ย้อนกาลช่วงนาทีที่ 77 ของบิ๊กแมตช์ ลิเวอร์พูล เยือน นิวคาสเซิ่ล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ เดิมพันทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่ง ดาร์วิน นูนเญซ ลงไปพลิกสถานการณ์เหมาสองช่วยให้ทีมที่เหลือผู้เล่น 10 คนอยู่ตั้งนานแซงคว้าชัย 2-1 แบบทำเอากองเชียร์สาลิกาดง และกองแช่งหงส์แดงช็อกตาตั้งไปตามๆ กัน!
ในยามเดียวกับที่ นูนเญซ สวมบทบาทซูเปอร์ซับแตะมือกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ยังมีอ้ายแอ้ดอีกคนถูกส่งลงน้ำด้วยเช่นกันในราย จาเรลล์ ควอนซาห์ กองหลังเด็กปั้นได้โอกาสประเดิมชุดใหญ่แทนที่ โฌแอล มาติป ที่เริ่มออกอาการล้า
ใดๆ ก็ถือว่ามีส่วนร่วมกับชัยชนะ ว่าแล้วมาทำความรู้จักกับดาวรุ่งดวงใหม่จากแคมป์ เมลวู้ด ให้มากขึ้นผ่านเรื่องราว 5 หัวข้อดังต่อไปนี้...
1. เขาคือใคร?
ควอนซาห์ เกิดเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2003 เซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับ ลิเวอร์พูล ช่วงต้นปี 2021 ขณะอายุ 18 ขวบ และระหว่างฤดูกาลนั้น (2020/21) ยังได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม "หงส์แดง" ชุดยู-18 ที่เเข้าชิงเอฟเอ ยูธ คัพ โดยนอกจากเขายังมีดาวรุ่งรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง บิลลี่ คูเมติโอ, เมลกามู ฟราวเอ็นดอร์ฟ และ คอเนอร์ แบร็ดลี่ย์ ก่อนที่ซีซั่นถัดมาเป็นกัปตันทีมชุดลุยศึกยูฟ่า ยูธ ลีก, ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 2 กับทีมสำรอง รวมถึงเป็นคีย์แมนทีมดังกล่าวคว้าแชมป์แลงคาเชียร์ ซีเนียร์ คัพ
2. สไตล์การเล่น
นิยามได้ว่าเป็นเซนเตอร์แบ็กสมัยใหม่ไปกับลูกบอลได้ดี สามารถเซตเกมจากแนวลึก ถนัดทั้งระบบแบ็กโฟร์ตามประสบการณ์ระดับสโมสร และหลังสามกับทีมชาติอังกฤษเยาวชนตั้งแต่รุ่นยู-16, 17, 18, 19 จนถึงยู-20 ในปัจจุบัน นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในฐานะกองหลังตัวซ้าย โดยเฉพาะเมื่อ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไม่ถนัดหน้าที่นี้เลย โฌแอล มาติป กับ โจ โกเมซ ต่างก็ถนัดฝั่งขวามากกว่า ขณะที่ เนธาเนียล ฟิลลิปส์ และ รีส วิลเลียมส์ ก็ไม่อยู่ในแผนการทำทีม
3. เคยติดทีมชุดใหญ่มาก่อน
เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่หน้าใหม่ในทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไปเสียทีเดียวเนื่องจากเซนเตอร์แบ็กวัย 20 เคยมีชื่อติดโผในเกมพรีเมียร์ลีกที่บุกเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 2-2, คาราบาว คัพ อีก 2 นัดที่ชนะจุดโทษ เลสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลดับเบิลแชมป์บอลถ้วย และซีซั่นต่อมารายการเดียวกันบู๊ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ซึ่งชนะจุดโทษเช่นกัน
4. เก็บเลเวลในลีก วัน
ย้อนไปไม่ไกลเมื่อต้นปี ควอนซาห์ ย้ายไปร่วมทัพ บริสตอล โรเวอร์ส บนเวทีลีก วัน จนถึงสิ้นสุดฤดูกาล 22/23 โดยประเดิมลงสนามได้น่าประทับใจแม้ทีมโดน มอร์แคมบ์ ยิงยับ 5-1 ก็ตาม และหลังจากโชว์มแจ่มแมตช์เจ๊า อิปสวิช ทีมแชมป์ในบั้นปลาย 0-0 ก็ทำเอา โจอี้ บาร์ตัน กุนซืออดีตแข้งฮาร์ดแมนเอ่ยปากชมยกใหญ่ กระนั้นก็มีโมเมนต์ไม่น่าจำเช่นกันเมื่อโดนใบแดงแรกของาชีพในนาทีสุดท้ายของเกมแพ้ พอร์ทสมัธ คาบ้าน รวมเบ็ดเสร็จสัมผัสเกม 16 นัดตลอดช่วงครึ่งหลังซีซั่น
5. ตัวตึงปรีซีซั่น
ช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา แนวรับลูกหม้อรายนี้อยู่กับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่วันแรกที่เข้าแคมป์ เดินทางไปเก็บตัวทั้งในเยอรมนี และ สิงคโปร์ พร้อมกับได้โอกาสโชว์ฝีเท้าครึ่งหลังทั้งในเกมพบ คาร์ลสรูห์, กรอยเธอร์ เฟือร์ธ, เลสเตอร์ ซิตี้ และ บาเยิร์น มิวนิค โดยสาเหตุหลักๆ นั้นก็เพราะ คล็อปป์ เจอไฟต์บังคับเล่นหลังสามเนื่องด้วยแดนกลางขาดแคลนทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ ย้ายออก ติอาโก้ อัลกันตาร่า, สเตฟาน บายเชติช ไม่ฟิต ไหนจะ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถูกดันไปยืนมิดฟิลด์อีกต่างหาก