เซนเตอร์ยางอะไหล่สอบผ่าน, แนวรุกดุดัน!เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ถล่ม แอสตัน วิลล่า

เซนเตอร์ยางอะไหล่สอบผ่าน, แนวรุกดุดัน!เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล ถล่ม แอสตัน วิลล่า
เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล สามารถนำ "หงส์แดง" โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในแมตช์ไล่ทุบ แอสตัน วิลล่า 3-0 ที่สนามแอนฟิลด์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา โดยแมตช์นี้เจ้าบ้านต้องใช้คู่เซนเตอร์แบ็กจำเป็นแต่ทำผลงานได้ดีพอสมควร ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ได้รับโอกาสลงตัวจริงแม้ไม่มีชื่อทำประตูแต่ก็มีส่วนกับสองประตูที่ที่ทำได้ ส่วนผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น โดมินิค โซโบซไล ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งทั้งเกมรับและเกมรุก แถมยังยิงประตูแรกในสีเสื้อ "เดอะ เร้ดส์" ได้แล้ว

1. โซโบซไล เฉิดฉายเต็มตัว

กองกลางชาวฮังการี โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล แต่สำหรับแมตช์ล่าสุดกับ แอสตัน วิลล่า นักเตะทำผลงานสุดยอดเกินห้ามใจ โดยเฉพาะจังหวะการจบสกอร์ที่หนักแน่นและเฉียบคมจริงๆ

โซโบซไล มีส่วนกับเกมอย่างมาก โดยเฉพาะการคอยเชื่อมเกมระหว่างแดนกลางกับแนวรุก ส่วนที่เด็ดของเขาก็คือการผ่านบอลที่แมนยำ และการหาจังหวะสับไกลบริเวณกรอบเขตโทษซึ่งก็ได้ผลตั้งแต่ต้นครึ่งแรก ขณะที่ครึ่งหลังก็เกือบทำได้อีกครั้งแต่น่าเสียดายที่บอลออกไปนิดเดียว

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ "โซโบ" แสดงให้เห็นก็คือพละกำลังที่เหลือล้น สามารถวิ่งพล่านไปทั่ว เพื่อหาพื้นที่ว่างในการเข้าทำ และพยายามที่จะสร้างโอกาสให้กับกองหน้าในการยิงประตู 

สำหรับตอนนี้ คล็อปป์ คงมองเห็นภาพแผงมิดฟิลด์ของ "เดอะ เร้ดส์" ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น หลังได้ตัว ไรอัน กราเฟนแบร์ก มาร่วมทัพ และน่าจะทำให้แดนกลางของทีมมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

2. ซาลาห์ ไม่สะท้านข่าวลือ 

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โม ซาลาห์ กลายเป็นประเด็นสุดฮือฮาเนื่องจากนักเตะตกเป็นข่าวใหญ่กับ อัล-อิตติฮัด สโมสรในศึกซาอุดี โปร ลีก ประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่พร้อมทุ่มเงินมหาศาลเป็นสถิติโลกจำนวน 200 ล้านปอนด์ (ราว 8800 ล้านบาท) เพื่อดึงตัวไปร่วมทัพ

ซาลาห์ แสดงให้เห็นตั้งแต่นาทีแรกที่ลงสนามว่าสมาธิของเขาอยู่กับเกมตลอดเวลา โดยข่าวลือต่างๆ ไม่มีผลกับฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวเลย  แถมยิ่งทำให้เขามุ่งมั่นมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ 

"คิง ออฟ อียิปต์" อันตรายทุกครั้งที่มีบอลอยู่ที่เท้า โดยไม่ว่าจะกระชากบอลไปเอง หรือผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีม ทุกจังหวะที่ทำมีความยอดเยี่ยม และละเอียดสุดๆ นั่นแสดงให้เห็นว่านักเตะไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับเรื่องนอกสนามแม้แต่นิดเดียว

อย่างไรก็ตามเรื่องข่าวลือกับทีมแดนเศรษฐีน้ำมันคงยังไม่จบง่ายๆ เพราะตลาดในลีกซาอุดิอาระเบียยังไม่ปิด ฉะนั้น ซาลาห์ คงจะต้องเจอเรื่องรบกวนใจต่อไปอีกพักใหญ่ๆ 

3. นูนเญซ เริ่มมั่นใจมากขึ้น

หลังจากสวมบทซูเปอร์ฮีโร่ซัดสองประตูในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด งานนี้ คล็อปป์ ตัดสินใจให้โอกาส ดาร์วิน นูนเญซ ได้ลงเล่นตัวจริงแมตช์แรกของฤดูกาลนี้ แม้ว่าเขาจะโชคไม่ค่อยดีไม่มีชื่อทำประตู แต่ผลงานโดยรวมโดดเด่นมากๆ

ดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย มีส่วนกับแนวรุกของทีมอย่างมาก โดยทุกครั้งที่เจ้าตัวมีโอกาสสามารถสร้างปัญหาให้กับแนวรับ แอสตัน วิลล่า ตลอด จุดเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือการวิ่งหาพื้นที่ว่างซึ่งเขาทำได้ดีเยี่ยม

ส่วนจังหวะการจบสกอร์อาจจะไม่ได้เฉียบคมเหมือนในเกมกับ "สาลิกาดง" แต่ก็จังหวะที่ยิงชนเสาก่อนบอลจะไปชนตัว แม็ตตี้ แคช เข้าประตู และอีกจังหวะที่ซัดไปชนคาน แต่เขาได้โหม่งชงให้ "บังโม" ซัดตอกฝาโลง เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขายังคงอันตรายทั้งจังหวะการยิงและการส่งทุกครั้งที่ได้โอกาส

อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของ นูนเญซ ก็คือการพลาดจังหวะง่ายๆ แบบไม่น่าเชื่อ แต่กระนั้นหากมองผลงานโดยรวมของเขาแล้ว ถือว่าน่าประทับใจเลยทีเดียว 

4. อาการเจ็บของ "รองเทรนต์"

ชัยชนะที่สวยงามในแมตช์นี้มาพร้อมกับความน่ากังวลของ คล็อปป์ และแฟนบอลลิเวอร์พูล เนื่องจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีปัญหาบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 70 

"รองเทรนต์" โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในแมตช์นี้ โดยเฉพาะจังหวะการเปิดบอลไม่ว่าจะทางริมเส้นฝั่งขวาหรือตรงกลางเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม และเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

จังหวะเปิดลูกเตะมุมให้กับ โซโบซไล ทำประตูขึ้นนำทำให้ ฟูลแบ็กทีมชาติอังกฤษ ได้อีก 1 แอสซิสต์ แต่น่าเสียดายที่นักเตะไม่สามารถเล่นจนจบเกมเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บที่เอ็นกล้ามเนื้อหลังต้นขา แต่ดูเหมือนว่าอาการอาจไม่หนัก และคงต้องรอลุ้นผลสแกนอีกครั้ง

โชคดีจริงๆ ที่ช่วงสัปดาห์นี้มีโปรแกรมทีมชาติทำให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อาจจะได้พัก เพราะถ้าหากมีอาการบาดเจ็บแบบนี้มีความเป็นไปได้สูงที่เขาต้องเลือกถอนตัวในการรับใช้ อังกฤษ ในเกมคัดยูโร 2024 กับ ยูเครน และอุ่นเครื่องกับ สกอตแลนด์

5. คลีนชีตเกมแรกของซีซั่น

หนึ่งในเรื่องที่ทำให้แฟนบอล "เดอะ เร้ดส์" อกสั่นขวัญหายก็คือการที่พวกเขาจะไม่มีคู่เซนเตอร์แบ็กหลักนั่นก็คือ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่มีอาการบาดเจ็บ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ต้องรับใช้โทษแบนใบแดงจากเกมกับ นิวคาสเซิ่ล โดย คล็อปป์ มีตัวเลือกแค่ โฌเอล มาติป และ โจ โกเมซ

ทั้งสองมีจังหวะเล่นผิดพลาดบ้าง แต่ก็มีหลายครั้งที่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่ง ขณะที่ มาติป ยังมีจุดเด่นในเรื่องการขึ้นไปลุ้นทำประตูในช่วงท้ายครึ่งแรกด้วย 

ชัยชนะในแมตช์นี้เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คล็อปป์ สามารถจัดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีเยี่ยมเมื่อทีมขาดแนวรับสำคัญ ขณะที่สองเซนเตอร์แบ็กยางอะไหล่ทำผลงานให้เพื่อนร่วมทีมได้อุ่นใจ

นอกจากนี้สามคะแนนที่สวยงามในแมตช์นี้ สิ่งที่ทำให้ คล็อปป์ ค่อนข้างพอใจมากยิ่งกว่าเดิมก็คือการที่ทีมไม่เสียประตู เพราะนั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าเกมรับของทีมเริ่มมีความนิ่งมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X