป็นรอง ส่วน แมนฯ ซิตี้ นั้นแพ้เป็นนัดที่สองของฤดูกาลอยู่ที่ 3 ของตาราง 

แน่นอนว่าจากผลงานการออกสตาร์ตฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของ "ไอ้ปืนใหญ่" ทำให้แฟนๆหลายคนต่างเชื่อมั่นว่าปีนี้พวกเขามีโอกาสจะแก้ตัวได้จากซีซํ่นที่แล้ว ยุติการรอคอยแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 20 ปีได้เสียที นี่คือเหุตผล 5 ประการว่าทำไม อาร์เซน่อล จะไปถึงฝั่งฝันได้ในฤดูกาลนี้ 

กำราบ แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จ

เกมที่ อาร์เซน่อล เจอ แมนฯ ซิตี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการตัดสินแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยที่ "เรือใบสีฟ้า" เอาไปชนะได้ทั้งสองนัดในช่วงท้ายฤดูกาล 

นัดแรก แมนฯ ซิตี้ สามารถบุกมาถลุง อาร์เซน่อล ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 3-1 ในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะกลับไปถล่มที่เอติฮัด สเตเดี้ยม 4-1 ในเดือนเมษายน 

อย่างไรก็ตามในการเจอกันปีนี้กลายเป็นทีมของ อาร์เตต้า ที่ต่อกรได้กับอดีตนายเก่าได้อย่างยอดเยี่ยมเริ่มตั้งแต่เอาชนะการดวลจุดโทษในศึกคอมมูนิตี้ชิลด์ ก่อนจะมาเอาชนะในเกมลีกได้สำเร็จ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2015 

แน่นอนว่าเรื่องดังกล่าวถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะตัดสินแชมป์ในฤดูกาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลงานและสภาพจิตใจของเหล่านักเตะที่จะทำให้พวกเขาแย่งแชมป์จาก แมนฯ ซิตี้ มาครองได้แบบสมใจอยาก 

ไม่ฝากความหวังการทำประตูไว้ที่ใคร

ฤดูกาลนี้บรรดาแนวรุก อาร์เซน่อล ไม่ได้มีใครคนใดคนหนึ่งที่แบกความหวังในการทำประตู โดยประตูของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ นั้นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่ 9 ของทีมที่ทำประตูในลีกให้ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนี้ในระยะเวลา 8 เกม 

เรื่องดังกล่าวมันแสดงให้เห็นว่า อาร์เซน่อล ไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่ใครคนใดคนหนึ่งในการทำประตู โดยเฉพาะสองกองหน้าอย่าง กาเบรียล เชซุส และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ผลงานยังไม่เข้าฝักยิงรวมกันเพียง 3 ประตูเท่านั้น

นอกจากนี้ในเกมสำคัญกับ แมนฯ ซิตี้ ในยามที่พวกเขาขาดแกนหลักอย่าง บูคาโย่ ซาก้า ดาวซัลโวของทีมที่ยิง 4 ประตู ก็ยังสามารถเอาตัวรอดเก็บสามแต้มสำคัญ และพิสูจน์ให้เห็นว่า "เดอะ กันเนอร์ส" มีแข้งที่มีศักยภาพมากพอที่จะยิงประตูได้ทุกคน

มีขนาดทีมที่ใหญ่ขึ้น

ปีนี้ อาร์เซน่อล ถือว่ามีทรัพยากรให้ อาร์เตต้า ได้เลือกใช้งานมากขึ้น โดยเซ็นสัญญากับแข้งใหม่มา 3 รายช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาทั้ง เดแคลน ไรซ์, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เยอร์เรียน ทิมเบอร์  

จากเกมที่ อาร์เซน่อล เอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 แม้ว่าจะขาดแกนหลักอย่าง บูคาโย่ ซาก้าไป แต่พวกเขามีผู้เล่นที่สามารถส่งลงมาทดแทนได้มากขึ้น โดยเป็น กาเบรียล เชซุส ที่ถูกขยับมาเล่นเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวาแทน และใช้ เลอันโดร ทรอสซาร์ เล่นกราบซ้าย 

ขณะที่ในม้านั่งสำรองในแนวรุกมีทั้ง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, เอมิล สมิธ โรว์, ฟาบิโอ วิเอยร่า และ ฮาแวร์ตซ์ ซึ่งมันทำให้ อาร์เตต้า มีผู้เล่นหมุนเวียนมากขึ้นทั้งในการเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงทดแทนผู้เล่นตัวหลักที่บาดเจ็บได้ด้วย

เดแคลน ไรซ์ จิ๊กซอว์ที่มาเติมเต็ม

การที่ อาร์เซน่อล ทุ่มเงินคว้ามิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษมาด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 105 ล้านปอนด์ ดูจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่งหลังโชว์ฟอร์มโดดเด่นคุมแดนกลางได้อย่างหมดจด

แม้ในซีซั่นก่อน อาร์เซน่อล จะมีคู่กลางอย่าง โธมัส ปาร์เตย์ และ กรานิต ชาก้า ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม แต่ทั้งคู่ก็มีช่วงเวลาที่ฟอร์มหลุดไปเช่นกัน ซึ่งการมาของ ไรซ์ เข้ามาทำให้ "ปืนใหญ่" มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น

บทเรียนอันล้ำค่า

ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล ใกล้เคียงที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอง แต่สุดท้ายมาพลาดช่วงท้ายฤดูกาลโดน แมนซิตี้ แซงขึ้นจ่าฝูงและนำแบบม้วนเดียวจบชวดแชมป์ไปแบบน่าเจ็บใจ 

อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวมันทำให้เด็กๆของ อาร์เตต้า ได้บทเรียนครั้งใหญ่ และน่าจะมีประสบการณ์และความนิ่งมากขึ้น ในการก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้










ที่มาของภาพ : Getty
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport