วิกฤตกองหน้าผี,อังเก้ ตัวตึงขนานแท้! 5 ประเด็น แมนยู บุกแพ้ สเปอร์ส สุดกร่อย

วิกฤตกองหน้าผี,อังเก้ ตัวตึงขนานแท้! 5 ประเด็น แมนยู บุกแพ้ สเปอร์ส สุดกร่อย
นัดเปิดซีซั่นว่าแย่แล้วเนื่องจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เฝ้าบ้านเฉือนหวิว วูล์ฟส์ 1-0 มาเกมนี้ ทีมของ เอริค เทน ฮาก แย่หนักกว่าเดิมอีกจากการออกไปแพ้ สเปอร์ส แบบหมดรูป 2-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สนาม ท๊อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ส.ค.

หลังโดน ไก่เดือยทอง จิกนำก่อนช่วงต้นครึ่งหลัง แทนที่ ผีแดง จะพลิกสถานการณ์ได้กลับกลายเป็นว่าพวกเขามาโดนประตูตอกฝาโลงในช่วงท้ายเกมเลยต้องพ่ายไปแบบงานกร่อยอย่างที่เห็น

1. ไก่ ปรับทัพลุ้นชนะเกมแรกของซีซั่น


สเปอร์ส ภายใต้การคุมทีมของ อังเก้ ปอสเตโคกลู โรเตชั่นนักเตะตัวจริงสองรายจากเกมบุกไปเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 2-2 ในเกมเปิดซีซั่นหมายกำชัยเป็นเกมแรกให้ได้ในรังตัวเอง

สำหรับสองตำแหน่งที่ว่าได้แก่ เปโดร ปอร์โร่ กับ ป๊าป ซาร์ ที่ได้เสียบแทน เอเมอร์สัน รอยัล กับ โอลิเวอร์ สคิปป์

2. ผีไม่เปลี่ยนโผแต่ไร้เงา แม็กไกวร์


แมนฯ ยูไนเต็ด วางใจใช้งาน 11 นักเตะชุดเดิมที่ประเดิมซีซั่นเฝ้าบ้านเฉือนชนะ วูล์ฟส์ 1-0 แบบเจียนอยู่เจียนไปเนื่องจากโดนทีม หมาป่า ส่องยิงเป็นชุดมากถึง 23 ครั้ง ดีที่ว่าทีมของ แกรี่ โอนีล ไม่มีความเด็ดขาด

อย่างไรก็ดี เกมนี้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไม่มีชื่อนั่งข้างสนามเหมือนเกมแรกแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธการย้ายไปค้าแข้งกับ เวสต์แฮม โดยตัดสินใจขออยู่สู้ต่อ แต่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเล็กน้อยซึ่งทำให้  เทน ฮาก เลือกใส่ชื่อสองนายทวารตัวสำรองนั่งอยู่ในซุ้มทั้ง ดีน เฮนเดอร์สัน และ ราเด็ค วีเท็ค

3. ครึ่งแรกผีมีทั้งดีและแย่

จบครึ่งแรก เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังแลดูน่าอึดอัดจังหวะต่างๆยังไม่ลงล็อกแม้ต้นเกมพวกเขาจะบุกใส่เจ้าบ้านได้ดี แต่ยังพังประตูไม่ได้ กระทั่งท้ายเกม ไก่เดือยทอง พลิกมาหาโอกาสทำเสียวได้อย่างถี่ยิบโดยเกือบได้ประตูนำด้วยซ้ำ แต่ถูกเสาและคานปฏิเสธ

ครบ 45 นาทีแรกที่ลอนดอน สถิติชี้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ส่องยิงมากกว่า 14:7 ครั้ง แต่ส่งบอลเข้ากรอบเท่ากับ สเปอร์ส 3 ครั้ง และครองบอลเป็นรองทีมเมืองกรุง 57:43% ซึ่งฟ้องว่าทีมของผู้จัดการทีมชาว ฮอลแลนด์ ยังเล่นกันได้แบบขาดๆเกินๆ ไม่ดีพออย่างที่แฟนบอลคาดหวัง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวะยิงประตูของพวกเขาเป็นไปอย่างสิ้นเปลืองโดยไม่อาจเปลี่ยนโอกาสให้เป็นสกอร์ได้ดีพอซึ่งถือเป็นปัญหาที่  เทน ฮาก ยังแก้ไม่ตกจากซีซั่นก่อนซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่เช็กบิลในลีกได้แค่ 58 ประตูเท่านั้นซึ่งแย่ที่สุดในบรรดาหกทีมอันดับแรกของตารางอันเป็นสิ่งที่กุนซือสกินเฮดตัดสินใจซื้อหากองหน้ามาแบ่งเบาภาระให้กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งซีซั่นก่อนกระทุ้งประตูแทบคนเดียว แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ ยังเจ็บหลังไม่พร้อมประเดิมสนาม

4. ครึ่งหลังผีตายสนิท

ปฏิเสธไม่ได้เด็ดขาดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สมควรมีแต้มกลับแมนเชสเตอร์ในเมื่อพวกเขาเริ่มเกมในครึ่งหลังด้วยการเสียประตูอย่างรวดเร็วให้กับ ซาร์ ในนาทีที่ 49

แม้หลังตาข่ายขาด แมนฯ ยูไนเต็ด จะพยายามเดินหน้าหาทางสอยประตูคืน แต่นอกเหนือจากลูกยิงปั่นโค้งของ อันโตนี่ แล้วก็แทบไม่มีจังหวะหวาดเสียวที่ชัดเจนอีกเลย แถมเป็น อ็องเดร โอนาน่า ที่ต้องทำงานหนักตัวเป็นเกลียวด้วยในช่วงท้าย ขณะที่ กูเญลโม่ วิคาริโอ นายประตู ไก่เดือยทอง เล่นไม่พลาดเลยจนส่งผลให้ สเปอร์ส มีความมั่นใจกระทั่งมายิงประตูเพิ่มได้ในช่วงท้ายเกมจากจังหวะที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ สกัดบอลเข้าประตูตัวเอง

แน่นอนว่าหากจะเลือกมองในแง่ดีสำหรับทีมของ เทน ฮาก แมนฯ ยูไนเต็ด หาโอกาสง้างยิงประตูรวมในเวลา 90 นาทีได้เหนือกว่า สเปอร์ส ที่ตัวเลข 22:17 แต่ทั้งสองทีมส่งบอลเข้ากรอบ 6 ครั้งเท่ากัน และเป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลได้เหนือกว่า 56:44%

ฉะนั้นแล้วจึงเห็นได้ชัดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาในการเจาะตาข่ายคู่แข่งอย่างแท้จริง และหากเกมไหน แรชฟอร์ด ไร้พิษสง แฟนบอล ผีแดง ก็แทบไม่ต้องตั้งความหวังกันเลยว่าเกมนั้นพวกเขาจะชนะฝ่ายตรงข้ามได้แบบสะดวกโยธิน

ตรงนี้เองที่ทำให้ เทน ฮาก เซ็นสัญญากับศูนย์หน้าคนใหม่ แต่กว่าจะได้รู้ดำรู้แดงกันว่า ฮอยลุนด์ จะตอบโจทย์หรือไม่ อย่างแรกต้องลุ้นกันดูว่าเขาจะฟิตพร้อมลงเล่นเกมต่อไปที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเฝ้าบ้านฟัดกับ ฟอเรสต์ ในวันที่ 26 ส.ค. หรือเปล่าซึ่งหากเป็นอย่างนั้น เทน ฮาก จะวางโผตัวจริงแบบไหน และจะถอดใครออกเพื่อเปิดทางให้อดีตกองหน้าทีม อตาลันต้า ลงไปกระซวกประตูซึ่งหากดาวยิงค่าตัวแพงตอบแทนสโมสรได้มันก็ดีไป แต่ถ้าไม่อย่างนั้นการซื้อครั้งนี้อดีตกุนซือทีม อาแจ็กซ์ มีหวังโดนเฉ่งปี๋ชัวร์เนื่องจากกูรูหลายรายมองว่าเม็ดเงิน 72 ล้านปอนด์ที่แลกกับหัวหอกวัย 20 ปีโดยที่เขายังแทบไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากพอก็ย่อมถือเป็นการลงทุนที่หน้ามืดอยู่เหมือนกัน

5. อังเก้ ผู้ปลดปล่อย


อย่างที่ทุกคนรู้กันว่า สเปอร์ส เป็นทีมที่แพ้ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว และกินน้ำใต้ศอก ผีแดง อยู่เสมอโดยจากการพะบู๊กันในเกม พรีเมียร์ลีก 9 นัดหลัง ไก่เดือยทอง ชนะแค่หนเดียวเท่านั้น (เสมอ 2 แพ้ 6)

จวบจนนัดล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนจะยัดเยียดความปราชัยให้กับทีมเมืองกรุงอีกตามเคยจากฟอร์มในครึ่งแรกที่ดูดีกว่า แต่ปัญหาคือทีมของ เทน ฮาก ไม่มีตัวจบสกอร์แบบโป้งปิดบัญชี และทำให้ทีมเจ้าบ้านเอาตัวรอดไปได้กระทั่ง ปอสเตโคกลู เป็นฝ่ายได้เฮก่อนช่วงต้นครึ่งหลังจากฝีเท้าของ  ซาร์

ประกอบกับ มาร์ติเนซ พลาดท่าสกัดบอลเข้าประตูตัวเองตอกย้ำชัยชนะแบบใสๆให้กับ ไก่เดือยทอง อังเก้ ก็กลายเป็นคนปลดล็อกผลงานที่เลวร้ายกับ ปีศาจแดง ให้ สเปอร์ส ได้สำเร็จโดยนับตั้งแต่บุกไปคว้าขัยที่ โรงละครแห่งความฝัน 6-1 เมื่อเดือนต.ค.2020 ทีมจากเมืองกรุงไม่เคยชนะ เร้ด เดวิลส์ อีกเลยในการต่อกรกันห้าครั้งหลัง (เสมอ 1 แพ้ 4)

ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากอดีตนายใหญ่ เซลติก จะสร้างความเริงร่าให้กับสาวก  ไก่เดือยทอง ได้แฮปปี้ทั้งๆที่ไม่มี แฮร์รี่ เคน ดาวซัลโวคนเก่งแล้ว กุนซือร่างอวบยังมีผลงานเกมเหย้าที่น่าทึ่งอีกด้วยเนื่องจากมันเป็นเกมลีกนัดที่ 49 แล้วที่เขาไม่เคยแพ้ในการคุมทีมลงเล่นเกมเหย้าไล่ตั้งแต่สมัยกุมบังเหียน โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส , เซลติก และมาถึง สเปอร์ส ในเกมล่าสุดที่พิชิต แมนฯ ยูไนเต็ด (ชนะ 41 เสมอ 8) โดยนัดสุดท้ายที่เขาคุมทีมแพ้คารังเป็นเกมที่ โยโกฮาม่า เสียท่าให้กับ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ในศึก เจลีก เดือนพ.ย.2020


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport