หลังจากทำงานร่วมกับ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ มาเกือบ 1 ทศวรรษ จนไปสู่มีการคาดหวังว่า จูเลี่ยน วอร์ด จะรับไม้ต่อจาก เอ็ดเวิร์ดส์ ได้แบบราบรื่น
แต่ในเวลาไม่กี่เดือน ลิเวอร์พูล เปลี่ยนผู้อำนวยการกีฬา จาก ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์, จูเลี่ยน วอร์ด จนมาถึง ยอร์ค ชมัดท์เค่อ
การแต่งตั้ง ผอ.ชาวเยอรมัน เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความกังขาและความกังวลในระดับหนึ่ง
แน่นอนว่า ชมัดท์เค่อ มีดีกรีอยู่บ้าง แต่ก่อนหน้านี้เขาก็อยู่ในสถานะที่แทบจะเรียกว่าเกษียณจากโลกของการเสริมทัพไปแล้ว
อดีตผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน เคยเป็นผู้อำนวยการกีฬาให้ ฮันโนเวอร์, โคโลญจน์ และ โวล์ฟส์บวร์ก ซึ่งที่ถิ่นโฟล์คสวาเก้น เขาบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จของตัวเอง
แต่อีกทางหนึ่ง ชมัดท์เค่อ เคยผ่านการงัดข้อกับคนของสโมสรเหมือนกัน
การรับงานในครั้งนี้ของ ชมัดท์เค่อ ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับการเปลี่ยนจากการขับรถโกคาร์ทมาขับรถสูตรหนึ่ง (F1)
ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เขาได้รับงานนี้
และปฏิเสธไม่ได้ว่าในมุมหนึ่งนั้น นี่เป็นเหมือนเรื่องที่เกิดจากความพอใจส่วนตัวและการขาดการวางแผนที่ดี
มันมีการตั้งประเด็นด้วยว่าการเอาคนที่เขาถูกใจเป็นการส่วนตัวเข้ามาทำงานในครั้งนี้ทำให้ คล็อปป์ มีอำนาจภายในสโมสรมากเกินไป
แน่นอน ถ้าจะมีกุนซือคนไหนที่สมควรได้รับอิสระในการทำงานแล้วล่ะก็ คล็อปป์ คือคนที่คู่ควรกับเรื่องนั้น
ทว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คนเป็นกุนซือกุมอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว มันก็มีน้อยครั้งมาก ๆ ที่เรื่องมันจบลงด้วยดี
ถ้ามองในแง่เข้าข้างตัวเอง พอจะบอกได้ว่าคงไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะมีการยื่นข้อเสนอก้อนโตเข้ามาเพื่อขอซื้อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่
ถึงอย่างนั้น ถ้าเกิดเป็นในยุคของ เอ็ดเวิร์ดส์ แล้วล่ะก็ คงจะมีโอกาสน้อยมาก ๆ ที่ ลิเวอร์พูล จะไฟเขียวโดยที่ไม่มีการเตรียมตัวแทนเอาไว้ก่อน
นั่นคือความแตกต่างที่ชัดเจน...
การขาย เฮนโด้ กับ แฟ้บ ทำให้สโมสรอยู่ในจุดที่ยากลำบาก และเหมือนกับว่าทำให้สโมสรรวมถึง ชมัดท์เค่อ ต้องเจอปัญหา
การพยายามล่าตัว มอยเซส ไกเซโด้ แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่เกิดจากสถานการณ์หลังพิงฝา
มันน่าสบสนมาก ๆ ที่สโมสรเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ที่สำคัญแบบนี้โดยที่ขาดการเตรียมความพร้อมที่ดี
ทั้งที่ในยุคของ เอ็ดเวิร์ดส์ มักจะมีแผนสองสามสี่รองรับอยู่เสมอ
อย่างที่บอกไปในเบื้องต้น ลิเวอร์พูล เหลือเวลาอีกไม่กี่วันในการแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในตลาดรอบนี้ และทำให้มั่นใจว่าขุมกำลังจะมีสภาพเหมาะสมสำหรับการลุ้นแชมป์ในซีซั่นปัจจุบัน
แน่นอน ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาโต้แย้ง
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าบทสรุปของตลาดรอบนี้จะเป็นอย่างไร มันจำเป็นต้องมีการแก้ไขความผิดพลาดภายในสโมสร
สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการที่จะเข้ามาทำงานตรงกับวิสัยทัศน์ของ เอฟเอสจี ในระยะยาว ไม่ว่าวิสัยทัศน์ที่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม
ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ อาจจะไม่ตอบรับสายจากสโมสรนี้อีกแล้ว
แต่ในสมุดบันทึกรายชื่อคนที่อยากจะติดต่อด้วยของ ลิเวอร์พูล ก็คงไม่ได้มีชื่อ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ แค่คนเดียว
HOSSALONSO