แมนยู: ผีซ้ำด้ามพลอย

กลายเป็นสารพันปัญหาถาโถมเข้ามา ตามแต่จะหยิบยกมาขยายผล เพราะมันไม่ได้มีแค่มิติเดียวในสนามฟุตบอลเท่านั้น.....เรื่องนอกสนามนี่คือเรื่องใหญ่ เพราะบอลที่จะไปข้างหน้า ต้องมีคน "หนุน" มากกว่า "ฉุดรั้ง"

หากนอกสนามไม่หนุน....แต่กลับมาดึง ฟุตบอลชนะและประสบความสำเร็จยาก

ชั่วโมงนี้ เอริก เทน ฮาก คงรู้ซึ้งถึงใจแล้วว่า "ปัญหา" ที่เคยเจอกับ อายักส์ (อาแจกส์) นั้นเรื่องเล็กไปในทันทีเมื่อเจอปัญหาระดับ "เมกกะ โพลเบลม" ที่ โรงละครแห่งความฝัน (ร้าย)

คำถามคือว่า....อะไรคือการเหนี่ยวรั้งไม่ให้ทีมบอลไปข้างหน้า

1. ตัว เอริก เทน ฮาก เอง ; เฮี้ยบ ระเบียบจัด ไม่ยืดหยุ่นและก่อปัญหาเพิ่ม

2. นักเตะชุดนี้ ; แอ๊กเกิน เดินเล่น ทิ้งตำแหน่ง ขาดความมุ่งมั่น กัปตันทีมขี้บ่น พูดเยอะ เกิน

3. ชื่อเสียงเก่าๆ ; แชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย ค้ำคอ 

4. สื่อพร้อมเสี้ยมและแซะ ; ข่าวทีมบอลที่ขายได้คือข่าวพ่วงนอกสนาม อย่างเช่น เรื่องลับๆ จากนักเตะและ ผจก. ล่าสุด เทน ฮาก โดนเดลี เมล ขุดคุ้ยว่า ผ.จ.ก. ส่วนตัวของเขา คือกีส วอส และ บริษัท SEGเจ้ากี้เจ้าการ และเดินงานนำนักเตะในสังกัดเสริม  ราสมุส ฮอยลุนด์ ก็หนึ่งในนั้น 

5. บ้านเกลเซอร์ ; หมดคำสิเว่น คนบ้านนี้ 

ผมเชื่อว่า.....แฟนบอลปีศาจแดง น่าจะตอบข้อ5 ประมาณ 95% ครับ

หลังจากแพ้บาเยิร์น มิวนิค 4-3 ในแบบที่สู้ได้นะครับ ว่ากันตามรายละเอียดฟุตบอลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่ไม่สู้ ทั้งที่สู้ได้กับไบรท์ตัน มาถึงเกมล่าสุดที่บ้านเสือใต้ ผมว่าปฏิกริยา เกมการเล่นของทีม

จัดเข้าขั้นว่า "ใช้ได้" 

เพียงแต่ฟุตบอลเนี่ยมันก็แปลกอยู่เรื่องหนึ่ง เวลาย่ำแย่แล้วแก้ปัญหายังไม่ตก มันจะมาเป็นชุดๆ 

กระนั้นแง่บวกที่ได้คือ "เกมรุก" และ "ตัวรุก" ซึ่งถือว่าการยิงสามลูกถึงถ้ำเสือ ไม่ธรรมดาแน่นอน แต่แง่ลบ ยังคงเป็นปริศนาคาใจและต้องยอมรับว่าวันนี้ "การจัดระเบียบเกมรับ" และนักเตะตัวรับตั้งแต่  โอนานา แผงแบ๊กโฟร์ รวมทั้งมิดฟิลด์ ที่ต้องมาช่วยป้องกันเมื่อบอลบุกมาถึงรอบๆ เขตโทษ

ไหงปล่อยให้ "ยิงกันง่าย" เกินไป 

เอา 7 ลูกจากสองเกมล่าสุดเด็กผีโดนส่องประตูในกรอบ 18 หลาทั้งนั้นเลย คือคู่แข่งเข้ามายืนแปบอลง่ายๆ  ได้ยิงแบบไม่มีใคร "มาร์ค" หรือประกบตัวเลย  อีกทั้งสถานการณ์ 1 ต่อ 1 หรือ 2 รุมหนึ่งกลับกลายเป็นเปิดช่องว่างให้ตัวลากเลื้อยพาบอลเข้ามาได้อย่างสะดวกโยธิน

นี่คือครั้งแรกเลยนะครับที่แมนฯยูฯ เสียประตู 3+ ลูก ในสามนัดติดต่อกันทุกรายการครั้งแรกนับจากเดือนธ.ค. 1978 ยุคที่ ผจก. ชื่อ เดฟ เซกส์ตัน แน่นอนยุคปลาย 70 คือยุคแห่งความล้มเหลวของทีมผีแดง 

จากผลงานสองสามเกมล่าสุดเสียงวิจารณ์ดังขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องปัญหาที่มาฉุดรั้งไม่ให้ทีมไปข้างหน้าคือ "บ้านเกลเซอร์" ที่บริหารงานได้ย่ำแย่นับจากหมดบุญบารมีของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

วันนี้ตำนานนักเตะ.... แกรี เนวิลล์ พูดมาหลายครั้งแล้วว่าปัญหาอยู่ที่ บ้านเกลเซอร์ บริหารด้วยการนำเงินเข้าเป๋าตุง ส่วนบอลเป็นไงก็ไม่สน นึกจะซื้อใครก็ซื้อกันตามใจชอบ 

เข้าทำนองคนซื้อไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ซื้อ 

ผจก. หลายคนออกมาบ่นกันว่า "ให้ชื่อไปซื้อมา" แต่กลับได้คนที่อยู่นอกลิสต์ อ้างว่าติดต่อไม่ได้ ขอเป็นคนนี้แทนได้มั้ย เหมือนก็ลงทุนให้แล้ว ราคาไม่เบา เพราะ 10 ปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดันเป็นทีมที่ใช้เงินลงทุนซื้อนักเตะมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก

โดยความสำเร็จไม่ได้แปรผันตาม

คราวนี้จากการที่ผมไปนั่งอ่านบทวิจารณ์และการขุดคุ้ยข้อมูลจากเหยี่ยวข่าวสายปีศาจแดง หลายๆคนทั้งในโลกโซเชียล และ สื่อหลัก ได้ความรวมๆคล้ายๆกันว่า มันมีปัญหามาก่อนที่ เอริก เทน ฮาก เข้ามาทำงาน

ก่อนที่ ราล์ฟ รังนิก จะบอกว่า "แมนฯยูฯ ทีมนี้จะต้องซื้อนักเตะอีก 3-4 ตลาด จึงจะลงตัวเหมือนที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ทำหงส์แดง" 

ในวงเล็บว่าต้องเป็นนักเตะที่ใช่ของ ผจก. ที่ทำงานด้วยนะไม่ใช่หว่านแหซื้อไปเรื่อย

ล่าสุด "น้าลูกอม" โอเล กุนนาร์ โซลชา ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วว่า เขามีนักเตะที่อยากได้ และเวลานั้นราคาเบามือ (ไม่ต้องมีข้ออ้าง) แต่ผู้บริหารยุคนั้นอย่าง เอ็ด วูดเวิร์ดส์ มือทำงานของบ้านเกลเซอร์ ไม่เลือก

ลิสต์รายชื่อที่น้าลูกอมอยากได้จากสายข่าวปีศาจแดงมี..

เออร์ลิง ฮาลันด์ สมัยราคา 6 ล้านปอนด์ ปี 2019 และ ราคา 20 ล้านปอนด์ปี 2020

จู๊ด เบลลิงแฮม ราคา 30 ล้านปอนด์ปี 2020 

มอยเซส ไกเซโด้ 4 ล้านปอนด์ ปี 2021

เดแคลน ไรซ์ 50 ล้านปอนด์ ปี 2021

นักเตะที่ ราล์ฟ รังนิก เสนอให้ซื้อตอนรับงานชั่วคราว

ยอสโก กวาร์ดิโอล, ลุยส์ ดิอาส, เอนคุนคู, ฮูเลียน อัลบาเรส, เอนโซ เฟร์นานเดส และ ไกเซโด 

ส่วนนักเตะที่ เทน ฮาก อยากได้ก็ได้มาสองสามคนแล้ว

ทั้ง อันโตนี, ลิซานโดร มาร์ติเนส และ โอนานา เหล่านี้คือลูกน้องเก่าที่เข้าใจงานกัน รู้มือกันสมัยเล่นให้ อายักส์ 

ส่วนคนที่อยากได้แต่สโมสรไม่ซื้อให้ ก็ แฮร์รี เคน, โคดี กัคโป, คิม มิน แจ

กระทั่ง อาจารย์หลุยส์ ยังโพล่งออกมาว่า "แมนฯ ยูไนเต็ด ให้นักเตะเป้าหมายลำดับที่ 6-7 ไม่ใช่ตัวเลือกแรกที่ผมส่งชื่อไป"

หนักกว่านั้น...เมื่อ "น้าลูกอม" เผยว่า นักเตะที่น้าอยากได้นั้นไม่คุ้มค่าเงิน ซึ่งชื่อเหล่านั้นในวันนี้ราคาหลักร้อยล้านปอนด์ไปแล้ว 

ขณะที่น้าอยากได้ ฮาลันด์ ที่เคยทำงานด้วยกันในนอรเวย์ แต่สโมสรดันเลือก อีกาโล, กาวานี (โรยราแล้ว) รวมทั้ง คริสเตียโน โรนัลโด (มาทำการตลาด) 

กระทั่งเป้าหมายอันดับหนึ่งของ เทน ฮาก คือ แฮร์รี เคน แต่ โจ เกลเซอร์ บอกว่า "แพงไป" แล้วพอไม่ยื่นข้อเสนอ บาเยิร์น มิวนิค ก็คว้าตัวไปร่วมทีม นี่ เคน ยิงเฉลี่ยนัดละ1 ลูกสบายเท้า รวมทั้งจุดโทษเมื่อคืนวันพุธ ด้วย

โอเค ที่หยิบมาเขียนคือเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ จากปัญหาที่สะสมเพราะ "บ้านเกลเซอร์" ไม่ประสีประสาเรื่องฟุตบอล ถึงขั้นมีคนวงในบอก โจ เกลเซอร์ ยังไม่รู้เรื่องกฏล้ำหน้าเลย 

เพียงแต่บ้านนี้...เขาเก่งเรื่อง วิศวกรรมทางการเงิน เข้ามาบริหารตั้งแต่ปี 2005 โดยการกู้เงินทุนจากบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์  (Equity firm) £800 ล้าน ผลักภาระทีมเป็นหนี้ตั้งแต่วันแรก จากนั้นเอาทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกจากตลาดหุ้นลอนดอน เป็นบริษัท จำกัด แต่งตัวหลายปีก่อนข้ามแอตแลนติก โอเชียน โยนเข้าตลาดหุ้นนิวยอร์ค

ปั่นมูลค่าได้ระดับ 4-5 พันล้านปอนด์.....ยังไม่ขาย โลภมากอยากได้มากกว่านี้ มีแผนจะเอาทีมออกจากตลาดหุ้นมาจัดการเรื่องบัญชีใหม่

ดังนั้น....ที่เขียนเล่ามาทั้งหมดมันคือปัญหาเดิมที่มีอยู่ ส่วนปัญหาใหม่ที่มาเติมคือผลงานการแข่งขันจากชุดนักเตะที่ บ้านเกลเซอร์ ซื้อกองๆกันไว้ แถมให้ค่าจ้างเยอะเกิน จนต้องพยายามลดรายจ่ายลง

เอริก เทน ฮาก พยายามใช้วิชาฟุตบอลเท่าที่มีอยู่ อย่างน้อยก็พาทีมกลับมา ช.ป.ล แหล่งเงินมหาศาล รวมทั้งได้ถ้วยหนึ่งใบ พอซีซั่นที่สองน่าจะเสริมทีม ติดอาวุธให้มันมีความน่ากลัวเหมือนบรรดาลูกน้องกำนันใหญ่รายหนึ่งที่มีอาวุธพร้อม

ปรากฏว่า...เทน ฮาก ได้ประตูเด็กเก่าอย่างโอนานา มาในจังหวะที่ ดาบิด เดเคอา ไม่ได้ต่อสัญญาออกไปเพราะกินค่าจ้างแพงเกิน ก็เป็นความเหนียวของ บ้านเกลเซอร์ จึงต้องปล่อย เดเคอา เป็นอิสระ

วันที่แพ้อาร์เซนอล 3-1 ผมนึกว่า อาร์เซนอลเตะกับทีมวีไอพี แมนฯยูฯ อยู่นะครับ

ทั้งจอห์นนี เอแวนส์, กาเซมิโร, คริสเตียน เอริกเซน อายุ 30+ กันทั้งนั้น บวกกับพวกวัยรุ่น ไม่มีนักเตะใหม่เลย

ตอนนี้ตัวหลักเจ็บรวมๆกัน 10 คน ล่าสุด อารอน วาน บิสซากา เดี้ยงอีก คน ทำให้เทน ฮาก ต้องปรับแทกติกและโครงสร้างทีมแก้ปัญหาเฉพาะหน้านัดต่อนัด

แบ๊กซ้ายต้องใช้ เรกีลอน  คู่เซนเตอร์ ราฟาแอล วาราน เจ็บ จำต้องใช้ มาร์ติเนส และ ลินเดอเลิฟ ส่วน แฮร์รี แมกไกวร์ ที่เจ็บแฟนผีบอกไม่ต้องรีบหาย

มิดฟิลด์ ถ้ายังใช้ กาเซมิโร และ เอริกเซน ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นปัญหาแน่นอน จากสภาพร่างกายและการที่สองคนนี้ผ่าน "จุดพีค" ตัวเองไปแล้ว ที่เหลือคือเล่นเพื่อประคองตัวเอง มีแต่ทรงกับทรุด

ตัวเป้าพอมองเห็นแวว ของ ราสมุส ฮอยลุนด์ แต่ก็มาในแบบที่ที่ทีมขาดสมดุลเกมรุกและต้องปรับขบวนท่ากันใหม่

สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ เด็กผีต้องถอยไปตั้งหลักและไม่คาดหวังกับทีมชุดนี้

ซึ่ง....เทน ฮาก มีข้อจำกัดในการทำงานจากการบาดเจ็บและไม่ทุ่มทุนสร้างซื้อตัวทอปๆ มาเสริมทีม

11 คนแรกโครงสร้างหลักของทีมคือใครบ้าง

เล่นระบบอะไร 

แทกติกการเล่น เพรสแดนบน, แดนสอง หรือเคาน์เตอร์ แอทแทก 

เล่นในบ้านควร..."เน้น" เพราะพลังเชียร์มีพร้อม

ณ จุดนี้

เอาเป็นว่ามันต้องแก้ขัดและเล่นเพื่อชนะให้ได้ก่อน

เมื่อบอลชนะความมั่นใจจะค่อยๆมา การปรับทีมจะเกิดขึ้นไปตามจังหวะของมัน โดยความคงเส้นคงวาจะเกิดขึ้นภายหลัง

อย่างน้อยที่สุดนะครับ สิ่งที่พอมองเห็นจากถ้ำเสือใต้คือ...เกมรุกและการรุกครับ 

ใช้เกมรุกและการรุกนำ ส่วนเกมรับต้องปรับนัดต่อนัด  ....ลองยิงประตูได้เรื่อยๆ เชื่อเถอะเกมรับมันจะดีขึ้นตาม

ผมมั่นใจว่า....ในลีกนี้ มีไม่เกิน 4 ทีมที่จะชนะแมนฯยูฯ ได้ หากเด็กผีสู้กันอย่างเต็มที่

ส่วนที่เหลืออีก 13-14 ทีม ไม่น่าจะเหนือบ่าฝ่าแรงทีมชุดนี้นะครับ 

JACKIE