ส่งผลการเสริมทัพ!สตาฟฟ์ แมนยู ชักหวั่นเอเยนต์ เอริค เทน ฮาก มีอิทธิพลภายในมากขึ้น

สตาฟฟ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่ คีส์ โฟส์ เอเยนต์ของ เอริค เทน ฮาก และบริษัทของเจ้าตัวเข้ามามีความเกี่ยวข้องกับการซื้อ-ขายนักเตะของทีมมากขึ้น ตามรายงานของ เดลี่ เมล สื่อของเมืองผู้ดี

โฟส์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท สปอร์ตส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป (เอสอีจี) ซึ่งปัจจุบันนี่ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในระดับโลกและมีนักกีฬาอยู่ในความดูแล 600 คน ขณะที่ เปเร่ กวาร์ดิโอล่า น้องชายและเอเยนต์ของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็กำลังทำงานให้กับ เอสอีจี ด้วย

สำหรับตลาดช่วงซัมเมอร์นี้นั้น เอสอีจี มีส่วนร่วมกับดีลของ แมนฯ ยูไนเต็ด 3 ดีลด้วยกัน ประกอบด้วยการย้ายเข้ามาของ ราสมุส ฮอยลุนด์, ดีลยืมตัวของ โซฟียาน อัมราบัต และการปล่อย ซีดิาน อิ๊กบัล ไปอยู่กับ เอฟซี อูเทร็คท์ ในช่วงแค่ราว 2 เดือนหลังจากที่ อิ๊กบัล เปลี่ยนมาอยู่ใต้ชายคาของ เอสอีจี

เดลี่ เมล ระบุว่าทุกวันนี้ เอสอีจี กลายเป็นบริษัทลำดับแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้บริการไปแล้วเมื่อต้องทำการเจรจาซื้อ-ขายนักเตะ ไปจนถึงการให้คำแนะนำในตลาดการเสริมทัพ ซึ่งว่ากันว่ามันทำให้สตาฟฟ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด กังวลกันในระดับหนึ่ง ขณะที่เอเยนต์เจ้าอื่นๆ ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เอสอีจี ก็กำลังไม่มีความสุขเท่าไหร่ด้วย เพราะมองว่าการที่ เอสอีจี มีส่วนพัวพันกับ เทน ฮาก มันอาจจะทำให้พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจาเรื่องธุรกิจกับ แมนฯ ยูไนต็ด

ทั้งนี้ ไนเจล ลูกชายของ เทน ฮาก ก็กำลังทำงานเป็นนักวิเคราะห์ให้กับ เอสอีจี ด้วย อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้พิ่งมาทำธุรกิจกับ เอสอีจี เป็นครั้งแรกในยุคของ เทน ฮาก เพราะพวกเขาเคยเจรจาในดีลที่ทำให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เมมฟิส เดอปาย และ ดาลี่ย์ บลินด์ ย้ายไปสวมเสื้อ "ปีศาจแดง" มาแล้ว เพียงแต่การร่วมมือกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายก็หยุดชะงักไปจนกระทั่ง เทน ฮาก เข้ามาคุมทีมดังแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด