บิ๊กดีลเฉียดเส้นตาย!ท็อป 10 สุดยอดการย้ายทีมก่อนตลาดวาย

บิ๊กดีลเฉียดเส้นตาย!ท็อป 10 สุดยอดการย้ายทีมก่อนตลาดวาย
นับถอยหลังจากวันนี้ก็เหลืออีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วที่ตลาดซื้อขายนักเตะในซัมเมอร์นี้จะปิดตัวลง

และหลายต่อหลายครั้ง เราจะเห็นได้ว่าตลาดนักเตะในวันสุดท้าย หรือว่าวินาทีสุดท้ายมักมีบิ๊กดีลสุดเซอร์ไพรส์อุบัติขึ้นชนิดที่ทำให้ใครต่อใครอ้าปากค้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งซัมเมอร์นี้เป็นที่เชื่อกันว่า ลิเวอร์พูล ยังต้องการกองกลางอีกราย ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ใกล้ลงเอยกับแบ็คซ้ายรายใหม่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าบุญทุ่มอย่าง เชลซี มีแววล่านักเตะมาเสริมทัพเพิ่มอีกแม้ในรอบปีที่ผ่านมา พวกเขาจะเซ็นสัญญากับพ่อค้าแข้งมากถึง 24 รายก็ตาม

เอาเป็นว่าก่อนจะไปลุ้นระทึกกันในวันสุดท้ายของตลาดนักเตะ เราไปย้อนมองสุดยอดดีลทั้งสิบที่เกิดขึ้นก่อนตลาดวายกันสักหน่อยดีกว่า

10. เซร์คิโอ รามอส - เซบีย่า ไป เรอัล มาดริด ปี 2005

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า รามอส เป็นนักเตะสแปนิชรายแรกและรายเดียวที่ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานทีม เรอัล มาดริด  ดึงตัวมาร่วมทัพในยุคแรกที่เขาดำรงตำแหน่งสำคัญ

ขณะเดียวกัน ตลอด 16 ซีซั่นที่รับใช้สังเวียนแข้ง เบร์นาเบว กองหลังจอมแกร่งได้แชมป์มาครอบครองครบถ้วนหมดแล้วซึ่งรวมถึงการพาทีมซิวถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก สี่สมัย และแม้จะสวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แต่เขาสอยตาข่ายได้มากถึง 101 ประตูจากการลงสนาม 671 นัดขณะสวมยูนิฟอร์ม ราชันชุดขาว แต่ก็ได้ใบแดงมากถึง 26 ใบซึ่งทั้งสองกรณีหลังล้วนเป็นสถิติของสโมสรด้วย

9. คาร์ลอส เตเวซ - โครินเธียนส์ ไป เวสต์แฮม ปี 2006

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นดีลที่แปลกประหลาด และสร้างความน่ากังขาอย่างแรงเมื่อ เตเวซ กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า ย้ายมาค้าแข้งกับถิ่น อัพตัน พาร์ค ในยุคของกุนซือ อลัน พาร์ดิว

แม้ มาสเคราโน่ จะอำลา ขุนค้อน ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนโดยย้ายไปร่วมทีม ลิเวอร์พูล แต่ เตเวซ กลายเป็นสตาร์คนสำคัญของ เดอะ แฮมเมอร์ส และประเดิมคลำเป้าเม็ดแรกให้ทีมได้ในเกมพ่าย สเปอร์ส อย่างสนุก 4-3 เมื่อวันที่ 4 มี.ค.สองวันหลังจาก เวสต์แฮม ถูกตั้งข้อหาโทษฐานละเมิดกฏเป็นเจ้าของนักเตะร่วมกับบุคคลที่สามนาม เคีย ชูรับเชี่ยน

8. แอชลีย์ โคล - อาร์เซน่อล ไป เชลซี ปี 2006

ในวันเดียวกับที่ เตเวซ ย้ายสังกัด อีกดีลที่สร้างความเกรียวกราวไม่แพ้กันคือ โคล สมาชิกชุดไร้พ่ายของ อาร์เซน่อล ถูกจับได้ว่าแอบไปพบกับ โชเซ่ มูรินโญ่ และ ปีเตอร์ เคนย่อน กุนซือและผู้บริหารทีม เชลซี ในภัตตาคารแห่งหนึ่งของกรุงลอนดอนกระทั่งส่งผลให้ สิงห์บลูส์ โดนตั้งข้อหาลักลอบติดต่อกับแบ๊คซ้ายทีมชาติ อังกฤษ

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โคล ยังค้าเกือกกับสังเวียนแข้ง ไฮบิวรี่ ต่อไปแม้จะถูกกองเชียร์ เดอะ กันเนอร์ส แสดงความจงเกลียดจงชังที่หวังย้ายไปสวามิภักดิ์สโมสรร่วมเมือง

จนกระทั่งเดือนส.ค.2006 โคล ก็ได้ย้ายทีมสมใจสลับขั้วกับ วิลเลี่ยม กัลลาส ที่อำลา เชลซี มาร่วมทีม อาร์เซน่อล

กระนั้นก็ดี โคล ประสบความสำเร็จกับถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แทบครบรวมทั้งได้ถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วย ตลอดจนแชมป์ เอฟเอคัพ สี่สมัยรวมเป็นสถิติสูงสุดเจ็ดสมัยหลังจากเขาได้แชมป์น็อกเอาต์กับทีมเก่ามาแล้วสามสมัย

7. ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ - สเปอร์ส ไป แมนยู ปี 2008

ก่อนจะเสีย แฮร์รี่ เคน ที่เลือกย้ายสโมสร แดเนี่ยล เลวี่ ประธานทีม สเปอร์ส ประสบกับปัญหาใหญ่ประมาณนี้มาก่อนแล้ว

แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังคึกหลังเพิ่งได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงมองถึงการเสริมเขี้ยวเล็บเพิ่มขึ้นแม้จะมีกองหน้าอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเวซ อยู่ในทีมแล้วก็ตาม

สำหรับจิ๊กซอว์ชิ้นที่ว่าได้แก่ เบอร์บาตอฟ ซึ่งมีคุณสมบัติละม้ายกับ เอริค คันโตน่า หลังจากเขาสร้างชื่อได้อย่างน่าประทับใจในเวลาสองซีซั่นกับ ไก่เดือยทอง 

แม้สองสโมสรจะตกลงค่าตัวกองหน้าทีมชาติ บัลแกเรีย ได้แล้ว แต่เป็นเพราะ แมนฯ ซิตี้ และอีกหลายสโมสรปรารถนาในตัว เบอร์บาตอฟ เช่นกัน เฟอร์กี้ จึงตัดสินใจดักรอพบเขาที่ท่าอากาศยานเพื่อการันตีว่าเป้าหมายคนสำคัญจะไม่หันไปลงเอยกับ เรือใบสีฟ้า และแน่นอนว่ามันเป็นดีลที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากเขาได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ ผีแดง สองหน รวมทั้งรางวัลรองเท้าทองคำด้วย

6. โรบินโญ่ - เรอัล มาดริด ไป แมนฯ ซิตี้ ปี 2008

ถือเป็นยุคเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ เลยก็ว่าได้เนื่องจาก เรือใบสีฟ้า เริ่มใช้เงินล่าตัวสตาร์ดังมาร่วมชายคาหลังจาก โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี เมื่อห้าปีก่อน

แมนฯ ซิตี้ ในกำมือของกลุ่มทุนจาก อาบูดาบี ผงาดเป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเพียงชั่วข้ามคืนแม้รายละเอียดปลีกย่อยจะไม่ถูกเปิดเผยก็ตาม

ว่ากันว่าอันที่จริง โรบินโญ่ จ่อเซ็นสัญญากับ เชลซี แท้ๆ แต่ แมนฯ ซิตี้ จัดแจงจ่ายเงินทุบสถิติค่าตัวนักเตะในลีกอิงลิชคว้าดาวเตะแซมบ้ามาเสริมทัพในราคาเกินกว่า 32 ล้านปอนด์

รวมแล้วในเวลา 18 เดือนกับ เรือใบสีฟ้า โรบินโญ่ ไม่ถึงกับประสบความสำเร็จ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมเงินถังหน้าใหม่เริ่มต้นตั้งไข่พาตัวเองขยับจากสโมสรในกลุ่มกลางตารางขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวแถวได้แล้ว

5. เมซุต โอซิล - เรอัล มาดริด ไป อาร์เซน่อล ปี 2013

เป็นอีกครั้งที่วันสุดท้ายของตลาดนักเตะเกิดดีลที่น่าสนใจโดย อาร์เซน่อล สร้างความฉงนยื่นข้อเสนอ 40 ล้าน+1 ปอนด์ขอซื้อ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนพ้นเส้นตาย

อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วทีม ปืนใหญ่ ได้ตัว โอซิล มาร่วมก๊วนหลังจาก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ กัดฟันยอมขายดาวเตะทีมชาติ เยอรมัน ให้กับทีมดังแห่งกรุงลอนดอน

แต่เอาเข้าจริง โอซิล มีผลงานที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยซึ่งแม้เขาจะมีฝีเท้าที่โดดเด่น แต่มักตายสนิทในเกมเยือนประเภทบิ๊กแมตช์

ถึงกระนั้นในช่วงค้าแข้งกับถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โอซิล เพิ่มเติมเกียรติประวัติกับทีมชาติได้ด้วยการคว้า แชมป์โลก และได้แชมป์ เอฟเอคัพ กับทีม ปืนใหญ่ สามสมัยซึ่งจัดว่าไม่เลวจนเกินไปแม้มันน่าจะดีกว่านี้ได้จนในที่สุด มิเกล อาร์เตต้า ก็จัดการโละเขาออกจากสโมสร

4. แกเร็ธ เบล - สเปอร์ส ไป เรอัล มาดริด ปี 2013

เป็นเพราะว่า โอซิล ย้ายออกจากสังเวียน เบร์นาเบว เรอัล มาดริด จึงจำเป็นต้องมองหา กาลาคติกอส รายใหม่ และเล็งเป้าไปที่ เบล  ซึ่งตกอยู่ในความสนใจของ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นกัน

หลังย้ายไปหากินใน ลา ลีกา สตาร์ทีมชาติ เวลส์ มีปัญหาล้มเจ็บบ่อยครั้ง แต่รวมแล้วเขาประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อโดยได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ห้าครั้ง และเป็นคนยิงประตูชัยพาทีมซิวโทรฟี่ โกปา เดล เรย์ ปี 2014 แถมสอยตาข่ายได้เกิน 100 เม็ดอีกต่างหากแม้จะถูกจิกกัดว่าสนใจเล่นกอล์ฟมากกว่าก็ตาม

3. โรนัลโด้ - อินเตอร์ มิลาน ไป เรอัล มาดริด ปี 2002

เจ้าของนิคเนม "อาร์เก้า" โรนัลโด้ เวอร์ชั่นออริจินอล ถือเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการในช่วงปลายยุค 1990 จนถึงต้นยุค 2000

แม้จะถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานถี่ยิบระหว่างปี 1998-2002 โรนัลโด้ ก็กลับมาโชว์ความร้อนแรงได้ในศึก ฟุตบอลโลก ที่ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพร่วมกันด้วยการตะบันแปดประตูพาทีมชาติ บราซิล คว้า แชมป์โลก เป็นสมัยที่ห้า

ต่อความสำเร็จดังกล่าวของดาวยิงแซมบ้า แม้ อินเตอร์ จะยืนยันไม่มีความคิดขายเขา แต่สุดท้ายเขาก็ย้ายไปเป็น กาลาคติกอส ที่ เรอัล มาดริด

อย่างไรก็ดี โล้นทองคำ ไม่อาจพา ราชันชุดขาว  ซิวถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เลยตลอดสี่ปีของเขาจนทำให้เจ้าตัวกลายเป็นยอดดาวดังที่ไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์หูใหญ่เนื่องจาก เรอัล มาดริด ได้แชมป์รายการนี้ก่อนหน้าที่จะเซ็นสัญญากับเขา แถมในปี 2007 ซึ่งเจ้าตัวบอกลาเมืองมาดริดย้ายไปร่วมทีม เอซี มิลาน ในเดือนม.ค. ปีศาจแดงดำ คว้าโทรฟี่ใบดังกล่าวได้ แต่ โรนัลโด้ ไม่มีสิทธิ์ลงเล่นเนื่องจากติดคัพไทหลังลงสนามในรายการนี้ของซีซั่นเดียวกันให้กับทีมดังของลีกกระทิงดุไปก่อนแล้ว

2. เวย์น รูนีย์ - เอฟเวอร์ตัน ไป แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2004

หากจะมีการถกกันถึงดีลที่สุดยอดที่สุดในวันปิดตลาด รูนีย์ ก็น่าจะจัดอยู่ในลำดับต้นๆ

ในวัยเพียง 18 ปี รูนีย์ ทะยานขึ้นเป็นกองหน้าชั้นยอดของ อังกฤษ ไปแล้วจากการสร้างชื่อได้ในศึก ยูโร 2024 จนทำให้เขาได้ย้ายไปค้าแข้งกับ ผีแดง ด้วยค่าตัวเฉียด 30 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติโลกสำหรับดาวเตะวัยรุ่นในยุคนั้น

แม้จะต้องรอประเดิมสนามให้ ผีแดง อยู่นานเนื่องจากประสบกับปัญหากระดูกเท้าแตก แต่การรอคอยเป็นเรื่องที่คุ้มค่าเนื่องจากเขากดแฮททริคใส่ เฟเนบาห์เช่ ได้ต่อหน้าสาวก เร้ด อาร์มี่ ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 

และนับจากนั้นตำนานบทใหม่ของ โรงละครแห่งความฝัน ก็อุบัติขึ้นเนื่องจาก รูนีย์ ได้แชมป์กับ ผีแดง เกือบครบไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีกห้าสมัย และแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ก่อนอำลาทีมย้ายกลับสู่ เอฟเวอร์ตัน อีกหนในปี 2017 โดยเจ้าตัวยังรั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาไว้ได้จากตัวเลข 253 ประตู

1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - ยูเวนตุส ไป แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2021

จัดเป็นการย้ายทีมที่สุดเซอร์ไพรส์เมื่อ โรนัลโด้ ตัดสินใจกลับมารับใช้ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกคำรบในวันสุดท้ายก่อนปิดตลาด

มันเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ ซีอาร์เซเว่น กำลังจะเซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ แต่หลังได้รับโทรศัพท์จาก ริโอ เฟอร์ดินานด์ , ปาทริซ เอวร่า รวมทั้ง เฟอร์กี้ กองหน้าโปรตุกีสก็เปลี่ยนแผนหันมาล่มหัวจมท้ายกับสโมสรเก่า

และที่สำคัญ สองประตูในเกมประเดิมสนามฟาดเกือกกับ นิวคาสเซิ่ล เปรียบได้กับบทภาพยนตร์ที่ถูกเขียนเอาไว้ล่วงหน้าก็ไม่ปาน แต่เมื่อเวลาผ่านเลยไป เรื่องราวที่เลวร้ายก็ค่อยๆคืบคลานเข้ามาซึ่งแม้เจ้าตัวจะคลำเป้าได้ 24 ประตู แต่ก็ตัดสินใจไปจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลังถูกเจ้านายใหม่ เอริค เทน ฮาก จับนั่งข้างสนามบ่อยครั้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport