เชลซีทำได้เพียงเสมอแบบไร้สกอร์กับ บอร์นมัธ ที่ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน แม้ว่าจะเป็นโปรแกรมที่ค่อนข้างง่ายในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล แต่ว่า "เดอะบลูส์" กับเก็บชัยไม่ได้ ทำให้ยังรั้งอันดับ 14 ของตาราง โดยมี 5 แต้มจาก 5 นัดเท่านั้น
ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คว้าชัยชนะได้เพียงเกมเดียวจาก 5 นัดในลีก ซึ่งไม่ใช่การกลับมาที่ดีนัก แม้จะพิจารณาจากปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายครั้งแล้วก็ตาม กุนซือชาวอาร์เจนไตน์อยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีใครอยากได้ในขณะนี้ และทีมของเขาจะต้องฟื้นฟูครั้งใหญ่ เพื่อท้าทายในตำแหน่งท็อปโฟร์หรือแม้แต่ท็อปซิกซ์ลีกซีซั่นนี้
จากกรณีดังกล่าว เราจะมาดูเหตุผลสองประการที่ทำให้เดอะบลูส์ทำแต้มหล่นจากเดอะเชอร์รีส์
1. ขาดความแม่นยำในกรอบโทษของคู่แข่ง
การจบสกอร์ที่ย่ำแย่ สร้างปัญหาให้กับ เชลซี นับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2023-24 โดยเฉพาะในเกมกับ บอร์นมัธ ด้วย คอเนอร์ กัลลาเกอร์ พลาดโอกาสจากระยะไม่กี่หลาในครึ่งแรก ซึ่งสร้างบรรยากาศให้กับการแข่งขัน
นิโคลัส แจ็คสัน ดูเหมือนจะไม่มีสัญชาตญาณของกองหน้า หรือการเก็บบอลที่ไม่ดีในกรอบเขตโทษ แภมบางจังหวะดื้อที่จะไปเอง ส่วน ราฮีม สเตอร์ลิง และ มาโล กุสโต้ เข้ากันได้ดีในแดนขวาและมีโอกาสตัดเข้าในสองสามครั้งเพื่อจ่ายบอลเข้ากรอบเขตโทษของ บอร์นมัธ แต่ไม่มีใครช่วยปิดสกอร์ได้ สเตอร์ลิง เป็นผู้เล่นที่น่าประทับใจที่สุดของ เชลซี อีกครั้งในวันอาทิตย์
มิไคโล มูดริก ซึ่งออกสตาร์ตเป็นปีกซ้ายในระบบ 4-3-3 ของเชลซี มีจังหวะ 2-3 ครั้ง และหนึ่งในการกระชากของเขาทำให้เชลซีได้ฟรีคิก ซึ่ง สเตอร์ลิง ยิงไปชนคาน ก่อรน โคล พาลเมอร์ ลงแทนปีกชาวยูเครนในครึ่งหลัง และในตำหน่งตัวรุกด้านในขวา ขณะที่ สเตอร์ลิง ขยับไปปีกซ้าย อย่างไรก็ตาม สิงห์บลูส์ ไม่สามารถเปลี่ยนสกอร์ได้
2. ขาดหมายเลข 8 ของแท้
ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เชลซี เล่นในระบบ 4-3-3 โดยมี เลสลีย์ อูโกชุควู เป็นกองกลาง โดยมี เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ และ กัลลาเกอร์ ทำหน้าที่เป็นกองกลางยืนสูงสองคน อย่างไรก็ตาม เฟอร์นันเดซ ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของเชลซี มีฟอร์มที่ดีมากกว่าในฐานะเพลย์เมคเกอร์ที่ยืนกลางตัวลึก เมื่อเล่นในสนามในตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาวิ่งเข้ารุกได้ไม่ดีพอ ซึ่งจะดูดีกว่าหากถอยต่ำลงมา
กัลลาเกอร์ เข้าไปในกรอบเขตโทษของคู่แข่งเป็นบางครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่า เชลซี ขาดศักยภาพในเกมรุกอีกครั้ง ในความเป็นจริง การโจมตีของพวกเขาดูมีชีวิตชีวามากขึ้นหลังจากที่ เอียน มาตเซ่น เข้ามาแทนที่ เฟอร์นันเดซ ในครึ่งหลัง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า โปเช็ตติโน่ ต้องหาสมดุลในตำแหน่งกองกลางให้เร็วที่สุด