แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แยกทางกับ เมสัน กรีนวู้ด เรียบร้อย พร้อมกับถอดบทเรียนหลายๆ อย่างให้รับรู้
อย่างแรกเลยคือ แฟนบอลส่วนหนึ่งในเมืองไทย (ย้ำว่า "ส่วนหนึ่ง") ยังขาดความเข้าใจในบริบทที่แตกต่างทางวัฒนธรรม และกฎหมายระหว่างบ้านเรากับบ้านเขา
เคสของเจ้าไม้เขียวบ้านเราอาจจะตีความเป็น "เรื่องผัวเมีย" คนอื่นไม่เกี่ยว เดี๋ยวเขาดีกันเรามันก็หมา...ว่าซั่น!
กอปรกับแฟนสาวคู่กรณีเกิดตั้งท้องกลายเป็นครอบครัวเดียวกันก็ยิ่งบังเกิดอารมณ์สงสาร ลงโทษเด็กมันแล้วจะเอาไรกิน บ้านแตกสาแหรกขาดจะทำไง
หากสำหรับคนอังกฤษ, ชาติตะวันตก ตลอดจนประเทศที่เจริญแล้วคงตอบกลับไปว่า "ไม่ใช่ปัญหาของฉัน"
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นการกระทำผิดที่ร้ายแรงมากๆ
เอ่ยตรงนี้ก็จะมีข้อเปรียบเทียบกับกองหน้าขวัญใจเด็กผีในอดีตอย่าง เอริก คันโตน่า กังฟูคิกใส่แฟนบอลขนาดนั้นยังกลับมาได้ เวลาต่อมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกต่างหาก
ก็ต่างกันตรงที่ก่อนอื่น ก็องโต้ เขาชดใช้ความผิดไปแล้วในรูปแบบโทษแบนยาว 8 เดือน ในขณะที่ กรีนวู้ด ยังแค่ถูกควบคุมตัวระหว่างไต่สวนคดี สุดท้ายพ้นโทษเพราะยกฟ้อง หาใช่จากคำตัดสินศาลใดๆ ไม่
อีกอย่าง คันโตน่า ทำร้ายในรูปแบบบันดาลโทสะไม่ต่างจากทะเลาะวิวาท ดาเมจมันเทียบไม่ได้เลยกับเจ้าไม้เขียวที่ทำร้ายร่างกายคนใกล้ตัว หรือที่ภาษากฎหมายใช้คำว่า "ความรุนแรงในครอบครัว" (Domestic Violence) นั่นล่ะฮะคุณผู้ชม
ด้วยเหตุที่ความผิดรุนแรง บวกกับพ้นโทษแบบไม่เคลียร์ ส่งผลให้บทลงเอยเป็นอย่างนี้
ในนามเด็กผี ยอมรับว่าเสียดายมากๆ กับ กรีนวู้ด เด็กปั้นพรสวรรค์ตัวจริงเสียงจริง มีแววรุ่งที่สุดนับจากหมดยุค "คลาส ออฟ'92"
ส่วนตัวมองว่าเหนือกว่ารุ่นพี่อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งจังหวะชีวิตดีฉกฉวยโอกาสแจ้งเกิดท่ามกลางวิกฤตดาวยิงนัดกันเดี้ยง ในทางกลับกัน กรีนวู้ด ได้รับการจับตามานาน ขนาดว่า โชเซ่ มูรินโญ่ อยากจะส่งลงน้ำเดี๋ยวนั้นเลยแต่ติดขัดด้วยกฎลูกหนังผู้ดีไม่อนุญาตนักเตะอายุต่ำกว่า 17 ลงสัมผัสเกมระดับชุดใหญ่
แล้วก็ใช่เลยครับที่ทุกคนสมควรได้รับ "โอกาสครั้งที่ 2" ทุกคนล้มได้ผิดพลาดกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนๆ นั้นเป็นบุคลากรที่เติบโต ปลุกปั้นกันมาในรั้วสโมสร
ถึงกระนั้นมันมีเส้นแบ่งบางๆ ระหว่าง "ให้โอกาส" กับ "เข้าข้าง" ต้องแยกกันให้ออก
สโมสรจะให้โอกาสช่วยเหลือ กรีนวู้ด เพราะเขาเป็น "คนของเรา" (ไม่ใช่วาทกรรมลอยๆ แฟนบอลอิงลิชก็เรียกกันว่า "One of our own") เพราะเขาเป็นกองหน้าพรสวรรค์ ยิ่งเมื่อทีมประสบปัญหาตำแหน่งนี้พอดี
ก็ต้องมองมุมกลับกัน ถ้าเรื่องราวไม่ได้เกิดขึ้นกับเจ้าไม้เขียว แต่เป็นคนที่แฟนๆ ยี้อย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ หรือตรงประเด็นเลยก็ อันโตนี่ ที่เผชิญคดีคล้ายกันพอดี พวกเราๆ ท่านๆ จะยังคงมีชุดความคิดแบบเดียวกันอีกหรือไม่?
หากคำตอบยังเหมือนเดิมก็จำเป็นต้องทำความเข้าใจภายใต้ชื่อสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ของคนๆ เดียว มีหลายคนข้องเกี่ยวรับ
ไม่ได้มีเพียงทีมฟุตบอลชาย หากยังทีทีมหญิง ตลอดจนบุคลากรเจ้าหน้าที่ทุกระดับชั้น แฟนบอลก็มีเป็นครอบครัว มีเยาวชนที่ควรจะได้เห็นต้นแบบที่ดี
เอาแค่ทีมเด็กในสโมสรนี่แหละ ด้วยดีกรีของ กรีนวู้ด แน่นอนว่าย่อมมีอ้ายแอ้ดรุ่นหลังๆ ยกให้เป็นไอดอลไม่มากก็น้อย แล้วถ้าเด็กๆ พวกนี้เห็นรุ่นพี่ที่ทำผิดยังรอดตัวลอยชายสบายๆ แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะได้อะไรรู้สึกอย่างไร??
ไม่น่าแปลกใจเลยที่กระแสตอบรับจากสังคมเมืองผู้ดีจะต่อต้านอย่างรุนแรง ไม่ว่าทีมหญิงปีศาจแดง (ข่าวว่าค้านทั้งทีม), ผู้ประกาศรายการหญิงชื่อดัง หรือกระทั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้ทรงเกียรติ์!
เพราะสโมสรฟุตบอลยังมีบริบทนอกสนาม ในฐานะองค์กร เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยเช่นกัน จึงไม่อาจปล่อยผ่านไปได้
น่าแปลกใจเช่นกันที่แฟนบอลบางประเทศกลับก่นด่าความคิดเห็นทำนองนี้ ทั้งๆ ที่มีมูลเหตุที่เข้าใจได้ และเหนือสิ่งอื่นใดพวกเขามีสิทธิ์ที่จะคิดเห็น
ต่อการตัดสินใจของสโมสร เท่าที่ติดตามผ่านสื่อก็ดูจะได้การตอบรับที่ดี ตัดสินใจไตร่ตรองถูกต้อง แม้นไม่ถูกใจใครหลายๆ คนก็ตามที
อย่าลืมว่าระหว่างที่ดาวเตะวัย 21 ถูกควบคุมตัวสอบสวนคดีนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงจ่ายค่าจ้างตามปกติ ถ้าจะใจร้ายสุดๆ ยกเลิกสัญญาตั้งแต่นั้นเลยก็ยังได้
ที่ประวิงเวลามาประกาศแยกทางเอาป่านนี้ก็เพราะว่ามีการสอบสวนภายใน พิจารณาเสียงตอบรับ ผลกระทบที่ตามมาเป็นอย่างดีแล้ว
ต่อแต่นี้ทางสโมสรยังจะให้ความช่วยเหลือ กรีนวู้ด แม้ไม่จ่ายค่าชดเชยไม่ให้มาซ้อมก็ยังคอยยื่นมือระหว่างขั้นตอนเสาะหาต้นสังกัดใหม่ ซึ่งดูทรงคงไม่ช่ในเกาะอังกฤษแน่ๆ
ลงเอยสโมสรตัดสินถูกต้องบนสถานการณ์แทบไม่เหลือทางเลือก แต่แน่นอนว่าไม่ถูกใจหลายๆ คน ก็จะต้องมีการตั้งคำถามกลับไปว่าแล้วจะเอายังไงถึงพอใจ?
คำตอบของคำถามมันมีอยู่ในตัว ถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ
ตราบใดที่มีการตัดสินใจ มีตัวเลือก ย่อมไม่มีวันทำให้ถูกใจได้ทุกๆ คน
"มอนตี้"