เป็นอันว่าเสียงสนทนาของเหล่าทีมงานผู้ตัดสินในเกม ลิเวอร์พูล บุกพ่าย สเปอร์ส 1-2 ออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนแล้วเรียบร้อย ซึ่งมันตีแผ่ได้เลยว่าเป็นความผิดพลาดอย่างชัดเจน
1. ทำไมถึงไม่สามารถย้อนไปให้ประตูได้ ?
กฎข้อ 10 ของ IFAB (มีหน้าที่กำหนดกฎของเกมฟุตบอลทั่วโลก) ในหัวข้อหลักการใช้ วีเออาร์ ระบุว่า
"If play has stopped and been restarted, the referee may not undertake a ‘review’ except for a case of mistaken identity or for a potential sending-off offence relating to violent conduct, spitting, biting or extremely offensive, insulting and/or abusive action(s)."
"ถ้าหากเกมมีการหยุดเล่นไปก่อนหน้านี้และกลับมาเตะกันใหม่แล้วนั้น กรรมการจะไม่สามารถ -ตรวจสอบ- จังหวะอื่นๆ ได้"
"นอกเหนือจากกรณีที่มีการระบุตัวคนที่ทำผิดแบบร้ายแรงจนถึงขั้นควรโดนไล่ออกผิดตัว"
"โดยต้องเป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับการแสดงความประพฤติรุนแรง, ถ่มน้ำลาย, กัด หรือความผิดกรณีคล้ายกันที่รุนแรงมากๆ, การกระทำที่เป็นการดูถูกและ/หรือเป็นการเหยียดหยาม"
นั่นเท่ากับว่าทีมงาน วีเออาร์ ไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขความผิดพลาดพร้อมกับให้ประตู เพราะหากย้อนไปมันเหมือนจะขัดกับกฎของ ไอเอฟเอบี
ทั้งนี้ มีประเด็นที่ว่าที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมาได้ลูกจุดโทษทั้งที่กรรมการเป่าจบการแข่งขันไปแล้ว จนทำให้เอาชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน 3-2 เมื่อช่วงปี 2020
โดยสาเหตุเป็นเพราะจังหวะที่ แมนยู ควรจะได้ฟาวล์ในมุมมองของทีมงาน วีเออาร์ มันเกิดขึ้นก่อนหน้าที่ผู้ตัดสินจะเป่าจบการแข่งขัน
ซึ่งว่ากันตามกฎแล้ว แมนยู ได้ฟาวล์ภายในระหว่างการแข่งขัน ทำให้ตอนนั้นบรรดานักเตะต้องกลับมาลงสนาม ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะยิงเข้าไป โดยถ้าตอนนั้น บรูโน่ ยิงไม่เข้า เกมก็จะถือว่าจบไปเลย ซึ่งวันนั้น ฮูเปอร์ ทำหน้าที่อยู่ในห้อง วีเออาร์ ด้วย
.
.
.
แต่หากเกมที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ผู้ตัดสินและทีมงานเลือกที่จะแหกกฎเพื่อให้เกิดความถูกต้อง
เชื่อเลยว่า พวกเขาจะดูหล่อขึ้นมาทันที
2. สิ่งที่ต้องการต่อจากนี้คืออะไร ? ต้องการให้เตะใหม่ใช่ไหม ?
ไม่ใช่แน่นอน...
ถึงแม้มีกระแสเรื่องนี้บนโลกโซเชียล มีเดีย แต่ ลิเวอร์พูล ยอมรับผลการแข่งขันที่พ่ายแพ้ต่อ สเปอร์ส และจะไม่เรียกร้องอะไรแบบนั้น
สิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องการคือควมโปร่งใสเกี่ยวกับข้อผิดพลาดเพื่อนำไปเป็นบทเรียนแก้ไขในอนาคต
และเมื่อทางคณะกรรมการผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) ปล่อยคลิปเสียงจังหวะล้ำหน้าของ หลุยส์ ดิอาซ ออกมาแล้ว ก็ถือว่าปลดข้อสงสัยตอนแรกไปได้เปราะหนึ่ง..
3. ดาร์เรน อิงแลนด์ ตกเป็นเป้าที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ขุ่นเคืองรึเปล่า?
มุมมองแฟนบอล ลิเวอร์พูล มองว่าทำไม อิงแลนด์ ถึงปล่อยให้เกิดความเลินเล่อขนาดนั้น
ส่วนในแถลงการณ์ของ ลิเวอร์พูล ตอนแรก พวกเขาพยายามที่จะเบนเป้าออกจาก วีเออาร์ และไม่พอใจกับ พีจีเอ็มโอแอล ที่โบ้ยว่ามันเป็น "ความผิดพลาดของมนุษย์"
ลิเวอร์พูล ยืนยันว่าพวกเขาพุ่งเป้าไปที่ระบบการทำงาน ไม่ใช่ตัวบุคคล
มันไม่มีการนำกฎของเกมมาใช้ และมันก็ไม่มีการหาทางออกที่ถูกต้อง
ซึ่งก่อนให้เกิดสาเหตุจากความล้มเหลวของระบบการทำงานของ วีเออาร์
ลิเวอร์พูล ยืนกรานว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมเอามาก ๆ ที่จะบอกว่ามันเป็นความผิดของ อิงแลนด์ คนเดียว
หลังจากตอนแรกเขาเข้าใจผิดคิดว่ากรรมการในสนามตัดสินให้เป็นประตู, ตีเส้นขึ้นมาจนยืนยันว่า ดิอาซ ไม่ได้ล้ำหน้า พร้อมบอกกับ ไซมอน ฮูเปอร์ ผู้ตัดสินว่า "ตรวจสอบเสร็จแล้ว"
4. แล้วเรื่องที่ทีมงานกรรมการเดินทางไป สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ล่ะ ?
อิงแลนด์(ผู้ตัดสินวีเออาร์), แดน คุ้ก(ผู้ช่วยวีเออาร์) และ ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ (ผู้ตัดสินที่ 4) ต่างเดินทางไปทำงานที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนหน้าเกมที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ ท็อตแน่ม
ลิเวอร์พูล เชื่อว่ามันควรจะมีการตรวจสอบการที่กรรมการบางส่วนไปทำงานที่ประเทศอื่นก่อนจะถึงเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาด้วย
เพราะมีความกังวลว่าอาการล้าจากการเดินทางเป็นระยะทางไกลอาจส่งผลกับการทำหน้าที่ของกรรมการและการเตรียมความพร้อมของพวกเขา
ทั้ง 3 คนเพิ่งเดินทางถึงกรุงลอนดอนเมื่อวันศุกร์หลังต้องบินเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ภายหลังจบเกมระหว่าง ชาร์ยาห์ กับ อัล-ไอน์ ซึ่งเป็นทริปที่ เอฟเอ อนุมัติด้วยตัวเอง
มันเป็นเรื่องปกติที่กรรมการชาวอังกฤษจะไปตัดสินเกมของ ยูฟ่า แล้วเดินทางกลับมาทำงานในระดับ พรีเมียร์ลีก ในช่วงสุดสัปดาห์
แต่นี่มันเป็นการเดินทางที่ไกลกว่าปกติ...
โดยทาง PGMOL ออกมาบอกแล้วว่าจะพิจารณากับ เอฟเอ เพื่อทบทวนการให้ผู้ตัดสินไปเป่าเกมที่ ฟีฟ่า กับ ยูฟ่า ไม่ได้มอบหมาย
5. ประโยชน์ทับซ้อน ?!
มีความเป็นไปได้ของการเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าเกิดกรรมการไปทำงานแบบฟรีแลนซ์ในประเทศอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับสโมสรในระดับ พรีเมียร์ลีก
อนึ่ง ตอนนี้ ชีคห์ มันซูร์ เจ้าของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นรองประธานและรักษาการนายกรัฐมนตรีของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แม้ว่า "เรือใบสีฟ้า" จะยืนกรานว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไม่ได้มีฐานะเป็นเจ้าของทีมของพวกเขาก็ตาม
ถึงกระนั้น
ลิเวอร์พูล พุ่งเป้าไปที่ผลกระทบของการเดินทางเป็นระยะทางไกลทั้งที่มันอยู่ห่างจากเกมเมื่อวันเสาร์เพียงไม่กี่วัน รวมถึงเรื่องที่ว่าสิ่งนั้นทำให้ทีมกรรมการตัดสินได้แย่ลงหรือไม่
6. เรื่องนี้ ลิเวอร์พูล มาจากปัญหาที่สะสมมาจากเกมก่อน ๆ หรือไม่ ?!
ลิเวอร์พูล ยืนยันว่าปฏิกิริยาครั้งล่าสุดมันมาจากเหตุการณ์ของเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว และพวกเขาก็ไม่ได้พาดพิงถึงเรื่องจากเกมอื่น ๆ เลย
ตอนที่มีการร่างแถลงการณ์ก่อนที่จะเผยแพร่มันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น มีการนัดประชุมกันเป็นอย่างดี
เจอร์เก้น คล็อปป์ กับเหล่าเจ้าของทีมเห็นตรงกันว่าสโมสรจำเป็นต้องแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่ามันไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน
ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ประธาน พีจีเอ็มโอแอล ได้ทำการติดต่อกับคนใหญ่คนโตของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่วันเสาร์เพื่อทำการขอโทษสำหรับความผิดพลาดจากฝั่งตัวเอง
7. เทคโนโลยีกึ่งอัตโนมัติ ควรใช้ใน พรีเมียร์ลีก ได้รึยัง?
ระบบจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ หรือ semi-automated offside ถูกนำมาใช้ในฟุตบอลโลก 2022 และทาง เซเรีย อา, ลา ลีกา และ แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็มีใช้กันแล้ว
เทคโนโลยีดังกล่าวตอบโจทย์อะไรหลาย ๆ อย่าง เพียงแต่ พรีเมียร์ลีก ไม่นำมาใช้ช่วยตัดสิน เพราะด้วยสโมสรส่วนใหญ่โหวตไม่เห็นด้วยที่จะนำมาใช้งาน
การทำงานของมันคือจะตรวจจับว่าจังหวะนั้น ๆ ล้ำหรือไม่ล้ำ แม้ว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะยังเป็นของผู้ตัดสิน แต่มันจะช่วยให้กรองมาแล้วรอบนึง
ความถูกต้อง แม่นยำก็มีมากขึ้น ลดความผิดพลาดให้น้อยลง
8. ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เพื่อส่วนร่วม
ลิเวอร์พูล ยืนยันว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องของทีมทีมเดียว พวกเขาไม่ได้ขอให้ตัวเองได้รับการปฏิบัติที่พิเศษแค่ทีมเดียว
นี่คือสิ่งที่จะตรวจสอบความโปร่งใสเพื่อจะทำให้กระบวนการทำงานของ วีเออาร์ มันดีขึ้น
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกสโมสร และทำให้มั่นใจว่ามันจะไม่เกิดสถานการณ์แบบนี้อีก
HOSSALONSO