ตลาดซื้อ-ขายลีก ซาอุดีอาระเบีย ปิดไปแล้วก็จริง แต่มันเป็นเพียงตอนนี้เท่านั้น
อัล-อัตติฮัด คว้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่พวกเขาปรารถนาอย่างแรงกล้าเพื่อดึงตัวไปครอบครองไม่ได้
จากเงิน 100 ล้านปอนด์, 150 ล้านปอนด์ จนไปถึง 200 ล้านปอนด์
สุดท้าย ลิเวอร์พูล เลือกไม่ตอบตกลงด้วย
แต่ถ้าจะบอกว่า อัล-อิตติฮัด ล้มเหลวในดีลนี้ คงยังไม่สามารถพูดแบบนั้นได้เต็มปากเท่าไหร่
อัล-อิตติฮัด จะไม่ยอมแพ้แค่เท่านี้แน่ การให้ความสนใจในตัว ซาลาห์ จะไม่จางหายน้อยลง
ดิ แอธเลติก เผยว่า สโมสรจากลีกซาอุฯ มีการร่างรายละเอียดสัญญา 3 ปีที่มีมูลค่า 200 ล้านปอนด์รอเอาไว้แล้ว
เงินจำนวนนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ อัล-อิตติฮัด ที่มีกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย (Public Investment Fund) คอยหนุนหลัง
ดังนั้นมหากาพย์นี้จะดำเนินต่อไป และจะทำให้ ลิเวอร์พูล กับ ซาลาห์ มีตัวเลือกอยู่ 3 ทาง
- ย้ายออกในเดือนมกราคม
ย้ำกันอีกครั้งว่า นับตั้งแต่ ไมค์ กอร์ดอน ประธาน เอฟเอสจี คุยกับตัวแทนของ ซาอุฯ จบไปเมื่อตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เป็นการแสดงให้ทุกคนทราบว่า ลิเวอร์พูล ไม่สนใจที่จะขาย ซาลาห์
ปกติแล้วเมื่อทีมใดก็ตามที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการขายผู้เล่นคนนั้น ๆ
จุดยืนที่ว่าจะไม่สั่นคลอนต่อให้ถึงตอนที่เปิดตลาดรอบต่อไปก็ตาม
ถึงกระนั้น ในวงการฟุตบอลช่วงเวลา 4 เดือนถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน
ขณะที่กรณีนี้ถือว่าซับซ้อนและต่างจากปกติ
แน่นอนว่า ต่อให้ ซาลาห์ มีอายุ 31 ปี แต่ความสามารถและร่างของเขายังมีเต็มเปี่ยม
ทั้งพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม, ร่างกายที่แข็งแกร่ง และยังเป็นคีย์แมนในสไตล์การเล่นของ เจอร์เก้น คล็อปป์ รวมถึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการทำให้ ลิเวอร์พูล บรรลุเป้าหมาย
แต่โอกาสที่จะได้ค่าเหนื่อยเพิ่ม 4 เท่าจนอยู่ในระดับราว 1.5 ล้านปอนด์ต่อสัปดาห์คือสิ่งที่ล่อตาล่อใจสำหรับตัวนักเตะเหมือนกัน
ขณะที่ฟากฝั่ง อัล-อัตติฮัด จะไม่ลดละความพยายามไล่ล่า ซาลาห์
พวกเขาต้องการเสริมทัพด้วยนักเตะชั้นยอดต่อไป
นอกจากนี้ การที่ ซาลาห์ นับถือมุสลิมก็ทำให้เขาสนใจไปเล่นใน ซาอุดี อาระเบีย มากกว่าเดิมอีก แถมยังมีความรู้สึกด้วยว่า ซาลาห์ จะย้ายไปเล่นที่นั่น ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นเมื่อไหร่เท่านั้น
อย่างไรก็ดี โอกาสน้อยมาก ๆ ที่ ลิเวอร์พูล จะพิจารณาขาย ซาลาห์ ในช่วงเดือนมกราคมนี้
เพราะเมื่อถึงตอนนั้น จะเท่ากับว่าเพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งฤดูกาล และถ้าหากพวกเขายังเล่นได้ดีเหมือนช่วงต้นซีซั่นแล้วล่ะก็
การปล่อยนักเตะที่มีอิทธิพลกับทีมมากที่สุด โอกาสที่ทีมจะหลุดวงโคจรค่อนข้างสูง
ลิเวอร์พูล อาจใช้เวลาสี่เดือนก่อนเปิดตลาดหน้าหนาวเพื่อหาตัวแทนที่เหมาะสมได้
แต่ความจริงคือการจะซื้อผู้เล่นระดับนั้นได้ในตลาดมกราคม เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขามองเห็นคุณค่ากับการมี ซาลาห์ อยู่ในทีมมากแค่ไหน
มากกว่าเงินสดหลายร้อยล้านปอนด์ที่จะเข้าสู่บัญชีเสียอีก
- ย้ายออกตลาดซัมเมอร์ 2024
อันนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
ประการแรกคือ อย่างที่บอกไปว่า ความสนใจจาก อัล-อิตติฮัด จะไม่หายไป
ซาลาห์ ถูกมองว่าเป็นทองอันล้ำค่าจนถึงขนาดที่ อัล-อิตติฮัด และ พีไอเอฟ พร้อมที่จะรอดึงตัวเขาในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่ทีมมีโอกาสจะได้ตัวเขามากกว่าภายในซีซั่นนี้
ประการที่สอง เมื่อถึงจบฤดูกาล 2023/24 ซาลาห์ น่าจะตัดสินใจเรื่องอนาคตของเขากับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างชัดเจน
ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ลิเวอร์พูล จะแสดงให้เห็นว่าพร้อมสำหรับการล่าแชมป์รายการใหญ่ ๆ อีกครั้ง หรือในทางตรงกันข้ามที่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถลดช่องว่างจากกลุ่มหัวแถวได้
และถ้าเป็นในกรณีอย่างหลังนั้น ซาลาห์ อาจจะตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่เขาต้องย้ายออกจากทีม
ประการที่สาม เมื่อถึงซัมเมอร์ปีหน้าสัญญาของ ซาลาห์ จะเหลือแค่ปีเดียวเท่านั้น และเขาจะอายุ 32 ในเดือนมิถุนายน
ถึงตอนนั้น ลิเวอร์พูล คงทราบดีว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่สโมสรจะได้รับเงินมหาศาล และสำหรับการเดินธุรกิจของ เอฟเอสจี พวกเขาคงรู้ว่าต้องทำอะไรกับเงินที่กองตรงหน้าในสถานการณ์แบบนี้
ประการสุดท้าย ช่วงเวลาหนึ่งปีต่อจากนี้ เป็นเวลามากพอที่ ลิเวอร์พูล ค้นหานักเตะที่เหมาะสมเพื่อเป็นตัวแทน ซาลาห์
จริงอยู่ว่าการสร้างทีมโดยไม่มี ซาลาห์ อาจก่อให้เกิดความกังวล แต่การย้ายทีมในช่วงหน้าร้อนปีหน้า มันดีกว่าเพราะสโมสรจะไม่กดดันมากนักเพื่อการเฟ้นหาผู้เล่นใหม่
- ขยายสัญญา
เรื่องนี้ดูไม่น่าเป็นไปได้มากที่สุด แต่ก็ไม่ถึงกับว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียเลย
ซาลาห์ ขึ้นรั้งผู้เล่นทำสกอร์มากสุดลำดับที่ 5 ของสโมสร และเป็นนักเตะที่รับค่าเหนื่อยมากสุดที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ในฐานะที่เขาคว้าแชมป์กับทีมมาแล้วเกือบทุกรายการ(ยกเว้น ยูโรปา ลีก) พอเรียกได้ว่า ซาลาห์ คือตำนาน ลิเวอร์พูล
ฤดูกาลนี้ ซาลาห์ รู้ว่าสิ่งสำคัญคือจะต้องพา ลิเวอร์พูล กลับมาอีกครั้งหลังพลาดหวังตั๋ว แชมเปี้ยนส์ ลีก
อย่างที่เราเห็นกันในตอนต้นซีซั่นนี้ว่า ความมุ่งมั่นในการลงเล่นของเขายังคงร้อนแรงเหมือนเดิม
ถ้า ซาลาห์ เล่นดี และทีมของ คล็อปป์ กลับไปมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมแล้วล่ะก็ เขาอาจจะคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะย้ายไปเล่นในลีกที่เป็นรอง พรีเมียร์ลีก ทั้งในเรื่องคุณภาพและยอดคนดูก็ได้
ซึ่งมันอาจจะเปิดโอกาสให้เขาเลือกเล่นกับ ลิเวอร์พูล ต่อไป
HOSSALONSO