หลังจากมีเกมที่ดีที่สุดในซีซั่นนี้เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาจากการลงเล่นถ้วย คาราบาวคัพ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็น่าจะกลับมามีเกมที่เลวร้ายที่สุดของเขาอย่างไวเมื่อโดน คริสตัล พาเลซ ถอนแค้นอย่างสาสม 1-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด แห่งเดิมเมื่อวันเสาร์ที่ 30 ก.ย.
จากฟอร์มที่ออกทะเลชนิดกู่ไม่กลับอีกรอบ มันสะท้อนให้เห็นว่าซีซั่นนี้ เอริค เทน ฮาก จะต้องเจอกับงานหนักชนิดที่เขาอาจไม่เคยประสบมาก่อนในอาชีพกุนซือก็เป็นได้กับการพยายามพาทีม ผีแดง รอดพ้นจากวิกฤติที่เป็นอยู่ในเวลานี้
1. เปยิสตรี้ ประเดิมตัวจริงเกมลีก
แมนฯ ยูไนเต็ด ส่ง ฟาคุนโด้ เปยิสตรี้ ลงเล่นเกมลีกเป็นตัวจริงนัดแรกของเขากับสโมสร และมีการเปลี่ยนทีมรวมสี่รายจากเกมต้อนตือ คริสตัล พาเลซ 3-0 ในศึก คาราบาวคัพ รอบสามเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
นอกจากปีกอุรุกวัยแล้ว วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ , บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ได้กลับมาอยู่ในโผ 11 คนแรก ขณะที่ โซฟียาน อัมราบัต ยังต้องรับบทแบ็คซ้ายต่ออีกเกม
2. พาเลซ โรเตชั่นครึ่งโหล
คริสตัล พาเลซ ซึ่งบุกมาแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยับเยินในเกมล่าสุดปรับทีมหกตำแหน่งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดีน เฮนเดอร์สัน อดีตนายทวาร ผีแดง ที่ได้ประเดิมสนามให้ อินทรีผงาดฟ้า หมาดๆเดี้ยงเองตั้งแต่ 20 นาทีแรกจึงทำให้ แซม จอห์นสตัน เด็กฝึก เร้ด เดวิลส์ เช่นกันได้ลงเล่นเป็นตัวจริง
นอกนั้นอีกห้ารายที่ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือเฒ่าเรียกใช้บริการให้ลงบู๊เป็นตัวจริงในเกมนี้ประกอบไปด้วย โจเอล วอร์ด , โยอาคิม อันเดอร์เซ่น , มาร์ค เกฮี, เอเบเรชี่ เอเซ่ , และ วิลล์ ฮิวจ์ส
3. พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่ คาราบาวคัพ
หลังดวลกันมาหมาดๆในฟุตบอลถ้วยใบเล็กซึ่งต่างก็เปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งเช่นกัน แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเอาชนะ พาเลซ ไปได้แบบสบายเท้าอันเป็นเกมที่หลายคนลงความเห็นตรงกันว่าทีมของ เอริค เทน ฮาก โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดในซีซั่นนี้ และมองว่าพวกเขาน่าจะกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ดี หลังต่างก็ส่งทีมชุดที่ดีที่สุดลงบู๊กลับกลายเป็นว่า อินทรีผงาดฟ้า สร้างปัญหาให้กับ ผีแดง อย่างหนัก และออกนำก่อนจากลูกวอลเลย์ของ อันเดอร์เซ่น ในนาทีที่ 26
จากรูปเกมในครึ่งแรก ต้องยอมรับว่าทีมของปู่รอยเล่นกันได้อย่างน่าประทับใจ และสมควรออกนำแม้จะครองบอลเป็นรองเจ้าบ้าน 72:28% โดย แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยิงรวม7ครั้ง แต่เข้ากรอบแค่ครั้งเดียวเท่ากับทีมจากลอนดอนที่ได้ยิง 4 ครั้ง
นอกจากนี้ จากสกอร์นำ 1-0 ทำให้ พาเลซ เป็นทีมที่ปิดโอกาสได้ประตูของคู่แข่งในครึ่งแรกของเกม พรีเมียร์ลีก ได้มากที่สุดในซีซั่นนี้ด้วยจากจำนวนหกจากเจ็ดเกมของพวกเขา
4. เมาท์-แรชฟอร์ด บู่ทั้งคู่
อันที่จริงบอกได้เลยว่านักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้อย่างเลวร้ายหลายรายในเกมนี้โดยเฉพาะบรรดาตัวรุกที่แทบสร้างความลำบากใจให้กับแผงหลังของ ดิ อีเกิ้ลส์ ไม่ได้เลย
อย่างไรก็ดี สำหรับ เมสัน เมาท์ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ต้องถือว่าเป็นสองสตาร์ทีมเจ้าบ้านที่ถูกจับตามองมากที่สุดเนื่องจากอดีตกองกลาง เชลซี ยังไม่มีวี่แววว่าจะสร้างประโยชน์ให้ ผีแดง ได้ ขณะที่ แรชฟอร์ด ดาวซัลโวปีก่อนก็เห็นได้ชัดว่ามีฟอร์มที่ตกลงอย่างน่าใจหายในซีซั่นนี้
และที่สำคัญ เกมนี้ สตีฟ ฮอลแลนด์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติ อังกฤษ เข้ามาดูเกมด้วยก่อนประกาศรายชื่อนักเตะในวันพฤหัสบดีนี้ และเขาน่าจะเล็งไปที่ เมาท์ กับ แรชฟอร์ด มากเป็นพิเศษ แต่กลับได้เห็นผลงานที่ย่ำแย่ของทั้งคู่ ต่างไปจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ ทรี ไลอ้อนส์ ซึ่งแยกไปดูเกมก่อนหน้านี้ที่ แอสตัน วิลล่า ถล่มแหลก ไบรท์ตัน 6-1 และได้เห็นลีลาของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ กองหน้า สิงห์ผงาด ซึ่งตะบันแฮททริคได้อย่างน่าฮือฮา
สำหรับ แรชฟอร์ด นับถึงตอนนี้เขายิงประตูได้แค่ 4 เม็ดเท่านั้นจากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 18 นัดหลังมันจึงชัดเจนว่า ปีศาจแดง หวังพึ่งความร้อนแรงของเขาเหมือนกับซีซั่นที่ผ่านมาไม่ได้เลย
หลังจบเกม 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า 77:23% และได้ยิงรวมกัน 19 ครั้งเข้ากรอบ 4 ครั้ง ขณะที่ พาเลซ ได้ยิง 8 ครั้งเข้ากรอบ 2 ครั้ง
5.ปู่รอย ถูกโฉลกกับโรงละคร
แม้นัดก่อน ฮ็อดจ์สัน จะคุมทีมแพ้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างยับเยินให้กับแชมป์ คาราบาวคัพ แต่สำหรับเกม พรีเมียร์ลีก มันแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาแก้เผ็ด ผีแดง ได้อย่างเจ็บแสบคว้าสามแต้มออกจาก โรงละครแห่งความฝัน ได้อย่างยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ หากจะนับเฉพาะเกม พรีเมียร์ลีก อังเคิ่ลรอยไม่เคยพาทีม อินทรีผงาดฟ้า บุกมาแพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงเกมล่าสุดนี้นานถึงสี่นัดติดต่อกันแล้ว แถมเป็นการกำชัยที่นี่ได้ตลอดสามนัดหลังด้วย
จากผลงานดังกล่าว ทำให้กุนซือวัยดึกเป็นนายใหญ่ทีมเยือนคนที่สองที่บุกมาซิวชัยเกมลีกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้สามเกมติดต่อกันถัดจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี้
ขณะเดียวกัน หากนับรวมการคุมทีมอื่นด้วย ฮ็อดจ์สัน เป็นคนแรกที่คุมทีมไม่แพ้เกมลีกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เลยตลอดห้านัดหลัง
พ.ย.2018 : แมนฯ ยูไนเต็ด 0- พาเลซ 0
ส.ค.2019 : แมนฯ ยูไนเต็ด 1- พาเลซ 2
ก.ย.2020 : แมนฯ ยูไนเต็ด 1- พาเลซ 3
ก.พ.2022 : แมนฯ ยูไนเต็ด 0- วัตฟอร์ด 0
ก.ย.2023 : แมนฯ ยูไนเต็ด 0- พาเลซ 1
สำหรับ ผีแดง หลังพ่าย พาเลซ คารัง พวกเขาสร้างผลงานออกสตาร์ตในเกมลีกได้อย่างเลวร้ายที่สุดในรอบ 34 ปีหลังผ่านไปเจ็ดเกม