ทั้งทีมถูกกว่า มอยเซส ไกเซโด้!เปิดชื่อ 11 แข้งขั้นเทพพรีเมียร์ลีกค่าตัวย่อมเยา

ทั้งทีมถูกกว่า มอยเซส ไกเซโด้!เปิดชื่อ 11 แข้งขั้นเทพพรีเมียร์ลีกค่าตัวย่อมเยา
สถิติค่าตัวนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ถูกทำลายลงอีกครั้งหลังจาก มอยเซส ไกเซโด้ ย้ายจาก ไบรท์ตัน ไปร่วมทีม เชลซี ในราคาสูงลิบ 115 ล้านปอนด์ซึ่งทำให้กองกลางทีมชาติ เอกวาดอร์ กลายเป็นพ่อค้าแข้งค่าตัวแพงที่สุดคนใหม่ของลีกเมืองผู้ดี

ก่อนหน้านี้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มิดฟิลด์ สิงห์บลูส์ อีกรายถือครองตำแหน่งดังกล่าวอยู่ แต่ในที่สุด ไกเซโด้ ก็ก้าวขึ้นมาทดแทนสตาร์ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ขณะที่ แจ็ค กรีลิช ปีกทีม แมนฯ ซิตี้ และ ปอล ป็อกบา อดีตกองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด เคยรั้งตำแหน่งดังกล่าวมาก่อนเช่นกัน

ฉะนั้นแล้วจะเห็นได้ว่าค่าตัวนักเตะใน พรีเมียร์ลีก ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างน่าตกใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราจะย้อนไปเปรียบเทียบค่าตัวของ อลัน เชียเรอร์ ดาวซัลโวสูงสุดของ พรีเมียร์ลีก ซึ่ง แบล็คเบิร์น ฉุดเขามาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในราคาที่เป็นสถิติของประเทศแค่ 3.6 ล้านปอนด์เท่านั้น

อย่างไรก็ดี ว่ากันตามจริง ค่าตัวนักเตะบางรายในยุคนี้ยังไม่ถึงกับโหดอำมหิตเท่ากับดาวเตะใหม่ป้ายแดงวัย 21 ปีของ เชลซี แถมพวกเขาเหล่านั้นมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมใน พรีเมียร์ลีก ซะด้วย

และนี่คือทีมรวมดาราใน พรีเมียร์ลีก ยุคปัจจุบันที่มีค่าตัวรวมกันไม่เกิน 115 ล้านปอนด์

ผู้รักษาประตู : แบรนด์ เลโน่ - 8 ล้านปอนด์

หลังเสียตำแหน่งมือหนึ่งในทีม อาร์เซน่อล ให้กับ อารอน แรมสเดล เลโน่ ก็หันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับสโมสรร่วมกรุงลอนดอนด้วยค่าตัวแค่ 8 ล้านปอนด์ แถมนายทวารวัย 31 ปีกลายเป็นคีย์แมนของกุนซือ มาร์โก ซิลวา ไปแล้ว

และที่สำคัญ ซีซั่นที่ผ่านมามาแค่ อลิสซง เท่านั้นที่เซฟประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่า เลโน่ แฟนบอล เจ้าสัวน้อย จึงพากันตั้งความหวังว่าซีซั่นนี้นายทวารชาวเมืองไส้กรอกจะสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากขึ้นไปอีก

แบ็คขวา : คีแรน ทริปเปียร์ - 12 ล้านปอนด์

นับตั้งแต่ย้ายกลับมาค้าแข้งในบ้านเกิดกับ นิวคาสเซิ่ล ทริปเปียร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจซึ่งทำให้ค่าตัว 12 ล้านปอนด์ของเขาเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสุดขีดแม้อาจมีการตั้งคำถามว่าเขาจะยืนระยะได้อย่างคงเส้นคงวาไปได้อีกนานแค่ไหน

อย่างไรก็ตาม ในวัย 32 ปี ทริปเปียร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นฟูลแบ็คที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นที่ผ่านมาเนื่องจากเขาทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งเกมรุกและเกมรับทางกราบขวาจนส่งผลให้ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ผงาดขึ้นมาแย่งตำแหน่งท็อปโฟร์ของประเทศได้อย่างเต็มตัว

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : โยอาคิม อันเดอร์เซ่น - 15 ล้านปอนด์

หาก พาเลซ คิดขาย อันเดอร์เซ่น เพื่อทำกำไร พวกเขาจะได้ค่าตอบแทนอย่างมหาศาลแน่หลังควักจ่ายแค่ 15 ล้านปอนด์คว้ากองหลังทีมขาติ เดนมาร์ค มาจากทีม ลียง ในปี 2021 โดยก่อนที่จะลงเอยกับทีม อินทรีผงาดฟ้า ฟูแล่ม เคยยืมเขามาใช้งานเช่นกัน

ถึงขณะนี้ ปราการหลังวัย 27 ปีจับคู่กับ มาร์ค เกฮี ได้อย่างลงตัวกระทั่งกลายเป็นนักเตะคนโปรดของสาวก ดิ อีเกิ้ลส์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : อีธาน พินน็อค - 3 ล้านปอนด์

เบรนท์ฟอร์ด ถือเป็นอีกสโมสรที่เสาะหานักเตะฝีเท้าดีค่าตัวย่อมเยาได้อย่างน่ายกย่องในรอบหลายปีที่ผ่านมาโดยพวกเขาคว้า พินน็อค มาจากทีม บาร์นสลีย์ ในราคา 3 ล้านปอนด์เมื่อปี 2019

และแน่นอนว่ากองหลังที่เกิดใน อังกฤษ แต่เลือกรับใช้ทีมชาติ จาเมก้า ตามสัญชาติของพ่อตอบแทน เดอะ บีส์ ได้อย่างน่าประทับใจด้วยการพาทีมเลื่อนขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้ ขณะที่ตัวของเขาเองกลายเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟชั้นยอดของลีกอิงลิชเช่นกัน

แบ็คซ้าย : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - 8 ล้านปอนด์

ถือเป็นการซื้อที่คุ้มค่าอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเกมลูกหนังยุคใหม่เนื่องจาก ลิเวอร์พูล ไม่น่าจะหาแบ็คซ้ายค่าตัวย่อมเยาเหมือนกับ โรเบิร์ตสัน ได้อีกแล้ว

หลังจาก ฮัลล์ ซิตี้ ตกลงสู่ แชมเปี้ยนชิพ หงส์แดง ก็ไม่รีรอที่จะจ่ายเงิน 8 ล้านปอนด์แลกกับการได้ตัวขุนพลทีมชาติ สกอตแลนด์ ซึ่งรับใช้ถิ่น แอนฟิลด์ ไปแล้ว 267 นัด และพาทีมซิวแชมป์ไปแล้วเจ็ดรายการ

กองกลาง : จอห์น แม็คกินน์ - 2.5 ล้านปอนด์

เป็นเรื่องยากมากที่จะหามิดฟิลด์ใน พรีเมียร์ลีก ที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทเหมือนกับ แม็กกินน์ ซึ่งนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความขยันขันแข็งแล้ว เขายังเป็นนักเตะของ แอสตัน วิลล่า เพียงไม่กี่รายที่ยังรับใช้สโมสรมาตั้งแต่ยุคที่ยังเล่นอยู่ใน แชมเปี้ยนชิพ

ย้อนเวลากลับไปในปี 2018 วิลล่า ควักกระเป๋าแค่ 2.5 ล้านปอนด์เท่านั้นในการเซ็นสัญญากับพ่อค้าแข้งทีม ฮิเบอร์เนี่ยน และผ่านมาถึงวันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าบอร์ดของทีม สิงห์ผงาด แฮปปี้กับดีลนี้กันมากแค่ไหน

กองกลาง : ชูเอา ปาลินญ่า - 20 ล้านปอนด์

ฟูแล่ม ได้พ่อค้าแข้งชั้นดีมาเสริมทัพอีกรายในช่วงซัมเมอร์ที่แล้วภายใต้ค่าตัวเพียง 20 ล้านปอนด์ แถมตอนนี้ว่ากันว่าค่าตัวของมิดฟิลด์ทีมชาติ โปรตุเกส พุ่งขึ้นเป็น 90 ล้านปอนด์แล้ว

และแค่ซีซั่นแรกของถิ่น คราเวน คอตเทจ มิดฟิลด์ตัวรับก็สร้างสถิติชนะการเข้าปะทะเมื่อซีซั่นก่อน 147 ครั้งซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดเหนือกว่านักเตะทุกราย

ปีกขวา : คาโอรุ มิโตมะ - 2.5 ล้านปอนด์

ต้องยกนิ้วให้เลยว่าทีมงานแมวมองของ ไบรท์ตัน ไม่น่าจะมีสโมสรไหนใน พรีเมียร์ลีก เทียบได้อีกแล้วเมื่อพวกเขาคว้า มิโตมะ มาเล่นเป็นตัวจริง แถมดาวเตะทีมชาติ ญี่ปุ่น สร้างผลงานได้อย่างแจ่มแจ๋วไม่แพ้บรรดาสตาร์ดังซะด้วย

นอกจากจะเล่นได้อย่างวูบวาบชวนให้ตื่นตาตื่นใจแล้ว อดีตขุนพลทีม คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ยังมีผลงานที่คงเส้นคงวาตลอดทั้งซีซั่นที่ผ่านมาเช่นกันกระทั่งส่งผลให้ นกนางนวล ตีตั๋วลงเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปได้สำเร็จ

กองหน้า : ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ - 14.1 ล้านปอนด์

ตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนด้วยซ้ำในยุคของ ราล์ฟ รังนิก แต่สุดท้ายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ได้ตัวหัวหอกทีม ริเวอร์ เพลท มาร่วมชายคา

แม้จะยังไม่มีตำแหน่งในทีมตัวจริงของ เรือใบสีฟ้า แต่ดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า ชุดแชมป์โลกยังลุกจากม้านั่งข้างสนามไปสอยตาข่ายให้กับต้นสังกัดได้ในทุกรายการ 17 ประตูพาทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จ

กองหน้า : คัลลั่ม วิลสัน - 20 ล้านปอนด์

ก่อนถูกกลุ่มทุนจาก ซาอุดิ อาระเบีย เข้ามาเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ไม่อาจคว้านักเตะค่าตัวแพงมาร่วมทีมได้ และ วิลสัน เป็นนักเตะที่ สาลิกาดง ดึงมาเสริมทัพเช่นเดียวกับ มิเกล อัลมิรอน และ โชลินตอน ในยุคของ ไมค์ แอชลีย์ อดีตเจ้าของทีมคนก่อน

อย่างไรก็ดี ค่าตัว 20 ล้านปอนด์ของ วิลสัน จัดว่าถูกมากเมื่อเทียบผลงานของเขากับศูนย์หน้าราคาแพงในยุคนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะพ่อค้าแข้งอิงลิชซึ่งถูกมองว่ามีค่าตัวสูงเกินจริงด้วยกันทั้งนั้น แถมซีซั่นที่ผ่านมาศูนย์หน้าวัย 31 ปีโชว์ความร้อนแรงพังประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้ 18 ลูกพาทีมอีสานคว้าสิทธิ์ลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่

ปีกซ้าย : กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - 6 ล้านปอนด์

แม้ ณ ขณะนี้ อาร์เซน่อล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า จะใช้เงินเสริมทัพแบบไม่กลัวล่มจมหมายล้มความยิ่งใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ ลงให้ได้ แต่ก่อนหน้านั้นทีม ปืนโต ใช้จ่ายอย่างประหยัดมัธยัสถ์มาก่อน

และสำหรับดีลที่ว่านี้ไม่น่าจะมีใครเหนือไปกว่า มาร์ติเนลลี่ ซึ่งถูกดึงตัวมาจาก อิตัวโน่ ทีมโนเนมใน บราซิล ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์เมื่อปี 2019 และถึงตอนนี้ปีกวัย 22 ปีกลายเป็นสตาร์ระดับแนวหน้าของ พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport