บทเรียนของ เมสัน กรีนวู้ด
1. ก่อนอื่นขอบอกว่าผมแอบหวังลึกๆ ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะยอมให้โอกาส เมสัน กรีนวู้ด แล้วดึงกลับมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้เลยนะครับ
ผมเชื่อเรื่องการให้โอกาสคนที่เคยทำผิดพลาด ในเมื่อคดีมันจบไปแล้ว (ศาลยกฟ้อง) แถมแฟนสาวที่โดนทำร้ายร่างกายก็ให้อภัยเยาแล้ว "ไอ้ไม้" ควรได้เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งใหม่กับปีศาจแดง
...ว่าแล้วก็แอบเคืองสโมสรที่ตัวเองเชียร์เล็กๆ ที่ปล่อยให้คาราคาซัง ไม่ยอมประกาศให้เด็ดขาดเสียทีว่าจะเอายังไงต่อเรื่องนี้
2. ตอนที่มีข่าวลือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะดึงดาวเตะตีนระเบิดผู้นี้กลับมาแล้วถูกแฟนบอลที่เป็นกุลสตรี หรือเด็กผีประเภทหญิงจำนวนหนึ่งต่อต้าน
สารภาพตามตรงว่าผมเองก็อยากแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้ประมาณว่า "มันจะอะไรนักหนา" หรือ "มึงเป็นเด็กผีตัวจริงหรือเปล่าคะ" ในเมื่อการกลับมาของดารารุ่งผู้นี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสโมสร
แต่ไม่สามารถแสดงความเห็นแบบนี้ออกไปตรงๆ ได้ ด้วยเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก อย่าโพสต์อะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ 5555
3.แฟนบอลจำนวนหนึ่งอาจไม่คิดมาก ขณะที่แฟนบอลอีกจำนวนหนึ่งก็อาจมองว่ามันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
เด็กผีส่วนใหญ่ในเมืองไทยอาจยักไหล่ไม่ซีเรียสได้ ขณะดียวกันเด็กผีที่อังกฤษอาจรับไม่ได้ มันคือความแตกต่างในเรื่องของวัฒนธรรมนะครับ
คล้ายๆ กับเรื่องเหยียดผิวนั่นแหละ
บ้านเราด่าเพื่อน หรือด่าคนอื่นว่า...ไอ้ดำ ไอ้เตี้ย ไอ้อ้วน ไอ้เหยิน เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่มีใครถือสา
แต่สำหรับฝรั่งที่วัฒนธรรมแตกต่างจากเรากลับมองว่ามันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
เรื่อง "ไอ้ไม้" เลี้ยงเมียด้วยลำแข้งก็เช่นกัน
ต่อให้ฝ่ายต่อต้านอาจมีจำนวนน้อยกว่า แต่ถึงแม้นจะเป็นเสียงส่วนน้อยก็มิอาจละเลย
เพราะพวกเขาและเธอก็คือแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนกัน
และอย่างที่หลายคนแสดงความเห็นนั่นแหละว่าถ้าเป็นบ้านเรา "ไอ้ไม้" คงกลับมาลงสนามไปนานแล้ว ผิดกับบ้านเขาที่ถือเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะยอมให้กลับมาง่ายๆ
นั่นเพราะวัฒนธรรมที่ต่างกัน มุมมองก็ย่อมต่างกันด้วย
ข้าวจายไหม (แบบนี้...โบ้ไม่ชอบ)
4. ฉะนั้น & ฉะนี้
ต่อเมื่อสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจแยกทางกับ เมสัน กรีนวู้ด ผมก็เห็นด้วย และเคารพในการตัดสินใจของสโมสร แม้จะแอบเสียดายความมหาประลัยของกองหน้าผู้นี้ก็ตาม
ลองไตร่ตรองดูนะครับ คือถึงแม้คดีความจะสิ้นสุดลงไปแล้ว แต่ภาพของการทำร้ายเพศตรงข้าม มันก็จะยังติดตัวเขาไปตลอด เฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมที่เขาละเอียดอ่อนต่อเรื่องประเภทนี้
เวลาลงสนาม เมสัน กรีนวู้ด ในเครื่องแบบปีศาจแดงจะถูกแฟนบอลคู่แข่งโห่ไล่ สบถด่า ล้อเลียน และตราหน้าทั้งในและนอกบ้าน
แล้วสโมสรก็จะถูกตำหนิไปด้วยว่าเลี้ยงนักเตะแบบนี้ไว้ในทีมจนเสื่อมเสียถึงภาพลักษณ์
5. อธิบายถึงข้อนี้ก็น่าจะเข้าใจกันแล้วนะครับทุกท่าน
หากจะโทษก็ต้องโทษตัวนักเตะเองนั่นแหละที่ปล่อยให้ด้านมืดเข้าครอบงำจนขาดสติ และไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ
ว่าแล้วก็ขอให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนของตัวเขาเอง และเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับคนอื่น
คนเราผิดพลาดกันได้ และควรได้รับโอกาสในการกลับตัวกลับใจก็จริง แต่เพราะอารมณ์ชั่ววูบตัวเดียวแท้ๆ ทำให้มันต้องลงเอยแบบนี้
สุดท้ายขออวยพรให้ เมสัน กรีนวู้ด โชคดี เมื่อได้รับบทเรียนราคาแพงไปแล้ว เมื่อกลับตัวกลับใจได้แล้ว และเมื่อย้ายทีมไปแล้วก็ขอให้ประสบความสำเร็จในอาชีพค้าแข้ง
เด็กผีส่วนใหญ่ (น่าจะ) เอาใจช่วย
บอ.บู๋