ลิเวอร์พูลอุทธรณ์ใบแดงผ่านส่งผลต่อเกมเยือนนิวคาสเซิ่ล

อลีสซง เบ็คเกอร์ เฝ้าประตู

เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กับ อิบราฮิมา โกนาเต้ ยืนคู่เซนเตอร์แบ๊ก

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ประจำการริมเส้น

มีกองกลางตัวรับโดยธรรมชาติ.. วาตารุ เอ็นโด

แม็ค อัลลิสเตอร์ ขยับขึ้นไปยืนมิดฟิลด์ตัวบนร่วมกับ โดมินิก โซบอสไล ได้ใช้ประสิทธิภาพที่ตัวเองมีอย่างเต็มกำลัง

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปักหลักหน้าขวา อีก 2 คนที่เหลือเป็นเรื่องปวดหัวที่น่าอิจฉาสำหรับ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลุยส์ ดิอาซ ดีโอโก้ โชต้า และ โกดี้ คักโป ใครจะเป็นคนนั่ง

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ชุดตัวจริงที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค จะออกมาในรูปนี้คือ 9 จาก 11 คนการันตีตำแหน่ง อีก 2 คนที่เหลือคือการเลือกจากกลุ่ม 3 คนที่ฟอร์มดีไม่แพ้กัน

เป็นชุดที่ใกล้เคียงกับแผนงานที่วางเอาไว้สำหรับฤดูกาล 2023/24 ที่สุด เปลี่ยนแค่ ฟาบินโญ่ เป็น เอ็นโด

มีเบอร์ 6 อาชีพเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้.. ไม่ใช่สิ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มต้นช่วงปรีซีซั่นด้วยซ้ำ

เรื่องประสิทธิภาพและผลงานต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ก็พอจะพูดได้ว่า วาตารุ เอ็นโด นั้นไม่แย่.. ไม่แย่เลย

นักเตะที่เป็นตัวจริงทีมชาติญี่ปุ่นย่อมไม่แย่หรอกครับ ยิ่งนักเตะที่เป็นตัวจริงทีมชาติญี่ปุ่นในฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว เล่นเต็มเกมในวันที่ชนะเยอรมัน เล่นเต็มเกมในวันที่เจอกับคอสตาริกา เปลี่ยนตัวลงสนามท้ายเกมในวันที่เฉือนสเปน และเล่นเต็มเกมในวันที่แพ้จุดโทษโครเอเชีย ดีกรีระดับนี้ด้วยก็คงพูดได้เต็มปากว่าไม่ใช่นักเตะที่แย่แน่ๆ

บางคนด่วนตัดสินเขาไปแล้วจากค่าตัว จากอายุ จากความผิดหวังในดีลมโหฬารก่อนหน้า หรือจะจากอะไรก็แล้วแต่ มันน่าแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าเขายังไม่ทันได้ร่ำลาเพื่อนเก่าที่สตุ๊ตการ์ทเพื่อเดินทางมาเมอร์ซี่ย์ไซด์เลยด้วยซ้ำก็ถูกตัดสินเสียแล้ว

แน่นอนครับ เอ็นโดคงไม่ใช่การซื้อเพื่ออนาคตแน่ เขาอายุ 30 ปีแล้ว แต่ฟาบินโญ่ตัวหลักเดิมตามแผนการใช้งานก็จะอายุ 30 ในอีกสองเดือนข้างหน้านี้เช่นกันซึ่งผมเชื่อว่าคล็อปป์เตรียมหากองกลางตัวรับคนใหม่เข้าสู่ทีมในฤดูกาลหน้าที่แฟ้บจะอายุขึ้นแตะ 31 อยู่แล้ว

กับประสบการณ์ ฝีเท้า วินัย ความเข้าใจเกม ความฉลาดในการเล่น รวมทั้งประวัติบาดเจ็บที่ไม่เคยเจ็บหนักเลย ผมคิดว่า เอ็นโด คือตัวเลือกที่เยี่ยมกว่าที่คิดด้วยซ้ำหลังจากที่พลาดเป้าหมายอันดับหนึ่งและสองไป เพียงแต่ด้วยความที่มาจากต่างลีกก็คงลุ้นเอาใจช่วยให้เขาปรับตัวเข้ากับระบบของลิเวอร์พูลและเกมในอังกฤษได้เร็วๆ

ส่วนกองกลางตัวรับสำหรับอนาคตที่จะเข้ามาแย่งตำแหน่งกับ สเตฟาน บายเซติช นั้น การจะซื้อนักเตะในตำแหน่งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของฟุตบอลสมัยใหม่ที่ค่าตัวแต่ละคนทะยานไปไกลระดับร้อยล้านปอนด์เพื่ออนาคตข้างหน้าอีกหลายปีคงสุ่มสี่สุ่มห้าซื้อไม่ได้ แต่เชื่อเถิดว่าหลังจากปิดดีลเอ็นโดแล้ว ทีมงานก็มองหามิดฟิลด์ตัวรับสำหรับอนาคตต่อทันที ไม่ใช่หยุดเลยเสียเมื่อไหร่

ส่วนจะได้เขาคนนั้นมาในตลาดรอบนี้ไหมขึ้นอยู่กับความราบรื่นทั้งหลาย แต่ต้องไม่ลืมว่าความแตกต่างคือเวลานี้ลิเวอร์พูลไม่ได้ตกอยู่ในสถานะเป็นรองบนโต๊ะเจรจาเหมือน 2 สัปดาห์ก่อนที่ยังไม่ได้ตัวเอ็นโดอีกแล้ว นั่นหมายความว่าทีมมีเวลาพิจารณาเป้าหมายของตัวเองได้ละเอียดขึ้นเพื่อให้ได้คนที่ถูกต้องที่สุดในสัญญาที่จะผูกพันกันยาว 4-5 ปี

ตำแหน่งกองกลางตัวรับของทีมในตอนนี้มีทั้ง เอ็นโด และ บายเซติช ที่ฟิตสมบูรณ์เต็มที่แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องเร่งรัดซื้อมิดฟิลด์ตัวรับเข้ามาเพิ่มอีกถ้าไม่ใช่คนที่มั่นใจว่าถูกต้องจริงๆ

ตลาดนักเตะรอบนี้ยังเหลืออีก 9 วัน เราไม่รู้หรอกว่าหลังบ้านกำลังเดินเกมอย่างไรกันอยู่ อาจจะมีหรือไม่มีคนที่เข้ามาใหม่ หรือไม่แน่กองหลังตัวกลางสักคนอาจกำลังอยู่ในข่ายเตรียมเซ็นสัญญาอยู่ก็ได้

ในสองเกมที่ผ่านไป ลิเวอร์พูลยังคงมีจุดสลบที่น่าหวาดเสียวตรงการป้องกัน มีความผิดพลาดให้เห็นทั้งการเล่นส่วนตัวและการรักษาระยะยืนตำแหน่ง ปั่นป่วนเมื่อถูกเล่นงานจี้ใส่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งอย่างที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ถูกเชลซีรุมกินโต๊ะจนอ่วมในนัดแรก

ทุกเกมคู่ต่อสู้เหมือนจะหาช่องเล่นงานเกมรับของทีมได้เสมอ ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง โยนใส่ จี้ใส่ ตักบอลข้ามแดนกลาง เจาะพื้นที่ฮาล์ฟสเปซระหว่างฟูลแบ๊กกับเซนเตอร์ หรือบีบเร็วตั้งแต่แดนบน

เป็นโจทย์ที่คล็อปป์ยังแก้ไม่ตก ความมั่นคงในเกมรับยังห่างไกลจากจุดที่เคยยืนอยู่มาก แต่ความแข็งแกร่งโดยรวมของทีมที่มากขึ้น เกมรุกฟิตสมบูรณ์ทุกคน กองกลางสดใหม่ด้วยนักเตะที่มีสไตล์เข้าระบบอย่าง แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โซบอสไล รวมทั้งการเข้ามาของกองกลางตัวรับอาชีพอย่าง เอ็นโด น่าจะทำให้ปัญหาที่เกมรับต้องเจอลดน้อยลง มีตัวช่วยลดทอนความเสียหายลงไปได้

เกมที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค วันอาทิตย์คือด่านทดสอบสำคัญ ทั้งของ ลิเวอร์พูล และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

กับนิวคาสเซิ่ลนั้นแน่นอน พวกเขามีภารกิจและเป้าหมายยิ่งใหญ่ในระดับโค่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงจากบัลลังก์ บรรยากาศที่ไทน์ไซด์ยามนี้อบอวลด้วยความหวัง อุดมไปด้วยความตื่นเต้น อารมณ์ร่วมที่มีต่อเกมสูงมาก เสียงเชียร์ใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค คือนรกสำหรับผู้ไปเยือนโดยแท้ แอสตัน วิลล่า ในวันเปิดฤดูกาลคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด

กับลิเวอร์พูลก็เช่นกัน สถานะทีมชั้นนำยังคงไม่หายไปไหนแต่การหลุดพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้วคือคำถามตัวโตๆ ถึงมาตรฐานของทีมในปัจจุบันและความสามารถในการรับมือความท้าทายจากทีมอื่น

นิวคาสเซิ่ลที่ตีตั๋วไปเตะแชมเปี้ยนส์ ลีก แทนคือความท้าทายนั้น ทีมสาลิกาดงมีพื้นฐานรองรับพร้อมสรรพและกำลังอยู่ในเส้นกราฟขาขึ้น เกมที่รังเหย้าของ ทูน อาร์มี่ จึงเป็นอารมณ์หมายมั่นปั้นมืออย่างแรงกล้าของเจ้าถิ่นที่จะแสดงศักยภาพที่พวกเขามีออกมาให้เห็น

ผมเองก็อยากเห็น.. ยิ่งโดยเฉพาะลิเวอร์พูลยกพลไปเยือนด้วยขุมกำลังที่ดีที่สุด อยากรู้ว่าทีมชุดที่ดีที่สุดของคล็อปป์จะมีผลงานออกมาอย่างไรเมื่อต้องเจอกับผู้ท้าทายที่น่าจับตามองอย่างนิวคาสเซิ่ล

เหลืออีก 5 วันกว่าจะถึงเกมที่ไทน์ไซด์ ยังมีเวลาเรียกอารมณ์ร่วมอีกเพียบ ยิ่งใกล้วันเตะก็คงจะยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นๆ

ผมหวังว่าทั้งสองทีมจะอยู่ในสภาพความพร้อมที่ดีที่สุด จะได้เห็นหน้าเห็นหลังกันชัดๆ หน่อยว่าในยกแรกนี้ใครจะเป็นฝ่ายได้ชูมือ ที่สำคัญคือได้เห็นว่าช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมเป็นอย่างไรบ้างแล้วหลังจากที่ลิเวอร์พูลไม่แพ้นิวคาสเซิ่ลมา 13 นัดติดต่อกัน กินเวลานาน 8 ปี..

ตังกุย