“แชมป์เก่า” แมนฯยูฯ เริ่มต้นป้องกันแชมป์ “ลีก คัพ” ด้วยการพบกับ คริสตัล พาเลซที่โรงละคร
เกมนี้เป็นการดูบอลแมตช์ที่3 ก่อนผมบินกลับเมืองไทย
หลังจากดู เบิร์นลีย์แพ้ แมนยู0-1 , ลิเวอร์พูล ชนะ เวสต์แฮม3-1
ได้ดูลีก คัพ เกมนี้ มีประโยชน์แน่นอน ถือว่า refresh ตัวเองไปด้วย
“ปีศาจแดง” กำลังตั้งหลักอยู่ หลังจากเปิดตัวไม่ดี ด้วยปัญหาการบาดเจ็บตัวหลักร่วม10 คน ทำให้ เอริก เทน ฮาก ก็ต้องแก้ปัญหา บวกกับนักเตะระดับค่าจ้างแพง ออกลูกเกเร 2 คน ทำให้ โค้ช ต้องแสดงอำนาจให้เห็น ใช้พระคุณไม่ได้ ต้องพระเดช หากจะคุมทีมให้อยู่
ผมสนับสนุน เทน ฮาก ครับ
ถ้าเป็น ผ.จ.ก แล้วคุมนักเตะไม่ได้ ปล่อยให้นักเตะโทรหาเจ้าของทีม เอ้ย….ไม่ใช่ นักเตะมีบทบาทมาก ทำตัวใหญ่กว่าทีม เรียกร้องผ่าน social แบบนี้คุมยาก
กรณีเจดอน ซานโช นั้น ผมไถ่ถามนักข่าวฝรั่ง พูดเหมือนๆกันว่า ถ้าไม่ “ขอโทษ” ผ่านสื่อของตัวเอง อนาคตคือต้องไปเล่นที่อื่น
เทน ฮาก คงมองว่า กล้าทำ ต้องกล้ารับ
ตอนนี้ไปซ้อมเดี่ยว ห้ามมายุ่งกับทีมชุดใหญ่ จนกว่าจะ “สำนึก” (ในมุม เทน ฮาก)
ส่วนเกมนี้ ถือว่าต่อเนื่องจาก ชนะเบิรนลีย์
ทีมต้องการความนิ่งในการเล่นและผลงาน
ผมเข้าสนาม1 ช.ม. ก่อน เพื่อดูการอบอุ่นร่างกาย จึงได้เห็น อัมราบัต ซ้อมกับ แบ๊กโฟร์ ยืนshape เป็นพิเศษ
ในตำแหน่งแบ๊กซ้าย!!!
11 คนแรก จะบอกว่าชุดสองหรือไม่นั้น หลายคนก็คือตัวหลักมาก่อน ในหลายตำแหน่ง
โอนานา: ดาโลต์, แม็คไกวร์, วาราน, อัมราบัต
กาเซมิโร่, เมาท์, ฮันนิบาล
เปเยสตรี, มาร์กซิยาล, การ์นาโช่
ส่วนพาเลซส่งสำรอง5 คน
แฟนผี คงจำได้12 ปีก่อน พาเลซบุกมาชนะ แมนยู2-1
ในลีก คัพ นักเตะ2 คนที่ยังหลงเหลือ จากเกมนั้นคือ
เนธาเนียล ไคลน์ และ จอห์นนี เอแวนส์
เกิดอะไรขึ้นในเกมนี้
1 อัมราบัต 1 ชั่วโมง 2 บทบาท
ครึ่งแรก รับบท“อินเวิร์ต FB”
ยืนแบ๊กซ้าย พอบุกหุบเข้ากลาง เป็นมิดฟิลด์ เช่นเดียวกับ ดาโลต ในบางจังหวะ คอยสวิทช์บอลข้ามฟาก และเพิ่มคนแดนกลาง ที่พาเลซ รับในแดนแน่นไปหมด ส่วนเมื่อเกมรับถอยมายืนแบ๊กซ้าย
สิ่งที่เห็นในสนามคือ อัมราบัต โชว์คลาสการเปิดบอล เพื่อเปลี่ยนแกนได้ดี รวมทั้งรักษาตำแหน่งการเล่นไม่ผิดเพี้ยน
ถ้าเขาขึ้นเล่นบอลแดนกลาง กาเซมิโร่ จะถอนมายืนแทนโดยไม่ต้องกังวล เป็น3 เซนเตอร์ แมกไกวร์-กาเซมิโร่-วาราน
ถือว่าช่วงนี้ต้องแก้ขัดการขาดแบ๊กซ้ายไปก่อน โดยใช้การเล่นแบบ อินเวิร์ต
ครึ่งหลังถูกดันมายืนมิดฟิลด์ โดย เม้านต์ โดนเปลี่ยน ออก แล้วส่ง ลินเดอเลิฟ เล่นแบ๊กซ้าย
บทบาทชัดเจนตัวรับคู่กับ กาเซมิโร่ แต่ถ้าเกมรุก สลับกันขึ้น คนหนึ่งขึ้นอีกคนเฝ้าเกมรับ ก่อนโดนเปลี่ยนนาทีที่60
อัมราบัต ใน60 นาทีให้ 8/10 ครับ
2 พาเลซรับแน่น ผีบุกอย่างอดทน
20 นาทีแรก ผีแดงบุกอย่างอดทนและคุมเกมไว้ฝั่งเดียว ไม่ให้พาเลซเจอบอล แต่การเข้าแดนสามยาก มีโอกาสครั้งเดียวจาก อัมราบัต ซัดข้ามคาน ก่อนที่ การนาโช ได้ยิงจากการเล่นบอลด้านข้าง ขึ้นนำ1-0
กานารโช-เปเยสตรี-ดาโลต์ จบที่ กานารโช
ยิงครั้งสองได้ประตูนำ
จากนั้นอีก7 นาที นำ2-0 กาเซมิโร่ โหม่ง จากจังหวะเตะมุมของ เม้านต์
ยิง3 ครั้งได้ 2 ลูก จากการอดทนครองบอลเพื่อหาโอกาสเข้าทำจนได้
3 การกลับมาของ เมสัน เม้านต์
ตำแหน่งการยืนของเขาคือ มิดฟิลด์เบอร์8 กับ ฮันนิบาล อยู่ฮาล์ฟ สเปส ด้านซ้าย ช่วย อัมราบัต และ กานารโช การมีส่วนร่วมทำได้ดี และจัดไป1 แอสซิสต์
4 การนาโช พลิ้ว
นอกจากประตูแรก ที่หุบเข้าไปยิง การมีส่วนร่วมริมเสันและแดนสามกดดันด้านข้าง พาเลซได้ดี ลงเล่นครบ90 นาที เข้าใจว่าเกมหน้า กลับไปนั่งสำรอง
5คลาส กาเซมิโร่
ทั้งการเปิดบอลที่แม่นยำ ,การเติมขึ้นไปยิง,การแอสซิสต์ วิธีการเล่นของเขา ทำให้การคุมเกมแดนกลางนิ่ง จังหวะแก้ไข ทำบอลยากเป็นง่าย
บทสรุปเกมนี้ ….
จริงอยู่แม้พาเลซจัดตัวเหมือนไม่เน้น ส่งสำรอง5 คน
แมนฯยูฯ เองก็ไม่เต็มทีมเช่นกัน
กระนั้น สิ่งที่ เทน ฮาก ต้องการคือ การกลับมาเล่นให้เป็นเกม ท่ามกลางปัญหาเรื่องสภาพทีม เป็นงานแก้ไข บวกกับนักเตะใหม่อย่าง อัมราบัต, เมาท์ ที่ต้องใช้งานเล่นเข้าระบบทีมให้ได้
ชัยชนะเกมนี้คือการสร้างความเชื่อมั่นและหยุดแรงกดดัน จากผลงานช่วงออกตัวที่ไม่ค่อยดี ส่วนจะต่อเนื่องขนาดไหน รอดูกันต่อไป เมื่อตัวจริง2-3 คนมาลงสนาม
บังเอิญเสาร์ 30 ก.ย. เจอคริสตัล พาเลซ พอดี รอดูกันครับ
JACKIE
วิเคราะห์จากโอลด์ แทรฟฟอร์ด