อันโตนี่ ปีกทีมชาติบราซิลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจหลังโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนในกรณีที่กาบรีเอล่า คาวาลลิน อดีตแฟนสาว ฟ้องร้องคดีทำร้ายร่างกาย
"ยูโอแอล" สื่อดังแดนแซมบ้า เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งรัฐ เซา เปาโล ได้เริ่มเปิดฉากสืบสวนคดีที่ กาบรีเอล่า กล่าวอ้างว่า ปีกจอมหมุนเลือดแซมบ้า ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายหลายครั้งตอนที่คบกันในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน 2022 และพฤษภาคม 2023
นอกจากนี้สื่อฉบับเดิมระบุเพิ่มเติมว่าโปลิศแดนกาแฟได้รับหลักฐานที่มีทั้งรูปภาพ, วีดิโอ, การสนทนา และคำให้การจากพยาน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการคุกคาม, ข่มขู่ และทำร้ายร่างกายจาก อันโตนี่
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยหนึ่งในวีดิโอการสืบสวนซึ่งแสดงให้เห็นว่า กาบรีเอล่า ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือจนเห็นกระดูกจากการที่พยายามป้องกันตัวเองจากการโดนทำร้าย และเหตุการณ์นี้ก็ถูกส่งไปให้ศาลพิจารณาเช่นเดียวกัน
แถลงการณ์ของ อันโตนี่ ผ่านแพลตฟอร์มอินสตาแกรม ระบุว่า "ด้วยความเคารพต่อแฟนๆ ของผม, เพื่อนฝูง และครอบครัว ผมรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะต้องออกมาพูดต่อสาธารณชนเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จซึ่งผมตกเป็นเหยื่อ"
"ตั้งแต่เริ่มแรกผมรับมือกับปัญหานี้อย่างจริงจัง และด้วยความเคารพ โดยมีการชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างชัดเจนไปแล้ว สำหรับการสืบสวนของตำรวจถือเป็นความลับ เพราะฉะนั้นผมไม่สามารถเปิดเผยเนื้อหาต่อสาธารณชนได้"
"อย่างไรก็ตามผมสามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นไม่เป็นความจริง มันมีหลักฐานพร้อมอยู่แล้ว และจะมีการแสดงหลักฐานมากกว่านี้อีกเพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ทำผิดในกรณีที่โดนกล่าวหา"
"ความสัมพันธ์ของผมกับ กาบรีเอล่า เต็มไปด้วยความวุ่นวาย รวมทั้งมีการใช้คำพูดที่รุนแรงจากทั้งสองฝ่าย แต่ผมไม่เคยทำร้ายร่างกายเลย ทุกครั้งไม่ว่าจะให้การเป็นพยานหรือให้สัมภาษณ์เธอก็มักจะพูดถึงข้อกล่าวหาในรูปแบบที่แตกต่างกัน"
"ด้วยเหตุนี้ผมจึงขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น และแจ้งให้ทราบว่าผมยินดีให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิลอย่างเต็มที่เพื่อชี้แจงในสิ่งที่จำเป็น ผมเชื่อว่าการสืบสวนของตำรวจที่กำลังดำเนินอยู่จะเปิดเผยความจริงว่าผมเป็นผู้บริสุทธิ์" แถลงการณ์ "เดอะ หมุน" ระบุ
จากสถานการณ์ในตอนนี้ส่งผลให้ สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (ซีบีเอฟ) ตัดสินใจถอดชื่อ อันโตนี่ จากการลงเล่นให้ทัพ "เซเลเซา" ชุดทำศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ ที่จะพบกับ โบลิเวีย และ เปรู วันที่ 8 และ 12 กันยายนนี้