หลังจากตลาดนักเตะซาอุ โปรลีก ปิดตัว (7ก.ย.) ทุกอย่างก็คลี่คลาย ฝุ่นจางหายไปหลังจากตลบมาสักระยะ
จะว่าไปก็เสียวๆเหมือนกันที่ข่าว โม ซาลาห์ มาแรงหลังตลาดยุโรปปิด1 ก.ย. เพราะซาอุ โปร ลีก ยังทอดเวลาไปหนึ่งสัปดาห์ (ฟีฟาดันอนุโลมให้ 20 ก.ย.) จนปิดไปเมื่อเช้าตรู่วันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา
เป็นอันว่า โม ซาลาห์ ยังคงอยู่ที่แอนฟิลด์ต่อไป
ที่ว่าเสียวๆคือ พอนัดชนะแอสตัน วิลล่า ได้สามแต้ม ใอย่างสวยๆ ทั้งแทกติกและสกอร์ เลยแอบคิดว่า ถ้าแบบนี้มันก็พอมีวี่แววที่ดีในการลุ้นซีซั่นนี้ได้มากกว่าอันดับสี่
แต่ก็นั่นแหละครับ....พึ่งสี่นัด ยังต้องเฝ้ารอดูผลงานให้มันต่อเนื่องกว่านี้ แต่ถือว่าเมื่อ โม ซาลาห์ ยังไม่ย้ายออกไป เท่ากับอาวุธหนักๆของหงส์แดงยังคงมีอยู่ให้ใช้งาน และดูเหมือน มิติของโม ในการเล่นแดนสามน่าจะปรับเปลี่ยนไป
วันหลังวิเคราะห์ให้อ่านกันครับ
วันนี้ไปว่ากันเรื่องตลาดนักเตะ 2023-24 เน้นพรีเมียร์ลีกกันก่อนพอเข้าใจ
นี่คือโลกยุคที่ค่าตัวนักเตะตำแหน่ง "มิดฟิลด์" กลับมีราคาสูงกว่านักเตะตำแหน่งตัวรุกอย่าง ปีกและศูนย์หน้า
มอยเซส ไกเซโด้ £110+ ล้าน (ถ้ารวมสัญญาตามน้ำก็115) เมื่อรวมกับเพื่อนร่วมทีมที่มาก่อนหน้านี้หกเดือนอย่าง เอนโซ เฟร์นานเดส £106.5ล้าน และ เดแคลน ไรส์ นักเตะใหม่อาร์เซนอล อีก £105 ล้าน
มิดฟิลด์สายพันธุ์ ตัวรับ, บ๊อกส์ ทู บ๊อกส์ มีราคาสูงแพงกว่า แกเรธ เบล, คริสเตียโน โรนัลโด ซะงั้น
หรือกลุ่มดาวรุ่งพรุ่งนี้....ราคาก็ไม่เบานะครับ
โรเมโอ ลาเวีย £58ล้าน โคล พาลเมอร์ £45 ล้าน
ตามดีมานด์และซัพพลาย กลไกตลาด ที่อย่าไปถามว่าคุ้มมั้ย
คุ้มหรือไม่ คงต้องดูตอนจบหรือย้ายทีมออกไปครับ
ที่น่าสนใจคือ....อายุเฉลี่ยที่สโมสรพรีเมียร์ลีกดึงตัวนักเตะปีนี้คือ 24.3 ปี นั่นเท่ากับว่า พลังหนุ่มมาแรง และฟุตบอลสมัยใหม่ต้องสร้างนักเตะ 19-23 ปี เพื่อให้เล่นทีมชุดใหญ่และมีอายุใช้งานยาวๆ
พวกมือเก๋าระดับ 30 ปีอาจต้องหลีกทาง หรือไม่ก็ไปซาอุ....
ลอนดอนเนอร์อันดับหนึ่ง
สองทีมดังของลอนดอนติดทอปทรี "ชอปปิ้ง" สูงสุด
เชลซี ยังคงไร้ปัญหาเรื่องงบการเงินของยูฟา เพราะปีนี้ไม่ได้เล่นรายการสโมสรยุโรป เมื่อไม่เล่นก็ไม่ต้องส่งงบการเงิน เพียงแต่ในพรีเมียร์ลีกเองก็มีเพดานเรื่องงบการเงินอยู่ แต่ไม่เข้มงวดมากเท่ากับยูฟา
ยูฟา ยังไม่ได้บังคับใช้ทุกลีกเพราะกิจการภายในจะไม่ไปแตะมาก มีกรอบธรรมนูญฟุตบอลที่เหมือนๆกัน ส่วนปลีกย่อยไม่ว่ากัน เรื่องงบการเงินก็เหมือนกันครับ
ดังนั้นเชลซีใช้งบ £434.1 ล้าน มากสุดในพรีเมียร์ลีกจากนักเตะ 12 คน...
ตามด้วยสเปอร์ส £233 ล้าน แมนฯซิตี้ £216 ล้าน และอาร์เซนอล £208 ล้าน ส่วนสองทีมมากแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูลและแมนฯยูไนเต็ด ใช้ไม่ถึง £200 ล้าน โดยเฉพาะลิเวอร์พูลนั้น FSG คงมาตรฐานเดิมๆของพวกเขาคือ ใช้แบบจำกัดจำเขี่ย ไม่ทุ่มทุนสร้าง ทั้งที่เกือบทำสถิติ £110 ล้านกับ ไกเซโด
FSG คงโล่งใจที่ ไกเซโด ไม่มา ซึ่งถ้ามาก็ไม่แน่เหมือนกันว่าพวกเขาอาจจำใจขาย โม ซาลาห์ ที่ £150 ล้าน ก็เป็นไปได้อยู่นะครับ
ส่วนแมนฯยูไนเต็ด...การใช้เงินก้อนนี้ถือว่าไม่น้อยแต่ก็ไม่มาก สำคัญกว่านั้นคือซื้อมาแล้วเกาถูกที่คันมั้ย อันนี้น่าคิด
ทั้ง ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวรุ่งแห่งอนาคต ที่ปัจจุบันยังคงต้องพิสูจน์ตัวเอง หรือ เมสัน เม้านต์ แดนกลางที่ไม่ใช่ทางเลือกแรก
ถ้าให้ทายว่าทีมไหนซื้อนักบอลน้อยสุดซีซั่นนี้
ผมเชื่อว่าตอบได้ทุกคน...
สรุปปีนี้...ตลาดนักเตะพรีเมียร์ลีกทะลุเพดานอีกครั้ง
รวมแล้ว £2.36 พันล้าน มากที่สุดในประวัติศาสตร์บอลอังกฤษ แซงหน้าปีที่แล้วที่ทำสถิติ £1.92 พันล้าน
ส่วนลีกอันดับสองที่ทำเงินเป็นรองพรีเมียร์ลีกอยู่นอกทวีปยุโรปครับ
ซาอุ โปร ลีก £700 ล้าน มากเป็นอันดับสองของโลก รองจาก พรีเมียร์ลีก!!!
ลีกเอิง £688.7 ล้าน
บุนเดสลีกา £610.8 ล้าน
กัลโช่ £569.6 ล้าน
ลา ลีกา £324 ล้าน
นักเตะชื่อดังที่ย้ายไปซาอุ
อัล ฮิลาล ; เนยมาร์, รูเบน เนเวซ, คาลิดู คูลีบาลี่, อเลกซานดาร์ มิโตรวิช , ยาซีน โบโน, เซอร์เก มิลินโกวิช ซาวิช
อัล อาห์ลี ; บ๊อบบี ฟีร์มีโน, อแลง แซงต์ แม็กซิแม็ง, ริยาด มาห์เรซ, เอดู เมนดี
อัล อิตติฮัด ;ฟาบินโญ่, เอนโกโล ก็องเต้, คาริม เบนเซมา, มาร์เซโล โบรโซวิช
อัล นัสเซอร์ ; ซาดิโอ มาเน่, อายเมอริก ลาปอร์ก, อเลกซ์ เตเยซ
อัล อิตตีฟาค ; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เดมาราย เกรย์
โดยฟีฟ่า เปิดเผยว่าตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์นี้ทุน สโมสรทุ่มทุนรวมกันมากถึง £5.9 พันล้าน (253,000 ล้านบาท) ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขของเงินจากการซื้อขายนักเตะทั่วโลกในระหว่างเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 47.2 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว และมากขึ้น 26.8 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับสถิติเดิมในปี 2019 โดยค่าเอเจนต์ก็เป็นสถิติใหม่เหมือนกันโดยเงินสะพัดถึง £557 ล้าน เพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซนต์จากปีก่อน
ส่วนตลาดซื้อขายช่วงสองหน้าหนาว 1 มกราคม ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024
ปิดท้ายด้วย...5 ทีมทุ่มทุนนักเตะสูงสุดนับจากปี2014
อันนี้รวมทั้งค่าตัว,ค่าจ้าง,ค่ายืม, ค่าเงินตามน้ำหรือ "add-ons" แล้วนะครับ คือบวกเพิ่มให้สำหรับทีมที่ต้องจ่ายส่วนนี้ ผลปรากฏว่าสโมสรที่ใช้เงินสูงสุดในการใช้จ่ายส่วนนักเตะรอบเกือบสิบปีมานี้คือ....
อันดับหนึ่ง..... แมนฯยูฯ £1.19พันล้าน
2 เชลซี £885.5 ล้าน
3 เปแอสเช £865.8 ล้าน
4 อาร์เซนอล £746.9 ล้าน
5 แมนฯซิตี้ £733.8 ล้าน
ส่วน….LFC อันดับ12 £395ล้าน
JACKIE