ความจริงคือความจริง! อันโตนี่ ลั่นไม่ใช่พวกสนับสนุนการทำร้ายร่างกาย

อันโตนี่ ปีกชาวบราซิเลี่ยนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนกรานว่าตนไม่ใช่คนที่มีนิสัยชอบทำร้ายร่างกายคนอื่นแต่อย่างใด

ตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา  อันโตนี่ ตกเป็นประเด็นร้อนหลังจาก กาบริเอล่า คาวัลลิน อดีตแฟนของเขาออกมากล่าวหา อันโตนี่ ว่าทั้งทำร้ายร่างกายเธอ, ขู่เล่นงานเธอ และกักขังเธอ ซึ่งเรื่องมันก็บานปลายจนถึงขั้นตำรวจประกาศทำการสอบสวน อันโตนี่ และทำให้เขาโดนตัดชื่ออกจากทีมชาติบราซิลแบบกะทันหันตามไปด้วย แถมหลังจากนั้นก็มีการเปิดเผยว่ามีหญิงอีก 2 คนที่กล่าวหา อันโตนี่ ว่าทำร้ายร่างกายพวกกเธอเช่นกัน

อันโตนี่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อรายหนึ่งของบราซิลว่า "ผมไม่เคยสนับสนุนเรื่องแบบนั้น (การทำร้ายร่างกายผู้หญิง) เลย มันเป็นเรื่องที่ผิด ผิดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ผมมีแม่, มีพี่สาว และผมย่อมไม่มีวันอยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นกับพวกเธอ ผมมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มว่าผมไม่เคยทำร้ายร่างกายผู้หญิง และมีจะแสดงหลักฐานถึงเรื่องนั้น ผู้คนจะได้เห็นความจริง ผมไม่เคยทำร้ายร่างกายใคร และจะไม่มีวันทำร้ายร่างกายคนอื่น ผมมั่นใจว่าผมไม่เคยก่อเหตุรุนแรงด้านร่างกายเลย"

"ใครก็ตามที่อยู่กับผมมาตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก หรือตั้งแต่ตอนที่ผมยังไม่มีอะไรเลยนะ ย่อมรู้ดีว่าผมมีนิสัยยังไง และรู้ว่าผมต้องเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดคือแสดงให้ทุกคนเห็นว่านั่นคือตัวตนของผม ผมอยากประสบความสำเร็จในหลายอย่าง ผมมีเป้าหมายหลายเป้าหมายและมีความฝันมากมาย ผมอยากแสดงให้เห็นว่าที่จริงแล้วผมเป็นคนยังไง ผมใฝ่ฝันที่จะได้กลับไปเล่นให้ทีมชาติและแสดงให้เห็นว่า อันโตนี่ เป็นผู้บริสุทธิ์จากเรื่องทั้งหมด"

ดาวเตะเลือดแซมบ้าบอกด้วยว่าไม่กังวลเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่อย่างใด "ผมรู้ดีว่าความจริงเป็นยังไง และมันจะถูกเปิดเผย ผมรู้ดีว่าหลายคนกำลังพยายามฆ่าผมทั้งเป็น แต่ความจริงจะปรากฏออกมาเสมอ ยูไนเต็ด รับมือได้ดีกับการไต่สวนที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พวกเขากำลังเกาะติดกับสถานการณ์และจะเฝ้าดูเรื่องราวนี้ต่อไป"

อย่างไรก็ตาม อันโตนี่ ก็ยอมรับเช่นกันว่าเสียใจสุดๆ ตอนที่รู้ว่าโดนถอดออกจากทีมชาติ "มันเป็นเรื่องที่ทำใจยอมรับได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ผมรู้ดีว่ามันมีต้นตอมาจากเรื่องที่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง และมันมีเรื่องนั้นเป็นต้นเหตุ ตอนที่ผมรู้ว่าจะโดนตัดชื่อน่ะผมกำลังอยู่กับคุณแม่ของผม มันไม่ใช่เรื่องที่ทำใจยอมรับได้ง่ายๆ เลย เราต่างทำงานเพื่อทำให้ฝันของเราเป็นจริง และผมก็ใฝ่ฝันที่จะได้สวมเสื้อของทีมชาติอยู่ทุกวัน"